บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 809

บทที่ 809 โจรชั่วปรากฏตัว

บทที่ 809 โจรชั่วปรากฏตัว

บ่อเกิดแห่งบาป!

ดวงตาของเฉินซีหรี่ลง เขาทั้งประหลาดใจและสงสัยเล็กน้อย

กลิ่นอายของกระท่อมมุงจากหลังนี้ยิ่งใหญ่และศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นบ่อเกิดแห่งบาปจะถูกผนึกอยู่ภายในนั้นได้อย่างไร?

นอกจากนี้เฉินซียังทราบดีว่า สิ่งที่เรียกว่าบ่อเกิดแห่งบาปนั้น เป็นที่มาของกลียุค หายนะ หรือภัยพิบัติทั้งปวง และมันถูกควบแน่นจากพลังชั่วร้าย คำสาปแช่ง บาป และสิ่งอื่น ๆ

เช่นเดียวกับมหาเต๋าของฟ้าดิน บาปก็เป็นพลังแก่นแท้ประเภทหนึ่งเช่นกัน ตราบใดที่สรรพชีวิตทั้งหมดในโลกนี้มีสติปัญญา หรือหยินและหยางยังคงมีอยู่ในโลก เมื่อนั้นพลังบาปก็จะไม่มีวันหมดไป

เช่นเดียวกับแสงสว่างและความมืดที่ส่งเสริมกันและกัน หยินกับหยางจะต่อต้านกันและกัน ความดีกับความชั่วจะต่อสู้กันและกัน การดำรงอยู่ของบาปเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความชอบธรรม และถอนรากถอนโคนได้ยาก

แต่พลังประเภทนี้ไม่ได้รับการยอมรับจากเต๋าแห่งสวรรค์ และถูกปฏิเสธจากผู้คนในโลก ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พลังแก่นแท้นี้ถูกผู้ชอบธรรมของโลกปราบปรามไว้ และถูกฝังอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์มานานแสนนาน

สรุปแล้ว บ่อเกิดแห่งบาปนั้นไร้ตัวตนยิ่งนัก อีกทั้งมันคงอยู่ในหัวใจของสิ่งชีวิตนับไม่ถ้วน ภายในทุกสรรพสิ่งในโลก ซึ่งเมื่อมันหลอมรวมเข้าด้วยกัน พลังของมันก็เพียงพอจะกลบฝังโลกได้!

ในตอนนี้ หมีทองตัวน้อยได้กล่าวว่า บ่อเกิดแห่งบาปถูกผนึกไว้ภายในกระท่อมมุงจากหลังนี้ แล้วเฉินซีจะไม่ตกใจได้อย่างไร?

“อ้อ เอาเป็นว่า แค่อย่าเปิดมันก็พอ” หมีน้อยเกาหัวและหัวเราะเบา ๆ หลังจากที่เห็นเฉินซียังคงเงียบ “จริงสิ ศิษย์พี่ เหตุใดท่านเพิ่งมาตอนนี้? ข้ารอท่านมานานแล้ว”

ขณะที่กล่าว มันยื่นอุ้งเท้าออกมาและเริ่มนับ “ร้อยปี? หนึ่งพันปี? หมื่นปี? โอ้ มันนานเกินไป จนข้าลืมไปแล้ว”

เฉินซีจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้างและกล่าวด้วยความประหลาดใจว่า “ใครคือศิษย์พี่ของเจ้า?”

หมีน้อยประหลาดใจมากขึ้น แล้วกล่าวว่า “ศิษย์พี่ ไม่ใช่ว่าท่านอาจารย์ขอให้ท่านมารับข้าหรือ?”

เฉินซีรู้สึกวิงเวียน และถามด้วยความงุนงงว่า “อาจารย์คนไหนหรือ?”

เฉินซีก็มีอาจารย์ของเขาเอง วิปลาสหลิ่วก็นับว่าอาจารย์คนหนึ่ง ปรมาจารย์แห่งเคหาบ่มเพาะฝูซีก็ถือได้ว่าเป็นอีกคนหนึ่ง แต่เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาจะมีศิษย์น้องที่โง่งมเช่นนี้

“โอ้ ไม่เป็นไร ข้าจะไขโซ่ตรวนสวรรค์จองจำเต๋านี้เสียก่อน แล้วค่อยพูดคุยกับศิษย์พี่ในภายหลัง” ขณะที่หมีน้อยกล่าว มันก็ยกกุญแจนภาขึ้นและไขไปที่แม่กุญแจสีทองที่คอของมัน แต่หลังจากนั้น ดูเหมือนว่ามันจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง และหยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่ทันที ก่อนที่มันจะกล่าวด้วยสีหน้าวิตก “ศิษย์พี่ รีบหลบไปเร็วเข้า!”

เฉินซีกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แต่ไม่เห็นสิ่งผิดปกติใด ๆ จากนั้นเขาก็กล่าวว่า “เหตุใดข้าต้องซ่อนตัวด้วย”

เมื่อกล่าวจบ เขาพลันรู้สึกว่ามีบางอย่างวาบขึ้นมาต่อหน้าต่อตา จากนั้นร่างกายของชายหนุ่มก็ถูกพลังประหลาดห่อหุ้มไว้ ทำให้ร่างลอยขึ้นไปอย่างควบคุมไม่ได้ และถูกดูดเข้าไปในมิติบางอย่าง!

