บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 86

บทที่ 86 ปิดด่านบ่มเพาะ
บทที่ 86 ปิดด่านบ่มเพาะ

ภายในถ้ำบนเทือกเขาวงจันทรา

เฉินซีนั่งขัดสมาธิอยู่บนเบาะรองนั่ง และใต้เบาะรองนั่งคือจุดที่ใกล้กับเส้นชีพจรวิญญาณชั้นยอดที่มีปราณวิญญาณเข้มข้นซึ่งช่วยในการชำระล้างจิตใจให้สงบลงมากที่สุด

เขาหยิบแผ่นหยกเคล็ดวิชากระเรียนเหมันต์ออกมาและทบทวนอย่างละเอียดอีกครั้ง

ฟุ่บ!

ขวดหยกสีขาวใบหนึ่งปรากฏบนพื้นต่อหน้าเขา ทันทีที่จุกเปิดออก ปราณวิญญาณหนาแน่นได้แผ่กระจายออกมา ภายในนั้นมีวารีวิญญาณบรรจุอยู่สองพันห้าร้อยจิน

ก่อนหน้านี้เฉินซีได้ดูดซับวารีวิญญาณห้าร้อยจินก็สามารถก้าวข้ามจากขอบเขตก่อกำเนิดไปสู่ขอบเขตตำหนักอินทนิลขั้นหนึ่งดาราได้ นอกจากนี้รากฐานของเขายังแข็งแกร่งและมั่นคง

หลังจากเฉินซีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงหยิบขวดหยกออกมาอีกสองขวด มันมีสีดำและสีเขียวอย่างละขวด สิ่งของเหล่านี้ได้มาจากศพของราชามังกรทมิฬและราชาอีกาทมิฬ พวกมันบรรจุวารีวิญญาณปริมาณถึงสองพันจินและสามหมื่นสองพันห้าร้อยจิน!

“สามหมื่นสองพันห้าร้อยจิน? เพื่อที่จะบรรลุขอบเขตเคหาทองคำ ดูเหมือนว่าราชาอีกาทมิฬไม่เพียงแต่เตรียมโอสถลาภวิญญาณโลหิต เขายังเตรียมวารีวิญญาณให้เพียงพอ แต่สิ่งเหล่านี้กลับมีประโยชน์แก่ข้าในตอนนี้แล้ว…” เฉินซีถอนลมหายใจเบา ๆ และรู้สึกยินดีอยู่ภายในใจ

‘จงเปิด!’ หลังจากจัดวางขวดหยกทั้งสามทีละขวด เฉินซีก็สั่งการอยู่ในใจ ทันใดนั้น วารีวิญญาณก็พวยพุ่งออกมาจากขวดหยกสีขาว จากนั้นเขาก็กลืนมันเข้าไป

ฟิ้ว! ฟิ้ว!

วารีวิญญาณที่อุดมไปด้วยปราณวิญญาณ ดูเหมือนกระแสน้ำที่ไหลผ่านเส้นชีพจรในร่างกายของชายหนุ่มแปรเปลี่ยนเป็นปราณแท้ที่โปร่งใสราวกับผลึกน้ำแข็ง ก่อนที่จะหลั่งไหลเข้าสู่จุดตันเถียน

ภายในตำหนักอินทนิลของเขามีพื้นที่เวิ้งว้างกว้างใหญ่

ควบคู่ไปกับการไหลทะลักของปราณแท้ ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่แห้งเหือดเมื่อนานมาแล้ว กลับกลายเป็นดั่งสัตว์ร้ายตัวน้อยที่หิวโหยและเริ่มดูดซับมันอย่างบ้าคลั่ง

พื้นผิวของทะเลสาบเพิ่มขึ้นทีละน้อย

ผ่านไปราวสองชั่วยาม ทะเลสาบอันยิ่งใหญ่ภายในตำหนักอินทนิลก็อยู่ในจุดอิ่มตัว ดาวสลัวที่ล่องลอยอยู่เหนือทะเลสาบในตำหนักอินทนิลก็ส่องประกายระยิบระยับ ดูงดงามยิ่ง

เปรี้ยง!

