บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 848

บทที่ 848 ฝีเท้าที่สั่นสะเทือนท้องฟ้า

บทที่ 848 ฝีเท้าที่สั่นสะเทือนท้องฟ้า

องศาของฝ่ามือที่ฟาดลงมานั้นมากด้วยเล่ห์กล ทั้งยังแฝงด้วยพลังประหลาดที่ทำให้หัวใจของผู้คนสัมผัสได้ถึงฉากอันน่าสยดสยอง การล่มสลาย การสาปแช่ง และอื่น ๆ ซึ่งน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังมุ่งตรงไปที่หัวใจ!

หากไม่ใช่เพราะดวงจิตแห่งเต๋าของเฉินซีได้รับการฝึกฝนจนแข็งแกร่งมาตั้งนานแล้ว และมีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้ เหตุการณ์เหล่านี้คงมิอาจถูกกำจัดออกไปได้ ก่อนจะลงเอยด้วยการที่ชายหนุ่มต้องทุกข์ทรมานจากพลังฝ่ามือนี้ในที่สุด

ฟิ้ว!

กระแสลมที่เกิดจากพลังฝ่ามือนั้นคมกริบดุจใบมีดที่กรีดผ่านท้องฟ้าเหมือนกรรไกรตัดผ้า เหวินเหรินเยี่ยลอยอยู่กลางอากาศ แต่พลังฝ่ามือของนางกลับเฉือนไปที่ลำคอของเฉินซีอย่างแม่นยำ

เสียงของฝ่ามือที่แหวกผ่านท้องฟ้าไม่ได้ฟังดูน่าตกใจแม้แต่น้อย ยามที่ผู้คนซึ่งอยู่โดยรอบสังเวียนได้ยิน แต่เมื่อมันลอดผ่านหูของเฉินซี มันกลับเต็มไปด้วยเสียงคำรามที่ฉีกกระชากแก้วหูของเขา การโจมตียังไม่เข้าใกล้ร่างกาย แต่เสียงคำรามกลับมาถึงแล้ว ซึ่งมันทั้งเย็นเยียบและคมกริบดุจดาบที่ทิ่มแทงผิวหนังจนรู้สึกเจ็บ!

การบ่มเพาะของเหวินเหรินเยี่ยนั้นทั้งทรงพลัง ล้ำลึก น่ากลัว และดุร้าย อีกทั้งยังเหนือกว่าหนานซิ่วชงและคนอื่น ๆ มาก ดังนั้นหลังจากที่นางขึ้นไปบนสังเวียนอย่างกะทันหัน พร้อมกับโจมตีอย่างรวดเร็วและทรงพลัง คอของเฉินซีคงจะถูกฟันขาดด้วยพลังฝ่ามือของนางแน่ หากเขายังไม่หยุดการโจมตีและหลบไปทางด้านข้าง

ฟิ้ว!

ปีกกำราบผกผันวูบวาบปรากฏอยู่ที่ข้างหลังเฉินซี ร่างของเขาพลิกกลับโดยไม่มีสัญญาณเตือน และสามารถหลบการโจมตีได้อย่างหวุดหวิด จากนั้นชายหนุ่มก็แทงกระบี่สวนกลับหลังซึ่งปะทะเข้ากับฝ่ามือขวาของเหวินเหรินเยี่ยอย่างจัง

เคร้ง!

กระบี่และฝ่ามือปะทะกันอย่างรุนแรง ทำให้เกิดเสียงก้องกังวานดุจเสียงของระฆังขนาดใหญ่

ทว่าน่าตกใจยิ่งที่ฝ่ามือซึ่งดูดี เรียวยาว ขาวราวกับหยก และนุ่มนวลของเหวินเหรินเยี่ยกลับไม่เป็นอันตรายแม้แต่น้อย หลังจากปะทะกับกระบี่ยันต์ศัสตราที่คมกริบ!