ความรู้สึกนั้นมหัศจรรย์ยิ่งนัก มันเหมือนกับว่ามิติถูกเปิดออกอย่างแรงภายในพื้นที่เล็ก ๆ ซึ่งตัวเขาและหมีน้อยก็ยืนอยู่ในมิตินี้

“เจ้า…” เฉินซียังกล่าวไม่ทันจบ อุ้งเท้าขนปุยก็ปิดปากเขาไว้แน่น

“ศิษย์พี่ คนชั่วผู้นั้นกลับมาอีกแล้ว” หมีน้อยเกาะที่คอของเฉินซี และร่างที่สูงสิบสองชุ่นของมันก็ห้อยอยู่บนคอเขา ทำให้มันดูเหมือนตุ๊กตาขนปุย จากนั้นมันก็กล่าวอย่างมีลับลงคมนัยว่า “ท่านห้ามพูดเป็นอันขาด เพราะแม้แต่ข้าก็ไม่ใช่คู่มือของมัน หากเราถูกสังเกตเห็น”

ในที่สุด เฉินซีก็ยืนยันได้สิ่งหนึ่ง หมีน้อยตัวนี้ดูเหมือนจะมีชีวิตอยู่มานานมาก แต่นิสัยของมันกลับโง่เขลาและไร้เดียงสายิ่ง ซึ่งหากกล่าวตามตรงแล้ว หมีน้อยอาจจะมีจิตใจที่ไร้เดียงสาเหมือนเด็ก แต่ถ้ากล่าวตามสัจจริงก็คือเป็นคนง่าย ๆ ซึ่งหมีน้อยตัวนี้ก็เหมือนกับอาซิ่วไม่มีผิด

ฟิ้ว!

ทันใดนั้น เงาดำก็พุ่งออกมาจากบันไดและมาถึงหน้ากระท่อมมุงจากทันที

ร่างนี้ดูเหมือนเทพเจ้าที่ถูกอาบด้วยเปลวเพลิง ซึ่งล้อมรอบด้วยแสงเพลิง เผยให้เห็นเพียงดวงตาที่เปล่งประกายแวววาว ซึ่งพร่างพราวยิ่งกว่าแสงของเปลวเพลิง และดูราวร่างนี้อาจจะเผาไหม้ได้แม้แต่ท้องฟ้า หรือทำให้โลกต้องอยู่ในความตื่นตะลึง

แม้เฉินซีจะมีการบ่มเพาะขอบเขตสถิตกายาแล้ว แต่หัวใจของเขาก็ยังคงบีบรัดแน่นและรู้สึกหายใจไม่ออก

“ในที่สุดมันปรากฏขึ้น ข้าอยู่ที่นี่มาตั้งหลายวัน และค้นหาตำหนักทั้งหลาย แต่กลับไม่พบที่ตั้งของขุมสมบัติที่แท้จริง ไม่นึกเลยว่ามันจะเป็นที่นี่” ชายผู้อาบไปด้วยเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์เริ่มหัวเราะออกมา เมื่อเขาเห็นอารามนักพรตเต๋าที่มีลักษณะเป็นกระท่อมมุงจาก เสียงหัวเราะนี้ทั้งเย็นชา ไม่แยแส และลึกล้ำ ในขณะที่เปลวเพลิงสีแดงเข้มในดวงตาของเจ้าตัวก็สว่างวาบ ราวกับสามารถเผาผลาญทุกสิ่งในใต้หล้าได้

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ หัวใจของเฉินซีพลันสั่นไหว จากนั้นเขาก็นึกถึงความพินาศที่เห็นมาตลอดทาง และอดไม่ได้ที่จะคิดกับตัวเอง “ดูเหมือนว่าไอ้สารเลวนี่จะเป็นคนปล้นสะดมตำหนักและสวนสมุนไพรต่าง ๆ”

แต่ที่น่าตกใจที่สุดก็คือ หมีน้อยได้ใช้เคล็ดวิชาบางอย่างที่ลึกล้ำ เพื่อปกปิดร่างกายและกลิ่นอายของพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ชายที่ทรงพลังซึ่งอาบไปด้วยเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ ไม่อาจสังเกตเห็นการมีอยู่ของพวกเขาได้!

“ฮึ่ม! ข้ารู้ว่าแท่นบวงสรวงเต๋าไม่ธรรมดา และหากมันไม่ได้รับการปกป้องจากกลิ่นอายของมหาเต๋าที่หลงเหลือจากยุคบรรพกาล สิ่งนี้จะรอดพ้นสายตาไปได้อย่างไร?” ชายที่ถูกอาบไล้ด้วยเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ได้ก้าวมาถึงกระท่อมมุงจาก และลดสายตาลง มองแม่กุญแจเหล็กที่มีรอยสนิมบนประตูที่ปิดแน่น ก่อนจะพึมพำว่า “ขุมสมบัติของตำหนักเต๋านภาน่าจะอยู่ภายในนี้ เมื่อข้าได้รับมัน ข้าจะสามารถเตรียมการทั้งหมดก่อนที่จะเกิดกลียุคของภพทั้งสาม ในเวลานั้น ชาวแดนภวังค์ทมิฬก็ได้แต่รอถูกสังหาร และถูกปกครอง!”

ในขณะที่กล่าว อีกฝ่ายก็ยื่นมือออกไป ทำให้เกิดประกายเพลิงมหาศาลพุ่งออกมาจากร่าง และเข้าปกคลุมประตูที่ปิดแน่นตรงหน้า จากนั้นมันก็เผาไหม้อย่างรุนแรง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]