บทที่ 828 ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ
บทที่ 828 ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ
สายเลือดสาดกระเซ็นต่อหน้าต่อตานาง ประหนึ่งน้ำตกที่หลั่งไหลลงมา
เสียงกรีดร้องของหญิงงามหยุดลงทันที นางกำลังจ้องมองเหตุการณ์นี้อย่างเหม่อลอยขณะพึมพำว่า “สวรรค์! ท่านดูจะไม่ต้องการเห็นข้าตายจริง ๆ…”
เฉินซีเพียงยิ้มอยู่ในระยะไกล ก่อนจะหันหลังกลับมาเพื่อพุ่งเข้าหาสัตว์อสูรจักรวาลที่อยู่ใกล้เคียง ในขณะที่เคลื่อนไหว มือของเขาได้เหวี่ยงออกไปราวกับว่ากำลังผลักภูเขา และทำการบดขยี้ทุกอย่างที่อยู่รอบตัว!
“เฮ้! น้องชาย ความแข็งแกร่งของเจ้าไม่เลวเลย!” หญิงงามได้สติจากอาการตกใจ จากนั้นดวงตาของนางพลันจับจ้องไปที่เฉินซี แล้วจึงกำดาบจันทร์เสี้ยวในมือแน่นพร้อมกับพุ่งเข้าไปต่อสู้เคียงข้างชายหนุ่ม
ผมที่สวยงามและนุ่มสลวยของหญิงสาวถูกมัดเป็นมวย ผิวกายของนางเป็นสีขาวดุจหยกเนื้อดี และดวงตาที่เรียวเล็กของเจ้าตัวก็สดใสมีเสน่ห์ นางสวมกระโปรงรัดรูปสีเขียวน้ำทะเล ทุกการเคลื่อนไหวที่หญิงสาวทำนั้นล้วนแสดงถึงความเป็นอิสตรีออกมาอย่างชัดเจน
“สัตว์อสูรจักรวาลที่อยู่ใกล้เคียงนั้นแข็งแกร่งมาก ข้าแนะนำให้เจ้าหาทางกลับโดยเร็วที่สุด เพื่อที่เจ้าจะได้หนีกลับเข้าเมือง หากประสบกับอันตราย” เฉินซีกล่าว
หญิงงามผู้นี้แข็งแกร่งอย่างแท้จริง และนางได้บรรลุขอบเขตเซียนปฐพีแล้ว แต่ภายในกองทัพสัตว์อสูรจักรวาลที่ปกคลุมไปทั่วทั้งฟ้าดิน มันก็ดูราวกับนางจะอ่อนแอเกินไปอยู่ดี
“ในเมื่อมีเจ้าอยู่ที่นี่ด้วย ข้ายังต้องกลัวสิ่งใดอีก? ว่าแต่เจ้ามีนามว่ากระไรหรือ?” หญิงงามยิ้มอ่อนหวาน ในขณะที่ดวงตาคู่สวยเปล่งประกาย และนางก็ไม่ได้ถือตัวว่าเป็นคนนอก
“ก่อนจะถามผู้อื่น เจ้าไม่ควรแจ้งนามของตนเองก่อนหรือ?”เฉิยซีเอ่ยถาม เขาสังเกตเห็นว่าหญิงงามคนนี้ไม่เพียงแต่กล้าหาญเท่านั้น ใบหน้าของนางยังหนากว่าผู้อื่นอยู่มากทีเดียว
“จินเฟิ่งเหนียง ชนพื้นเมืองจากพิภพยันต์อักขระ” หญิงงามยิ้มและตอบด้วยเสียงอ่อนหวาน
“เฉินซีจากแดนภวังค์ทมิฬ” เฉินซีกวาดสายตามองหญิงสาวด้วยความประหลาดใจ เพราะเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าแท้จริงแล้วนางจะเป็นชนพื้นเมืองของพิภพยันต์อักขระ!