ทั้งสองฝ่ายต่างไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ ในการปะทะกันครั้งนี้ แต่การขัดขวางของเหวินเหรินเยี่ย ทำให้หนานซิ่วชงมีเวลาอยู่ต่อ ขณะที่สีหน้าของเฉินซีมืดมนเล็กน้อย

เขาจ้องมองไปยังเหวินเหรินเยี่ยและกล่าวอย่างเย็นชาว่า “นี่เจ้ากำลังแทรกแซงการต่อสู้ชี้เป็นชี้ตายตามที่ตกลงกันไว้อย่างนั้นหรือ? …เจ้ามีความละอายใจบ้างหรือไม่”

เหวินเหรินเยี่ยยืนอย่างภาคภูมิบนสังเวียนด้วยท่าทางหยิ่งยโส และที่หว่างคิ้วของนางก็เต็มไปด้วยความไม่แยแส ขณะกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “ข้าทำเพื่อประโยชน์ของเจ้าเอง ผลของการทำร้ายคนจากภพเซียนไม่ใช่สิ่งที่เจ้ารับมือได้”

เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ นางพลันเงยหน้าขึ้นมองเฉินซีด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสาร “นับประสาอะไรหากหนานซิ่วชงใช้ไพ่ตายที่เขาครอบครองอยู่ เจ้าคิดว่าจะต้านทานมันได้หรือ? หากเราพิจารณาให้ดี ข้าถือว่าได้ช่วยชีวิตเจ้าด้วยซ้ำ”

เฉินซีมีหรือจะฟังความนัยไม่ออก? เขาหัวเราะด้วยความโกรธจัดและกล่าวว่า “เนื่องจากเป็นการต่อสู้ชี้เป็นชี้ตาย ผลของการฆ่าหรือถูกฆ่า เป็นสิ่งที่เจ้าสามารถแทรกแซงได้หรือ?”

เหวินเหรินเยี่ยขมวดคิ้ว ใบหน้าของนางเย็นชาดุจน้ำแข็ง จากนั้นหญิงสาวจึงกล่าวว่า “ความอดทนของข้ามีจำกัด กับมดอย่างเจ้าข้ายอมเสียหน้าให้เจ้ามามากพอแล้ว! อย่าท้าทายขีดจำกัดของข้าอีก!”

ทันใดนั้น ใบหน้าของชายหนุ่มก็สงบลง จากนั้นเขาก็กล่าวว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าจงแทนที่ตำแหน่งของเขาเพื่อต่อสู้เป็นรายถัดไป!”

ขณะที่กล่าว เฉินซีก็ก้าวไปข้างหน้าก่อนที่เหวินเหรินเยี่ยจะทันได้ตอบกลับ และเขาก็มาถึงตรงหน้าของนางแล้ว ขณะที่กระบี่ยันต์ศัสตราได้แผ่พุ่งกระแสที่น่าตกใจ ทะยานเข้าหาลำคอของนางอย่างรวดเร็ว!

การจู่โจมของหญิงสาวก่อนหน้านี้มีเจตนาฆ่าอย่างแน่นอน และถ้าไม่ใช่เพราะเขาใช้เนตรเทวะแห่งความจริงเพื่อรับมือ ชายหนุ่มคงเกือบถูกโจมตีที่จุดตายเข้าให้แล้ว

แต่นางในตอนนี้กลับวางท่าสูงส่ง และโต้เถียงอย่างไร้เหตุผล มันจึงทำให้เฉินซีโกรธ และจิตสังหารก็ผุดขึ้นในใจของเขา

“ในเมื่อเจ้ารนหาที่ตาย ข้าก็คงได้แต่ทำตามความปรารถนาของเจ้าเท่านั้น” รอยยิ้มเย็นยะเยือกปรากฏขึ้นที่มุมปากของเหวินเหรินเยี่ย ในขณะที่สีหน้าของนางเย็นชาไม่แยแส จากนั้นจิตสังหารที่รุนแรงก็พลันพวยพุ่งออกมาจากร่างของหญิงสาว ราวกับกระบี่เซียนที่พุ่งออกไปเพื่อหวังทำลายท้องฟ้า!

