บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 854

บทที่ 854 ปีกกระเรียนปรโลก

บทที่ 854 ปีกกระเรียนปรโลก

ไม่ว่าจะเป็นโอสถ วัตถุวิญญาณ สมบัติวิเศษ เคล็ดวิชาบ่มเพาะ อุปกรณ์ หรือสมบัติชิ้นอื่น ๆ ที่มีรูปร่างและขนาดแตกต่างกัน ทุกอย่างที่อยู่ในดวงแสงหมื่นสรรพสิ่งบนชั้นที่เจ็ดคือสมบัติกึ่งอมตะ อีกทั้งยังไม่ขาดแคลนวัตถุหายากในหมู่พวกมัน

ยกตัวอย่างเช่น น้ำค้างหมื่นคราม ผงวิญญาณมังกรร้อยเร้นลับทรายเบญจธาตุ… ทั้งหมดล้วนเป็นวัตถุดิบเซียนที่แทบไม่มีทางหาได้ในโลกภายนอก ซึ่งพวกมันก็มีค่ามากยิ่ง

แต่สมบัติที่ดึงดูดสายตาของเฉินซีที่สุดคือ ปีกที่มีขนาดเท่าฝ่ามือคู่หนึ่ง โดยปีกนี้มีสีดำสนิท มีขอบที่แหลมคม และถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีดำสนิทที่รวดเร็วดุจสายฟ้าแลบ ซึ่งไหลเวียนอยู่ภายในนั้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

แม้ว่าจะมองเพียงแวบเดียว แต่เขาก็ตระหนักได้ทันทีว่านั่นคือ… ปีกของกระเรียนปรโลก!

กระเรียนปรโลกท่องไปในยมโลก และท้องฟ้าทั้งหมดก็ถูกบดบังเมื่อมันสยายปีก ตามตำนานที่เล่าขานกัน ว่ากันว่ากระเรียนปรโลกเป็นวิหคศักดิ์สิทธิ์ในโลกใต้พิภพ ซึ่งเพียงการดูดครั้งเดียว ก็สามารถดึงวิญญาณและภูตผีอาฆาตได้ถึงแสนตัว!

วิหคศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้แทบหาพบไม่ได้ในภพมนุษย์ และแม้ว่ามันจะอยู่ในยมโลก การดำรงอยู่ของมันก็คล้ายกับมังกรน้ำแข็งหรือเต่าโบราณ ซึ่งครอบครองพลังมหาศาล

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ปีกกระเรียนปรโลกคู่นี้เป็นหนึ่งในวัตถุดิบหลักในการขัดเกลาพัดเทพอัคคี!

จากนั้นเฉินซีก็ส่งจิตสัมผัสเทพของเขาเข้าไปในดวงแสงหมื่นสรรพสิ่งโดยไม่ลังเล และเริ่มค้นหาอย่างระมัดระวัง เพราะหากสามารถแลกเปลี่ยนปีกคู่นี้ได้ มันย่อมต้องเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างแน่นอน!

นับตั้งแต่ที่ชายหนุ่มได้รับวิธีขัดเกลาพัดเทพอัคคีในสมรภูมิบรรพกาลก็ผ่านไปหลายปี แต่เขากลับรวบรวมได้เพียงปีกวิหคเพลิงนภา พัดนกยูงเพลิง และปีกไก่ฟ้าทมิฬเท่านั้น

อีกทั้งยังการตามหาปีกชนิดอื่น ๆ เช่น ปีกวิหคอมตะ ปีกคุนเผิง ปีกอีกาทองคำ และปีกกระเรียนปรโลก ก็เป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญเช่นกัน

แต่ตอนนี้เขากลับพบปีกกระเรียนปรโลกในชั้นที่เจ็ดของเจดีย์ต้าเหยี่ยน ดังนั้นจึงสามารถจินตนการถึงความรู้สึกตื่นเต้นในใจของเฉินซีได้อย่างชัดเจน!

