บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 793

บทที่ 793 ทำให้แดนภวังค์ทมิฬสั่นคลอนอีกครั้ง

บทที่ 793 ทำให้แดนภวังค์ทมิฬสั่นคลอนอีกครั้ง

ใบหน้าของหลวงจีนจื่ออวิ๋นพลันกลายเป็นเคร่งเครียด ในขณะที่ตัวคนถูกกระตุ้นจนไขว้เขว

ในเวลาเดียวกัน ทุกคนในตำหนักพลันสังเกตเห็นความผิดปกติภายในธงเทพโลหิตผสานเช่นกัน

“ดูเหมือนว่า… ธงเทพโลหิตผสานจะอ่อนแอลงอีกแล้ว?” บางคนประหลาดใจและงุนงง เพราะพวกเขาพบว่าหากเทียบกับเมื่อก่อน ความแข็งแกร่งของธงเทพโลหิตผสานคล้ายจะอ่อนแอลงมากกว่าเดิมสิบเท่า!

“เจตจำนงของผู้ยิ่งใหญ่หายไปแล้ว!” ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีเช่นเวินเทียนซั่ว ชิงผิง ฮุ่ยจง โหลวฉีและคนอื่น ๆ ต่างตระหนักได้ถึงเปลี่ยนแปลง พวกเขาจึงตกใจอย่างมาก “เป็นไปได้หรือไม่ว่าทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของชายหนุ่มคนนั้น?”

“ลุงยง ท่านมองเห็นหรือไม่ว่าภายในนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงอันใดขึ้น” ไป๋หลี่เยียนจ้องมองด้วยความว่างเปล่าและรู้สึกงุนงง

“กระหม่อมมองไม่เห็นพ่ะย่ะค่ะ” ข้ารับใช้ชราส่ายศีรษะและขมวดคิ้ว “พลังที่สามารถบังคับเจตจำนงของผู้ยิ่งใหญ่ให้กลับไปนั้นยากแท้หยั่งถึง เว้นแต่… เฉินซีจะมีสมบัติลับที่น่าสะพรึงอย่างยิ่งอยู่ในครอบครอง”

“ถูกต้อง ไม่ว่าพลังของเขาจะท้าทายสวรรค์เพียงใด เขาก็จะถูกจำกัดด้วยการบ่มเพาะที่มี และย่อมไม่เพียงพอที่จะไปต่อกรกับเจตจำนงของผู้ยิ่งใหญ่เช่นนั้น …จากการคาดเดาของกระหม่อม เขาต้องครอบครองสมบัติที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!” ข้ารับใช้ชราอีกคนครุ่นคิดสั้น ๆ ก่อนที่จะกล่าวออกมาเช่นกัน

“สมบัติลับที่ไม่ธรรมดาหรือ?” ไป๋หลี่เยียนรู้สึกตกตะลึง จากนั้นหญิงสาวพลันพึมพำ “หรือว่ามันอาจจะเป็นสุดยอดสมบัติของนิกายกระบี่เก้าเรืองรอง ‘กระบี่วิเศษโกลาหล’? เป็นไปไม่ได้! นั่นเป็นสุดยอดศัสตราที่มีแต่ประมุขของนิกายกระบี่เก้าเรืองรองเท่านั้นที่สามารถครอบครองได้ และมันก็กุมชะตากรรมของทั้งนิกาย ดังนั้นเฉินซีจะได้รับของวิเศษเช่นนั้นมาได้อย่าง?”

โครม!

เมื่อทุกคนประหลาดใจและงุนงง จู่ ๆ พลันเกิดแรงสั่นสะเทือนที่รุนแรงจากภายในธงเทพโลหิตผสาน และทันใดนั้นมันก็สลายไปทีละน้อย

ปราณกระบี่อันแพรวพราวที่ดูจะสามารถทะลวงไปถึงสวรรค์ได้พุ่งออกมาอย่างแรง จากนั้นมันก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า และทะลุทะลวงไปโดยรอบ!

หลังจากนั้น ร่างสูงโปร่งได้ก้าวออกมาจากภายในธงเทพโลหิตผสานที่แหกลสลายท่ามกลางการจ้องมองที่ตกตะลึงของทุกคน เสื้อผ้าของชายหนุ่มพลิ้วไหวไปตามสายลม และเผยให้เห็นแววตาที่เฉียบคมดุสายฟ้า ร่างนี้คือเฉินซีนั่นเอง!

เมื่อพวกเขามองไปที่ร่างนี้ในเวลานี้ ทุกคนต่างตกตะลึงจนกล่าวอะไรไม่ออก และบรรยากาศก็กลายเป็นเงียบสนิท

ชายหนุ่มที่เห็นได้ชัดว่ามีการบ่มเพาะขอบเขตสถิตกายา กลับบีบบังคับเจตจำนงของผู้ยิ่งใหญ่ให้ล่าถอย และทำลายธงเทพโลหิตผสานที่เปรียบได้กับสมบัติอมตะ แล้วจะมีใครในโลกนี้ที่หยุดเขาได้อีก?