เฉินซียังไม่ได้หยุดโคจรเคล็ดวิชาการบ่มเพาะ เขายังคงโคจรเคล็ดวิชากระเรียนเหมันต์ขั้นที่สองต่อไป ทะเลสาบอันยิ่งใหญ่ภายในตำหนักอินทนิลเริ่มหมุนอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับเสียงสนั่นราวกับฟ้าร้อง

มันหมุนเหมือนกับกังหันด้วยความเร็วที่เร่งขึ้นเรื่อย ๆ แรงดึงดูดที่พุ่งเข้าหามันก็น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก วารีวิญญาณที่บรรจุอยู่ในขวดหยกสีขาวนั้น ถูกดูดซึมและไหลเวียนอยู่ในเส้นลมปราณของเขาในชั่วพริบตา ด้วยเหตุนี้ ทะเลสาบอันยิ่งใหญ่ในตำหนักอินทนิลจึงขยายออกและลึกขึ้นเรื่อย ๆ!

ปัง!

บนท้องฟ้าเหนือทะเลสาบใหญ่ในตำหนักอินทนิลเกิดเสียงดังก้องกังวาน ดวงดาราอีกดวงก็ปรากฏออกมาอย่างกะทันหัน โดยแยกตัวออกมาจากดาวดวงก่อนหน้านี้ ดวงดาราทั้งสองเผชิญหน้ากันจากระยะไกล ด้วยวารีวิญญาณที่หลั่งไหลเข้ามาเพื่อขยายขนาดของทะเลสาบอันยิ่งใหญ่ภายในตำหนักอินทนิล ดาวดวงใหม่นี้ค่อย ๆ เปล่งประกายขึ้นทีละน้อย จากแสงสลัวกลายเป็นประกายระยิบระยับ!

‘การบ่มเพาะของข้าก้าวเข้าสู่ขอบเขตตำหนักอินทนิลขั้นสองดาราแล้ว!’ เฉินซียังคงดูดซับวารีวิญญาณอันเข้มข้นที่บรรจุอยู่ภายในขวดหยกสีขาวและไม่คิดที่จะหยุดเลยแม้แต่น้อย

เมื่อบรรลุขอบเขตตำหนักอินทนิลขั้นสองดารา วารีวิญญาณที่บรรจุอยู่ภายในขวดหยกสีขาวสองพันห้าร้อยจิน ก็ได้ถูกดูดซับไปแล้วถึงหนึ่งพันห้าร้อยจิน ความก้าวหน้าของเฉินซีทำให้ความเร็วในการดูดซับของทะเลสาบในตำหนักอินทนิลของเขารวดเร็วยิ่งขึ้น และวารีวิญญาณที่เหลืออยู่หนึ่งพันจิน ภายในขวดหยกสีขาวก็หายไปอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม

ฟิ้วว! ฟิ้ววว!

ทะเลสาบในตำหนักอินทนิลยังคงขยายตัวและลึกขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความเร็วที่เร็วกว่าเมื่อก่อนอย่างน้อยสิบเท่า หรืออาจถึงหนึ่งร้อยเท่า และยังคงรักษาระดับความเร็วเช่นนี้ไว้

ซ่าาา!

ไม่รู้ว่าเวลาได้ผ่านไปนานเพียงใด วารีวิญญาณที่บรรจุอยู่ในขวดสีหยกขาวก็ถูกดูดซึมจนหมดเกลี้ยง จากนั้นวารีวิญญาณในขวดหยกสีดำที่อยู่ด้านข้างก็ไหลเข้าสู่ปากของเฉินซีอย่างต่อเนื่อง

เวลาค่อย ๆ ดำเนินผ่านไป

ดวงตาของเฉินซียังคงปิดสนิทด้วยใบหน้าที่สงบนิ่ง เขายังไม่มีความคิดที่จะหยุดโคจรเคล็ดวิชาการบ่มเพาะของเขาเลยแม้แต่น้อย

