บทที่ 816 เริ่มการทดสอบ
บทที่ 816 เริ่มการทดสอบ
ภายในห้องที่ถูกตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม เฉินซีมองไปยังแผ่นโลหะสีทองอร่ามซึ่งคล้ายกับแผ่นตราที่อยู่ในมือของตน จึงทำให้เขาอดประหลาดใจไม่ได้
มันคือแผ่นป้ายธรรมเทพที่มีขนาดเท่าฝ่ามือของทารก พื้นผิวของมันปกคลุมด้วยริ้วลายขนานสีทองที่ซับซ้อนและล้ำลึก ซึ่งนับเป็นสมบัติพิสดารที่สั่งสมพลังธรรมเทพเอาไว้
พิภพยันต์อักขระเต็มไปด้วยสัตว์อสูรจักรวาลจำนวนมาก ทุกครั้งที่สังหารสัตว์อสูรเหล่านี้ได้ ก็จะได้รับพลังธรรมเทพตามความแข็งแกร่งของพวกมัน โดยตัวเลขค่าพลังนั้นจะปรากฏขึ้นบนแผ่นป้ายธรรมเทพนี้
แน่นอนว่ายังมีหนทางอื่นอีกมากมายเพื่อให้ได้พลังธรรมเทพมาครอบครอง เช่น การทำนุบำรุงหอคอยยันต์อักขระ การคุ้มกันกลุ่มพ่อค้า การทำภารกิจของโถงอันดับที่เก้าให้สำเร็จ รวมถึงภารกิจอื่น ๆ อีกมากมาย
สรุปแล้ว พิภพยันต์อักขระนั้นแตกต่างจากแดนภวังค์ทมิฬโดยสิ้นเชิง พลังธรรมเทพเป็นสิ่งเดียวที่ใช้ตัดสินว่าผู้บ่มเพาะจะสามารถอยู่รอดที่นี่ได้หรือไม่!
เหตุผลที่เป็นเช่นนี้นั้นง่ายดายมาก มันเป็นเพราะฟ้าดินภายในพิภพยันต์อักขระนั้นไร้ซึ่งปราณวิญญาณทั้งปวง
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าปราณวิญญาณสำคัญเพียงไร มันเชื่อมโยงกับการบ่มเพาะ ระดับความแข็งแกร่งของผู้เยี่ยมยุทธ์ และในขณะเดียวกัน มันก็เป็นแหล่งพลังเพียงแห่งเดียวที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งในการต่อสู้!
ผู้บ่มเพาะจะอยู่รอดได้อย่างไรหากปราศจากปราณวิญญาณ? ไม่ต้องพูดถึงการเรียกลมเรียกฝน หรือการกำจัดอสูรเลยด้วยซ้ำ
ทั้งหมดนี้ทำให้เฉินซีเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าเหตุใดเหลียงปิงถึงกล่าวว่า สิ่งเดียวที่เขาจะต้องกังวลเมื่ออยู่ภายใต้กฎแห่งเต๋าสวรรค์ภายในพิภพยันต์อักขระก็คือการเอาชีวิตรอด
อันที่จริงแล้ว หากปราศจากปราณวิญญาณ มันก็ไม่ต่างอะไรกับการที่ผู้บ่มเพาะขาดที่พึ่งพาอันสำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุด ส่งผลให้การรักษาชีวิตรอดกลายเป็นสิ่งซึ่งมีความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง
นอกจากนี้ พิภพยันต์อักขระยังไม่มีสินแร่ที่คล้ายคลึงกับผลึกโลหิตจ้าววิญญาณเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นสถานการณ์ของผู้ขัดเกลากายาในที่แห่งนี้ จึงไม่ต่างจากผู้บ่มเพาะปราณแท้แต่อย่างไร
กล่าวโดยสังเขปก็คือ กฎแห่งเต๋าสวรรค์ในพิภพยันต์อักขระได้กะเกณฑ์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่า พิภพซึ่งมีเอกลักษณ์ยิ่งกว่าใครนี้ เมื่อถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นแนวหน้าของภพทั้งสามแล้ว จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร
และถึงแม้พิภพยันต์อักขระจะไม่มีปราณวิญญาณ หากทว่ามันก็มีแสงทองแห่งคุณธรรม …หรือที่ในที่แห่งนี้เรียกขานว่าพลังธรรมเทพ!
พลังธรรมเทพนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นสิ่งเฉพาะของพิภพยันต์อักขระซึ่งแตกต่างจากโลกอื่น ๆ เพราะในดินแดนอื่นนั้น การรวบรวมพลังธรรมเทพสามารถทำได้โดยสังหารผู้ครองบาปมหันต์หรือช่วยเหลือคนธรรมดาให้พ้นเภทภัยเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นหนทางที่ตายตัว ไร้ซึ่งการเปลี่ยนแปลงใด ดังนั้นจึงมีผู้บ่มเพาะเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถทำได้
เพราะอย่างไรเสีย ผู้ครองบาปมหันต์ก็หาใช่คนที่ใคร ๆ จะเดินเข้าไปฆ่าได้โดยง่าย ส่วนการช่วยเหลือคนธรรมดาจากเภทภัยต่าง ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องที่มีโอกาสกระทำได้ตลอดเวลา
ถึงกระนั้น การจะรวบรวมพลังธรรมนี้ก็ล้วนกลายเป็นเรื่องง่ายเมื่ออยู่ภายในพิภพยันต์อักขระ
เนื่องจากที่นี่มีสัตว์อสูรจักรวาลจำนวนมาก ทั้งยังมีหอคอยยันต์อักขระเต็มไปหมดให้ได้บูรณะซ่อมแซม รวมไปถึงภารกิจของโถงอันดับที่เก้าที่กองพะเนินจนไม่รู้ว่าหมดสิ้นเมื่อไร ในพิภพยันต์อักขระแห่งนี้ มีสิ่งมากมายให้เลือกทำเพื่อแลกกับพลังธรรมเทพ!