ในเวลาไม่นาน ชายหนุ่มก็ค้นพบปีกกระเรียนปรโลก แต่เมื่อเขาเห็นปริมาณของพลังธรรมเทพที่ระบุไว้ หัวใจของชายหนุ่มก็เป็นต้องถูกบีบรัดแน่น

เพราะมันต้องใช้ดาวพลังธรรมเทพถึงหนึ่งหมื่นสองพันดวง!

เขายังจำได้ว่า ครั้งหนึ่งเถิงหลานเคยกล่าวว่า สมบัติอมตะสามารถแลกเปลี่ยนกับพลังธรรมเทพเพียงสี่พันดวง แต่การแลกเปลี่ยนปีกกระเรียนปรโลกคู่นี้กลับต้องใช้พลังธรรมเทพถึงหนึ่งหมื่นสองพันดวง และเป็นมูลค่าที่มากกว่าสมบัติอมตะถึงสามเท่า!

นอกจากนี้ ปีกกระเรียนปรโลกยังเป็นเพียงวัตถุดิบเซียนและไม่ใช่สมบัติอมตะที่แท้จริง

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เฉินซีก็กัดฟันและตัดสินใจแลกกับมัน

การจะได้สมบัติที่หายากและล้ำค่าเช่นนี้มานั้นยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน ดังนั้นหากเขาไม่คว้าโอกาสที่จะได้มันมาในตอนนี้ เฉินซีก็ไม่รู้ว่าเขาจะต้องใช้เวลาอีกนานเท่าใดในอนาคตเพื่อค้นหาอีกคู่!

อาจเป็นเพราะวัตถุดิบชิ้นนี้หายากเป็นอย่างยิ่ง ทำให้มูลค่าของมันสูงจนน่าตกใจ ถึงอย่างไร แม้สมบัติอมตะจะล้ำค่า แต่การที่ชายหนุ่มจะได้รับก็ไม่เย็นนัก ทว่าวัตถุดิบเซียนที่หายากเหล่านั้นกลับหาได้ยากยิ่งกว่า!

ปัจจุบัน เขารู้อย่างชัดเจนแล้วว่าสมบัติอมตะถูกแบ่งออกเป็นหลายระดับ โดยแบ่งคร่าว ๆ เป็นระดับทั่วไป ระดับวิญญาณทมิฬ ระดับจักรวาลและอื่น ๆ อย่างน้อยที่สุด หากขัดเกลาพัดเทพอัคคีนี้สำเร็จ มันย่อมไม่ใช่สมบัติอมตะทั่วไป

โอม!

หลังจากนั้นไม่นาน ปีกกระเรียนปรโลกคู่หนึ่งพลันลอยอยู่กลางอากาศ พร้อมกับเปล่งประกายแสงที่ดูเหมือนสายฟ้าสีดำสนิทออกมา กลิ่นอายของมันคลุมเครือและน่าตกใจ เฉินซีพินิจดูมันอยู่ครู่หนึ่ง และค่อนข้างพอใจ จากนั้นเขาจึงยกมือขึ้นและเก็บมันไว้ในเจดีย์บำเพ็ญทุกข์อย่างระมัดระวัง

ตั้งแต่ชั้นที่หนึ่งของเจดีย์จนถึงตอนนี้ แผ่นป้ายธรรมเทพของชายหนุ่มได้รวบรวมพลังธรรมเทพเกือบสองแสนดวงแล้ว ดังนั้นมันจึงไม่ได้รับผลกระทบอะไรมาก หากเขาจะใช้พลังธรรมเทพหนึ่งหมื่นสองพันดวงเพื่อแลกเปลี่ยนกับปีกกระเรียนปรโลก

แต่เมื่อพลังธรรมเทพทั้งหมื่นสองพันดวงหายไป เฉินซีพลันพบว่า แสงทองแห่งพลังธรรมเทพในแดนฮุ่นตุ้นของเขาได้หายไปจำนวนมาก ในขณะที่พลังงานลึกลับที่มาจากดวงจิตแห่งเต๋า และถูกควบแน่นอยู่ภายในแก่นหัวใจก็อ่อนแรงลงเล็กน้อย

โชคดีที่มันลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ตั้งแต่สะสมพลังธรรมเทพมาจนถึงตอนนี้ แก่นหัวใจของเฉินซีก็เปล่งจังหวะชีวิตที่ดูเหมือนเสียงกลองที่ดังสนั่น ซึ่งใช้เวลาไม่นาน พลังชีวิตที่พลุ่งพล่านดุจมหาสมุทร ก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งขึ้น!