สิ่งนี้ไม่อาจล่าช้าได้

หลังจากที่เขารู้แจ้งในเต๋าแห่งสายลมอย่างถ่องแท้ ดวงวิญญาณของเฉินซีก็ได้บรรลุไปสู่ขั้นใหม่และสามารถใช้ญาณสัมผัสในระดับที่ทัดเทียมกับของผู้บ่มเพาะขอบเขตเคหาทองคำซึ่งถูกเรียกว่า ‘ญาณจิต’

สิ่งสำคัญที่สุด การรู้แจ้งในเต๋าแห่งสวรรค์ของเฉินซีในตอนนี้ ได้ล้ำหน้าผู้บ่มเพาะในระดับเดียวกันและยังเหนือล้ำกว่าผู้บ่มเพาะขอบเขตเคหาทองคำทั่วไปอีกด้วย

เพียงอาศัยดวงวิญญาณอันทรงพลังที่อยู่ในขั้นญาณจิต และความเข้าใจอันยอดเยี่ยมในเต๋าแห่งการรู้แจ้ง เฉินซีก็สามารถบ่มเพาะจนบรรลุขอบเขตเคหาทองคำในรวดเดียวโดยไม่ต้องหยุดกลางคัน

แต่เงื่อนไขในเบื้องต้นคือต้องมีวารีวิญญาณเพียงพอที่จะเกื้อหนุนความรุดหน้าในการบ่มเพาะของเขา

ผู้บ่มเพาะบางคนที่ไม่สามารถก้าวหน้าและติดอยู่ที่คอขวดเป็นเวลาเนิ่นนานเป็นเพราะขาดแคลนวารีวิญญาณ หรือไม่ก็คือจิตวิญญาณของพวกเขายังไม่แข็งแกร่งพอ หากปราศจากจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งสำหรับการควบคุม พลังที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจะทำให้ล้มตายจากการระเบิดโดยมิอาจหลีกเลี่ยง

ก็เป็นเหมือนคนทั่วไปที่ครอบครองปราณแท้ที่สามารถเคลื่อนขุนเขา แต่ไม่ได้มีจิตวิญญาณที่เท่าเทียมเช่นเดียวกัน

หากคนผู้นั้นไม่อาจควบคุมปราณแท้ในร่างได้ย่อมมีผลลัพธ์คือจะต้องตายจากการระเบิดที่เกิดจากความปั่นป่วนของปราณแท้

นอกจากนี้ ดวงวิญญาณยังเป็นแกนกลางสำหรับควบคุมสมบัติวิเศษในการต่อสู้ ซึ่งเรียกว่าระดับการควบคุม แม้ว่าปราณแท้จะทรงพลังสักเพียงใด แต่การมีดวงวิญญาณที่อ่อนแอกว่าจะทำให้ไม่สามารถควบคุมสมบัติวิเศษได้อย่างเชี่ยวชาญราวกับแขนขา ดังนั้นพลังในการต่อสู้ของคนผู้นั้นย่อมอ่อนแอไปโดยปริยาย ถึงแม้ว่าปราณแท้ของคนผู้นั้นจะมีระดับทั่วไป แต่เมื่อครอบครองดวงวิญญาณที่ทรงพลัง ย่อมสามารถใช้สมบัติวิเศษได้อย่างเต็มที่ และพลังในการต่อสู้ของคนผู้นั้นก็จะเพิ่มพูนด้วยเหตุนี้

สรุปแล้ว การใช้ดวงวิญญาณเป็นสิ่งที่ลึกล้ำอย่างยิ่งเพราะมันส่งผลเกี่ยวเนื่องกับปราณแท้ ขอบเขตการบ่มเพาะ ความเข้าใจในมหาเต๋า การสร้างยันต์อักขระ การปรับแต่งอุปกรณ์หรือการฝึกสัตว์อสูร

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาดวงวิญญาณนั้นนับเป็นเรื่องที่ยากมาก

เพราะมีเพียงสามวิธีในการบ่มเพาะดวงวิญญาณ

ประการแรกคือ อาศัยเคล็ดวิชาจินตภาพ

ประการที่สองคือ อาศัยการรู้แจ้งในมหาเต๋า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]