“เขาคือใครกันแน่?”

“จู่ ๆ ตัวตนที่ท้าทายสวรรค์เช่นนี้จะปรากฏตัวในแดนภวังค์ทมิฬได้อย่างไร?”

ในขณะนี้ แม้แต่เวินเทียนซั่ว ชิงผิง และผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีคนอื่น ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกข้องใจ ภายในใจของพวกเขาในยามนี้ไม่กล้านับว่าเฉินซีเป็นผู้เยาว์อีกต่อไป

“เจ้า…เจ้า…เจ้า…” เมื่อเทียบกับความตกใจของคนอื่น ๆ หลวงจีนจื่ออวิ๋นกลับรู้สึกตกใจจนสิ้นปัญญา ใบหน้าของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ และเผยความหวาดกลัวอย่างสุดซึ้งออกมา

ท่าทางของเขาดูราวกับกำลังมองภูตผี

ฟิ้ว!

ปราณกระบี่รังสรรค์เสี้ยวหนึ่งพลันสว่างวาบ ศีรษะของหลวงจีนจื่ออวิ๋นที่ยังไม่ได้สติจากความตกใจ ถูกตัดออกโดยตรง จนเลือดสด ๆ สาดกระเซ็นออกมา ซึ่งกระทั่งยามเสียชีวิต อีกฝ่ายยังไม่เข้าใจว่า ชายหนุ่มตรงหน้าทำทั้งหมดนี้ได้อย่างไร ไม่ว่าจะเค้นสมองคิดสักเท่าใดก็ตาม!

จนถึงตอนนี้ ผู้ครองบาปมหันต์ที่เป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีทั้งแปดคน และได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในร้อยอันดับแรกของเทียบอันดับวายร้าย ล้วนถูกกำจัดออกไปจนหมดสิ้น!

และผู้ทำเรื่องราวทั้งหมดนี้คือเฉินซีคนเดียวเท่านั้น!

ความสำเร็จในการต่อสู้ที่วิเศษและงดงามเช่นนี้ ถือได้ว่าสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่ เพราะตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบัน มันเรียกว่าได้สั่นสะเทือนไปทั้งใต้หล้าเลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็นสถิติที่ไม่เคยมีผู้ใดทำได้ และไม่มีวันจะทำได้อีกต่อไป

ทุกคนต่างก็เชื่อมั่นว่า หากข่าวการต่อสู้ครั้งนี้ถูกแพร่ออกไป แดนภวังค์ทมิฬทั้งหมดจะต้องตกอยู่ในความโกลาหลครั้งใหญ่

ถึงแม้การต่อสู้จะสิ้นสุดลงแล้ว แต่ท้องฟ้ายังคงคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือดที่ฉุนกึกและหนาแน่น

ทว่าเฉินซีกลับไม่นิ่งนอนใจ เขาใช้เคล็ดวิชาเพื่อล้างบางพลังแห่งบาปที่ยังหลงเหลืออยู่จนหมด จากนั้นชายหนุ่มก็กวาดแขนเสื้อออกไป ทำการเก็บชิ้นส่วนของธงเทพโลหิตผสานที่แตกหักทั้งหมด

หลังจากทำสิ่งนี้เสร็จแล้ว เฉินซีจึงเก็บยันต์ศัสตราและร่อนลงมาที่พื้น

พรึ่บ!

ผู้คนต่างเปิดเส้นทางให้เฉินซีอย่างพร้อมเพรียงกัน ใบหน้าของพวกเขาทุกคนเต็มไปด้วยความเคารพจากก้นบึ้งของหัวใจ และทำทีราวกับเป็นข้าราชบริพาร ผู้กำลังรอต้อนรับราชาด้วยความเคารพ!

ด้วยทุกคนต่างรู้ดีว่า หากไม่ใช่เพราะเฉินซี พวกเขาคงตายไปนานแล้ว และคงไม่อาจมีชีวิตอยู่รอดปลอดภัยจนถึงตอนนี้

ไม่มีอันใดน่าอายที่จะยอมรับสิ่งนี้ ถึงอย่างไร พวกมันคือแปดผู้ครองบาปมหันต์ซึ่งมีการบ่มเพาะขอบเขตเซียนปฐพี! ถึงขนาดที่พวกมันทั้งหมดไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหว ก็สามารถบดขยี้ทุกคนที่นี่เหมือนมดได้แล้ว!

ดังนั้นความเคารพและความกตัญญูที่พวกเขารู้สึกต่อเฉินซีจึงมาจากใจจริง

“ที่ทุกคนในตำหนักของข้าสามารถรอดชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้ได้ ทั้งหมดนี้ต้องขอบพระคุณผู้กล้าเฉินที่ช่วยชีวิต …ท่านโปรดยอมรับความเคารพของข้าด้วย” เวินเทียนซั่วก้าวไปข้างหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง จากนั้นจึงโค้งคำนับ

“ขอบคุณผู้กล้าเฉิน สำหรับพระคุณที่ช่วยชีวิต!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]