“นี่มัน…” เมื่อเฉินซีถอนจิตสัมผัสเทพของเขา ทันใดนั้นชายหนุ่มก็สังเกตเห็นว่าคำว่า ‘ปีกอีกาทองคำ’ อยู่ในบริเวณหนึ่งของดวงแสงหมื่นสรรพสิ่ง แต่ตอนนี้ที่บริเวณดังกล่าวกลับว่างเปล่า เห็นได้ชัดว่ามีคนแลกเปลี่ยนและรับมันไปแล้ว!

น่าเสียดายที่เขามาช้าเกินไป

เฉินซีได้แต่ถอนหายใจและคาดเดาได้เลา ๆ ว่า ปีกอีกาทองคำจะต้องถูกกลุ่มของหลัวจื่อเซวียนแลกไปแน่ เพราะนอกจากเขา เหลียงปิงกับเถิงหลานก็ไม่มีใครอื่นอยู่บนชั้นที่เจ็ดของเจดีย์แล้ว มีเพียงกลุ่มของหลัวจื่อเซวียนเท่านั้นที่นำหน้าพวกเขาไปหนึ่งก้าว

เหลียงปิงกับเถิงหลานรอคอยอย่างเงียบ ๆ ตลอดเวลานี้

เมื่อพวกเขาเห็นร่องรอยความเสียใจแวบผ่านใบหน้าของชายหนุ่มในขณะนี้ เถิงหลานก็กล่าวขึ้นทันทีว่า “คุณชายเฉินซี เจ้าตั้งใจจะขัดเกลาพัดเทพอัคคีหรือ?” เขาเห็นเฉินซีแลกเปลี่ยนปีกกระเรียนปรโลกก่อนหน้านี้ ดังนั้นจึงพอคาดเดาได้คร่าว ๆ จากเบาะแสที่มี

เฉินซีพยักหน้าและกล่าวว่า “ใช่ขอรับ แต่ปีกอีกาทองคำกลับถูกแลกไปแล้ว ข้าจึงรู้สึกเสียดายเล็กน้อย”

เถิงหลานดูจะครุ่นคิดอะไรบางอย่าง จากนั้นจึงกล่าวว่า “นั่นเป็นสมบัติอมตะที่ไม่ธรรมดา และมันมีชื่อเสียงในยุคบรรพกาลเป็นอย่างมาก เมื่อมันถูกขัดเกลาจนสำเร็จ มันจะมีพลังมหาศาล และเพียงพัดเบา ๆ ก็มากพอที่จะแผดเผาทะเลให้แห้งเหือดได้”

ดวงตาของเหลียงปิงที่อยู่ใกล้เคียงพลันส่องประกายด้วยจิตสังหาร ขณะที่นางกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “เท่าที่ข้าทราบมา กู่หลิวสุ่ยจากตระกูลกู่มักจะรวบรวมวัตถุดิบเพื่อขัดเกลาพัดเทพอัคคีเช่นกัน ดังนั้นปีกอีกาทองคำน่าจะถูกเขาแลกไป ดังนั้นเราสามารถฆ่าและยึดสมบัติจากเขาเมื่อเราพบกับอีกฝ่ายในภายหลัง และบางทีเจ้าอาจได้รับวัตถุดิบอื่น ๆ สำหรับขัดเกลาพัดเทพอัคคีอีก”

เฉินซีหัวเราะเบา ๆ และกล่าวว่า “นั่นเป็นความคิดที่ดี”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]