แม้ว่าดินแดนแห่งนี้จะอยู่ท่ามกลางโลกกว่าสามพันแห่ง และดินแดนอีกนับไม่ถ้วน ทว่าไม่อาจมีสถานที่ใดจะเป็นได้ดั่งพิภพยันต์อักขระ
สิ่งที่แปลกประหลาดยิ่งกว่านั้นก็คือ พลังธรรมเทพสามารถใช้แลกเปลี่ยนเป็นเงินตราภายในพิภพยันต์อักขระได้!
หากสิ่งนี้เกิดขึ้นในแดนภวังค์ทมิฬ แน่นอนว่ามันไม่ต่างอะไรจากการหลอกลวงสวรรค์ หากถูกตรวจพบเมื่อไร คนผู้นั้นจะถูกกำจัดในทันที
เนื่องจากพลังธรรมเทพเป็นการตัดสินรูปแบบหนึ่งโดยเต๋าแห่งสวรรค์ ผู้มีพลังธรรมเทพสูงจะได้รับการคุ้มครองจากเต๋าแห่งสวรรค์ ขณะเดียวกันผู้ไร้พลังธรรมเทพก็จะมีชีวิตอยู่อย่างคนปกติธรรมดา ทว่าหากเป็นผู้ครองบาปมหันต์แล้ว ก็จะได้รับการลงทัณฑ์จากเต๋าแห่งสวรรค์
นี่ถือเป็นกฎประเภทหนึ่ง ทั้งยังเป็นหนึ่งในเกียรติภูมิที่ได้รับจากเต๋าแห่งสวรรค์ การดำรงอยู่ของธรรมเทพนั้นเปรียบเสมือนพรจากสวรรค์ซึ่งแผ่ไพศาลให้แก่ทุกสรรพสิ่งในโลกา และยังเป็นสิ่งสงวนซึ่งไม่สามารถล่วงล้ำก้ำเกิน มันจึงทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า สิ่งที่ล้ำค่าเช่นนี้จะนำมันมาใช้แทนเงินตราได้อย่างไร?
ทว่าภายในพิภพยันต์อักขระ พลังธรรมเทพได้ปลดโซ่ตรวนแห่งการเป็นของต้องสงวนทิ้งไป ไม่เพียงสามารถนำมันมาใช้จำหน่ายจ่ายโอนกันไปมาได้ แต่ยังสามารถใช้เป็นเงินตราเพื่อจับจ่ายใช้สอยสิ่งที่จำเป็นได้อีกด้วย
และข้อสำคัญที่สุดก็คือ ปริมาณของพลังธรรมเทพที่ครอบครองไว้นั้น สัมพันธ์กับผู้บ่มเพาะที่อยู่ในดินแดนแห่งนี้อย่างใกล้ชิดมาก
มีเพียงพลังธรรมเทพเท่านั้นที่สามารถนำไปแลกเปลี่ยนกับวารีวิญญาณและศิลาอมตะ นอกจากนี้มันยังเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงสถานะและความสามารถของผู้บ่มเพาะแต่ละคน ซึ่งมีเพียงผู้มีพลังธรรมเทพสูงเท่านั้นที่สามารถเข้าออกยังสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย ไม่เว้นแม้แต่นครหลวงสี่จักรพรรดิ!
หลังจากที่เฉินซีพินิจพิจารณาอยู่นาน เขาก็เก็บแผ่นป้ายธรรมเทพไว้อย่างระมัดระวัง
หากสิ่งนี้สูญหายไปแล้วละก็ นั่นเท่ากับว่าเขาได้สูญเสียพลังธรรมเทพทั้งหมดที่สั่งสมมา ซึ่งก็หมายความว่าชายหนุ่มสูญเสียรากฐานแห่งพลังที่จะทำให้เขาอยู่รอดในพิภพยันต์อักขระแห่งนี้ไป
…
“นายน้อยเฉินซี ท่านจำเป็นต้องผ่านบททดสอบขั้นต่อไปเพื่อตัดสินว่าท่านจะได้ไปเริ่มต้นที่หมู่บ้านไหน” หมัวเจียงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ตอนนี้ เฉินซีเข้าใจแล้วว่าผู้บ่มเพาะคนใดที่เข้าสู่พิภพยันต์อักขระเป็นครั้งแรก หลังจากที่ได้รับแผ่นป้ายธรรมเทพแล้ว พวกเขาก็จะต้องเริ่มบ่มเพาะจากหมู่บ้านซึ่งอยู่รอบนอกสุดของพิภพยันต์อักขระ
สำหรับผู้ต้องการเข้าไปภายในเมือง พวกเขาก็จะต้องช่วยชาวบ้านในหมู่บ้านกำจัดสัตว์อสูรจักรวาล ซ่อมบำรุงหอคอยยันต์อักขระ รวมถึงงานอื่น ๆ อีกมากมาย โดยที่ผู้บ่มเพาะจะสามารถเข้าไปในเมืองได้ก็ต่อเมื่อสามารถรวบรวมพลังธรรมเทพได้ในปริมาณที่มากพอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...