ฟิ้ว!

นางยื่นมือขาวหยกออกมา ตวัดฟาดกระบี่ยันต์ศัสตราของเฉินซีกระเด็นกลับไป จากนั้นแขนเสื้อของหญิงสาวพลันกระพือไหว ในขณะที่นิ้วมือขวารวบเข้าหากันเพื่อสร้างตราประทับที่ดูคล้ายมังกรและพยัคฆ์ ก่อนจะฟาดมันลงที่หน้าอกของเฉินซี!

โฮกกกก!

เสียงที่ฟังเหมือนเสียงคำรามอันเกรี้ยวกราดของเทพอสูรดังขึ้น ในขณะที่ตราประทับสว่างไสวราวกับดวงอาทิตย์แผดเผา ได้เปล่งรัศมีอันไร้ขอบเขต ซึ่งสั่นคลอนท้องฟ้าออกมา!

“ผนึกเต๋านภาพยัคฆ์มังกร!”

หนานซิ่วชง ฉู่เซียว และคนอื่น ๆ จำเคล็ดวิชานี้ได้ ร่างของพวกเขาก็กลายเป็นแข็งทื่อ เพราะพวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเหวินเหรินเยี่ยจะใช้กระบวนท่าไม้ตายทันทีที่การต่อสู้เริ่มขึ้น

นี่เป็นหนึ่งในสุดยอดเคล็ดวิชาของตระกูลเหวินเริน ซึ่งเป็นนิกายโบราณในภพเซียน และเป็นศาสตร์เซียนที่ทรงพลังอย่างแท้จริง หากมันถูกใช้ด้วยพลังของกฎเกณฑ์ อานุภาพของมันก็เพียงพอที่จะทำลายดวงดาว บดขยี้ดวงจันทร์ และกำจัดความชั่วร้ายทั้งปวง!

แม้ว่าเหวินเหรินเยี่ยจะไม่เข้าใจและไม่สามารถใช้กฎได้ แต่อานุภาพของมันก็ยังยอดเยี่ยมมาก เมื่อนางใช้มันด้วยเต๋ารู้แจ้งที่ครอบครองอยู่ มันก็ยังคงเหนือชั้นเกินกว่าศาสตร์เต๋าระดับสูงสุดของภพมนุษย์อยู่ดี!

นี่คือทรัพยากรและทุนสำรองของผู้สืบทอดจากภพเซียน ทุกสิ่งที่พวกเขาบ่มเพาะได้เกินขอบเขตของภพมนุษย์มาตั้งนานแล้ว และแม้การบ่มเพาะจะไม่ได้โดดเด่นแตกต่างถึงเพียงนั้น แต่เท่านี้มันก็มากพอที่จะทำให้พวกเขาดูถูกภพมนุษย์ได้แล้ว

ดวงตาของเฉินซีหรี่ลง ในขณะที่แก่นแท้ พลังงาน และจิตวิญญาณในร่างกายของชายหนุ่มเริ่มเดือดพล่าน จากนั้นกระบี่ยันต์ศัสตราพลันกวาดไปรอบ ๆ เพื่อฟันปราณกระบี่ที่ยอดเยี่ยมออกไป!

ดวงดาว ดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ต่างปรากฏขึ้นภายในปราณกระบี่ เผยให้เห็นถึงความลึกล้ำอันไร้ขอบเขตของมัน!!!

โครม!

ตุบ! ตุบ! ตุบ!

ร่างของทั้งคู่ถอยห่างออกไปกว่าสี่สิบจั้ง

ร่างกายของเฉินซีสั่นสะท้าน ก่อนที่เขาจะหายเป็นปกติ ดวงตาของชายหนุ่มก็ปลดปล่อยสายฟ้าอันเย็นเยียบออกมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]