บทที่ 843 ผู้สืบทอดสายเลือดเซียน
บทที่ 843 ผู้สืบทอดสายเลือดเซียน
เฉินซีสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงอันผิดปกติที่เกิดขึ้นกับทุกคนในบริเวณใกล้เคียง
…เหมือนว่าพวกเขาจะประหลาดใจเล็กน้อย?
ชายหนุ่มเองก็คาดเดาในใจเช่นกันว่านี่อาจเกี่ยวข้องกับการที่เขาจับมือกับเหลียงปิง กระนั้น ชายหนุ่มก็อดนึกสงสัยขึ้นมาไม่ได้ เพราะเขาจำได้ว่าตอนนั้นเป็นเหลียงปิงที่เสนอจะจับมือกับเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกันด้วยซ้ำ
หรือว่าจริง ๆ แล้วนี่จะไม่ใช่มารยาทการทักทายขั้นพื้นฐานอย่างหนึ่งของภพบรรพชน?
เหลียงปิงสังเกตเห็นถึงความสับสนของเฉินซี ทว่านางกลับไม่ได้อธิบายสิ่งใด และพลันเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ไปกันเถอะ ข้าได้จัดสถานที่ไว้ให้เจ้าแล้ว”
ขบวนเดินทางที่ทอดยาวกลับสู่เมืองในที่สุด หลังจากที่เขาเดินผ่านประตูเมืองมาพร้อมกับเหลียงปิง เฉินซีจึงพบว่า ภายในมณฑลจักรพรรดิตะวันออกไม่มีหอคอยยันต์อักขระตั้งอยู่เลยสักแห่ง!
เขาพลันนึกถึงคำพูดของเถิงหลาน ทั้งมณฑลจักรพรรดิตะวันออก มณฑลจักรพรรดิแห่งความมืด มณฑลราชินีวิหคอมตะ และมณฑลบรรพบุรุษอสูร มีหน้าที่เป็นแนวคุ้มกันให้กับนครหลวง อีกทั้งยังเป็นเส้นทางที่นำไปสู่นครหลวงโดยไม่จำต้องใช้พลังธรรมเทพสำหรับพิสูจน์คุณสมบัติ
สาเหตุที่มณฑลทั้งสี่ไม่ปรากฏคอหอยยันต์อักขระนั้น ก็เป็นเพราะพวกมันได้รับการปกป้องจากเจดีย์ต้าเหยี่ยนในนครหลวง กล่าวอีกนัยหนึ่งคือมณฑลทั้งสี่เป็นเสมือนเมืองรอบนอกของนครหลวง ซึ่งอยู่ภายใต้การคุ้มครองของเจดีย์ต้าเหยี่ยนนั่นเอง!
มณฑลจักรพรรดิตะวันออกเป็นเมืองพำนักหลักของตระกูลเหลียง ที่นี่มีขนาดกว้างใหญ่ประหนึ่งเป็นอีกแคว้นที่แยกตัวออกมา ถนนหนทางที่ทอดยาวล้วนคลาคล่ำไปด้วยฝูงชน เต็มไปด้วยความเจริญและความเฟื่องฟูอย่างยิ่ง
จวนจักรพรรดิตะวันออกตั้งอยู่ตรงใจกลางเมืองที่งดงามและกว้างใหญ่
ทันทีที่เดินทางมาถึงจวน เหลียงปิงก็สั่งให้ข้ารับใช้ทั้งหมดออกไป ก่อนจะพาเฉินซีและเถิงหลานไปยังห้องโถงใหญ่
“ยังมีเวลาอีกสิบวันก่อนที่เจดีย์ต้าเหยี่ยนจะเปิดขึ้น อาหลีกำชับให้ข้าอนุญาตให้เจ้าเข้าร่วม แต่ว่าเจ้าน่าจะยังไม่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับเจดีย์ต้าเหยี่ยนมากพอ เช่นนั้นต่อไปก็ให้ลุงหลานเป็นผู้อธิบายเถอะ” ทันทีที่พวกเขานั่งลง เหลียงปิงก็พูดขึ้นด้วนน้ำเสียงที่หนักแน่น เย็นชา และตรงไปตรงมา
เฉินซีพยักหน้ารับ ก่อนจะพูดกับเถิงหลานพร้อมด้วยรอยยิ้ม “ต้องรบกวนผู้อาวุโสแล้ว”
เถิงหลานยิ้ม “มันเป็นหน้าที่ของข้า คุณชายเฉินอย่าได้เกรงใจไป”
เมื่อเหลียงปิงเห็นฉากนี้ นางก็ออกคำสั่งกับคนรับใช้จากด้านนอก ไม่นาน สาวใช้ดวงหน้างดงามพลันเดินเรียงแถวเข้ามาพร้อมกับอาหารเลิศรสและสุราที่ผ่านการปรุงอย่างพร้อมสรรพ
นางยกกาสุราขึ้นก่อนจะเทลงในจอก และส่งให้เฉินซี “ก่อนหน้านี้ข้ามีธุระติดพันมากมาย จึงไม่มีโอกาสได้ต้อนรับเจ้าอย่างเป็นทางการ ดังนั้นข้าขอใช้โอกาสนี้จัดงานเลี้ยงต้อนรับเจ้าก็แล้วกัน”
พูดจบ ริมฝีปากแดงสดพลันคลี่ยิ้มบาง ก่อนจะดื่มสุราเข้าไปจนหมดจอก
“ขอบคุณแม่นางเหลียงสำหรับการต้อนรับนี้” เฉินซียกจอกขึ้นดื่มจนหมดเช่นกัน
“ฮ่า ๆๆ! ข้าได้ยินมาว่าจวนจักรพรรดิตะวันออกกำลังจัดงานเลี้ยงต้อนรับแขกผู้มีเกียรติครั้งใหญ่ อาปิง เหตุใดเจ้าจึงไม่ยอมบอกข้าเล่า ทำเช่นนี้ไม่ดีเลย” ชายหนุ่มในชุดนักพรตเต๋าปักดิ้นทองเดินเข้ามาพร้อมกับเสียงหัวเราะ เขามีดวงหน้างดงาม ดวงตาทั้งสองทอประกายจ้าดุจหมู่ดารา
โดยด้านหลังของคนผู้นี้คือ ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีที่ดูน่าเกรงขามอีกสองคน พวกเขามีดวงตาที่คมกริบและดุร้ายประหนึ่งเหยี่ยว แม้แต่ร่างกายก็ปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายที่ทรงพลังยิ่ง เห็นได้ชัดว่าระดับการบ่มเพาะของคนทั้งคู่อย่างน้อยก็น่าจะอยู่ที่ขอบเขตเซียนปฐพีระดับห้า!