“น่าสนใจ เจ้ามาที่พิภพยันต์อักขระคนเดียวกระมัง? เจ้าสนใจจะเข้าร่วมโถงนักล่าของเราหรือไม่? อย่าได้กังวลเลย โถงนักล่าของเราไม่ใช่นิกาย เป็นเพียงองค์กร ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องออกจากนิกายของเจ้า” จิ่นเฟิงเหนียงยิ้มขณะกล่าวเชื้อเชิญ เนื่องจากนางรู้ดีว่าความแข็งแกร่งของชายหนุ่มรูปงามที่อยู่ตรงหน้านั้นไม่ธรรมดา เขาย่อมเป็นอัจฉริยะที่ยิ่งใหญ่ในนิกายของตนเอง ดังนั้นนางจึงไม่โง่พอที่จะขอให้เขาออกจากนิกาย
“ข้าไม่สนใจ” เฉินซีกล่าวด้วยความหงุดหงิด การกล่าวคุยเรื่องนี้ในแนวรบของกองทัพสัตว์อสูรจักรวาลที่กำลังวุ่นวาย มันยิ่งทำให้เข้ารู้สึกแน่ชัดว่า หญิงสาวที่มีสเน่ห์และกล้าหาญตรงหน้าตนนั้นช่างไร้เดียงสาและสติไม่ดี
“น้องเฉินซี อย่าได้ปฏิเสธข้าอย่างไร้เยื่อใยเลย เข้าใจหรือไม่? เจ้าจะต้องสนใจในอนาคตอย่างแน่นอน” จินเฟิ่งเหนียงไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย จากนั้นนางก็ยิ้มขณะที่กล่าว ซึ่งเผยให้เห็นถึงความกระตือรือร้นที่ลุกโชน ราวกับสิงโตกำลังจดจ้องเหยื่อของตน
เฉินซีอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ‘หญิงสาวคนนี้ช่างไร้สาระเสียจริง’
เขาหมุนตัวกลับมาและไม่สนใจจิ่นเฟิงเหนียงอีกต่อไป ในขณะที่จดจ่ออยู่กับการเข่นฆ่าศัตรู
โดยไม่คาดคิด จิ่นเฟิงเหนียงคล้ายตั้งใจจะไม่ปล่อยให้ชายหนุ่มจากไป ปากของนางประหนึ่งสายธนูที่ยิงคำถามออกมาเป็นชุด เช่น เฉินซีอายุเท่าไร เขามีคู่บำเพ็ญหรือไม่ สตรีแบบไหนที่เขาโปรดปราน หรือมีงานอดิเรกใด เป็นต้น
เฉินซีปวดหัวและไม่ลังเลที่จะจับแขนของนางโดยตรง ซึ่งก่อนที่นางจะได้ทันตอบสนอง เขาก็ได้เหวี่ยงนางออกไปทางเมือง!
“น้องเฉินซี แม้เจ้าจะใจร้าย แต่โถงนักล่าก็ยังคงยินดีต้อนรับเจ้า…” เสียงตะโกนอันไพเราะของจิ่นเฟิงเหนียงดังมาจากระยะไกล
เฉินซีกล่าวในใจว่า ‘ชาตินี้ข้าจะไม่มีวันเข้าร่วมโถงนักล่ากับเจ้าเป็นอันขาด!’
ฆ่า!
ฆ่าอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย!
ตลอดทั้งคืน เฉินซีได้สังหารสัตว์อสูรจักรวาลไปหลายหมื่นตัว ในที่สุดกองทัพสัตว์อสูรจักรวาลก็ถูกสังหารอย่างสมบูรณ์เมื่อรุ่งสางมาถึง
แสงอรุณสาดส่องลงมายังทะเลสาบที่ทั้งสูงสง่าและกว้างใหญ่ ทำให้มันถูกย้อมเป็นชั้นแสงสีทอง ขณะที่พื้นดินทางด้านนอกเมืองถูกย้อมเป็นสีแดงเลือดนก
มีซากศพกองจนเป็นภูเขาอยู่ที่บริเวณนอกเมือง เลือดสีแดงสดไหลนองพื้นดิน จนคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือดที่เข้มข้นและรุนแรง
เฉินซีถอนหายใจด้วยความโล่งอก หากไม่ใช่เพราะการบ่มเพาะดวงจิตแห่งเต๋าที่กลั่นตัวเป็น ‘แก่นหัวใจ’ เมื่อนานมาแล้ว การต่อสู้ที่ดุเดือดนี้คงเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถบรรลุได้ในอดีตอย่างแน่นอน
ถึงอย่างนั้น เมื่อการต่อสู้ใกล้จะจบลง ชายหนุ่มก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องฟื้นฟูปราณจ้าววิญญาณของเขาด้วยผนึกโลหิตในขณะที่ต่อสู้ต่อไป
เมื่อชายหนุ่มตรวจสอบแผ่นป้ายธรรมเทพ ดวงดาวอีกสองร้อยดวงก็ได้ส่องประกายขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ ทำให้ยามนี้เฉินซีมีดาวทั้งหมดห้าร้อยห้าสิบดวงเข้าไปแล้ว!
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
ผู้บ่มเพาะจำนวนมากที่ต่อสู้จนโชกไปด้วยเลือดยันรุ่งสาง ได้กลายเป็นลำแสงพุ่งกลับไปยังเมือง ในเวลาเดียวกัน เหล่าผู้บ่มเพาะกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าก็พุ่งออกมาจากภายในเมือง
ระดับการบ่มเพาะของผู้บ่มเพาะเหล่านี้ไม่สูงนัก และพวกเขาทั้งหมดอยู่ต่ำกว่าขอบเขตจุติ พวกเขาพุ่งออกจากเมืองเพียงเพื่อรวบรวมวัตถุจากซากศพของสัตว์อสูรจักรวาล ก่อนที่จะแลกเปลี่ยนเป็นพลังธรรมเทพในเมือง
แต่พลังธรรมเทพที่ได้รับจากการแยกส่วนซากศพนี้มักจะมีจำนวนน้อยมาก และไม่สามารถเทียบได้กับการฆ่าสัตว์อสูรจักรวาลด้วยตัวเองได้
และเฉินซีย่อมไม่อยากทำสิ่งนั้นเช่นกัน เขาจึงบินตรงไปยังเมืองนกนางแอ่นแดงที่อยู่ไกลออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...