ทว่าตอนนี้ ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีทั้งสองกลับเดินตามชายหนุ่มรูปงามผู้นั้นไม่ต่างข้ารับใช้ สิ่งนี้จึงยิ่งทำให้อีกฝ่ายดูพิเศษยิ่งกว่าเดิม
ไม่เพียงเท่านั้น คนผู้นี้ยังกล้าเดินเข้ามาภายในห้องโถงใหญ่ โดยไม่ได้รอให้ผู้ใดเอ่ยปากปฏิเสธหรืออนุญาต เห็นได้ชัดว่าเขาคงมีต้นกำเนิดที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
“โอ้ ที่แท้ก็คุณชายเฟิง เชิญนั่งก่อนเถิด” เหลียงปิงเงยหน้ามองอีกฝ่ายโดยไม่ได้ลุกขึ้นแสดงความเคารพ แม้กระทั่งสีหน้าของนางก็ยังคงไร้ซึ่งอารมณ์
“เช่นนั้น คงต้องขอรบกวนแล้ว” คุณชายเฟิงระเบิดเสียงหัวเราะ เขาเลือกที่จะนั่งเก้าอี้ซึ่งถัดลงมาจากตำแหน่งของเหลียงปิงเพื่อเผชิญหน้ากับเฉินซี
“เฉินซี นี่คือคุณชายเฟิงหลูหยาง เขามาจากเขาแสงประเสริฐแห่งภพเซียน” เหลียงปิงแนะนำ
“ยินดีที่ได้รู้จัก คุณชายเฟิง” เฉินซีจับมือทักทายอีกฝ่าย ขณะที่ในใจตื่นตระหนก ภูเขาแสงประเสริฐแห่งภพเซียนอย่างนั้นหรือ? หรือว่าชายผู้นี้จะเป็นเซียนสวรรค์?
ชายหนุ่มพินิจมองคุณชายเฟิงอย่างละเอียด ก่อนจะสังเกตเห็นว่ารัศมีที่เปล่งประกายออกมาจากอีกฝ่ายนั้นแปลกประหลาดยิ่ง บนเรือนกายของชายหนุ่มผู้นี้ปรากฏปราณเซียนปกคลุมอยู่ แต่มันกลับมีสัมผัสบางอย่างที่ดูจะด้อยกว่าเซียนสวรรค์อย่างเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเทียบเท่ากับเซียนปฐพีมากกว่า
“เฟิงหลูหยางสืบสายเลือดมาจากตัวตนสูงล้ำแห่งภพเซียน เนื่องจากเขาถือกำเนิดในภพเซียน เขาจึงสามารถขึ้นไปสู่ภพที่สูงกว่าภพมนุษย์ได้ และตอนนี้ระดับการบ่มเพาะของเขาก็อยู่ในขอบเขตเซียนปฐพีระดับสี่” เมื่อเห็นว่าเฉินซีมีท่าทางประหลาดใจ เถิงหลางจึงส่งกระแสปราณบอกกับชายหนุ่ม “ภูเขาแสงประเสริฐแห่งภพเซียนมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นอย่างมากกับตระกูลเหลียง ที่เฟิงหลูหยางมาที่นี่ระหว่างการเปิดเจดีย์ต้าเหยี่ยน ก็คงตั้งใจจะยืมมือของคุณหนูใหญ่เป็นแน่”
เฉินซีเข้าใจทันที เขาไม่แปลกใจแล้วว่าเหตุใดอีกฝ่ายซึ่งมาจากภพเซียนถึงได้มีระดับการบ่มเพาะที่ขอบเขตเซียนปฐพีเท่านั้น ที่แท้คนคนนี้ก็สืบเชื้อสายมาจากผู้ยิ่งใหญ่และเกิดในภพเซียน!
เฟิงหลูหยางเหลือบมองที่เฉินซีก่อนจะพูด “โอ้ ที่แท้ก็สหายเต๋าตัวน้อยขอบเขตสถิตกายา ข้าก็คิดว่ายอดบุรุษที่ไหน”
คำพูดนั้นของอีกฝ่ายไม่แม้แต่จะผ่านกลั่นกรอง มันแฝงไปด้วยความหยาบคายอย่างเห็นได้ชัด
เฉินซีขมวดคิ้ว “ทำให้คุณชายเฟิงผิดหวังแล้ว” น้ำเสียงของเขายังคงเฉยเมย
“ฮ่า ๆๆ! พอดีว่าข้าเป็นคนเปิดเผย คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น ไม่เสแสร้ง เจ้าเองก็อย่าได้ถือสา ถึงแม้บางครั้งมันจะทำให้เจ็บปวดมากก็ตาม” เฟิงหลูหยางพูดไปหัวเราะไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...