บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 85

บทที่ 85 ชิ้นส่วนของแผนภาพวารีหลาก
บทที่ 85 ชิ้นส่วนของแผนภาพวารีหลาก

แผนภาพวารีหลาก!

ในชั่วพริบตาอารมณ์ของเฉินซีขึ้นลงปั่นป่วนราวกับระลอกคลื่นมหึมากลางมหาสมุทรคลั่ง

“เจ้าเคยได้ยินสิ่งที่เรียกว่าแผนภาพวารีหลากหรือไม่? มันเป็นแผนภาพที่ลึกลับที่สุดในสมัยโบราณ เหล่าเทพและมารในสมัยโบราณต่างใช้มันเพื่อทำความเข้าใจวิถีในเต๋าของตนเองให้บรรลุจุดสูงสุดของเต๋า

ด้วยเหตุนี้ การปรากฏของแผนภาพวารีหลากทุกครั้งจึงมาพร้อมกับการเข่นฆ่า ส่งผลให้เกิดความโกลาหลไปทั้งสามภพและกระทบต่อการกลับชาติมาเกิดทั้งหกวิถี ราวกับวันโลกาวินาศที่ผู้บ่มเพาะทุกคนต่อสู้แย่งชิงเพื่อครอบครองแผนภาพวารีหลาก เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ก็รู้สึกหนาวเย็นไปถึงกระดูก”

“โชคดีที่แผนภาพวารีหลากได้หายสาบสูญไปตั้งแต่สมัยโบราณ และฉากฆ่าฟันอันน่าสะพรึงของเหล่าเทพและมารก็ไม่เคยปรากฏขึ้นอีกนับล้านปีตั้งแต่นั้นมา เมื่อตอนที่ข้ายังเยาว์วัยหากท่านแม่ไม่ได้อ่านตำราโบราณของตระกูลให้ฟัง ข้าคงไม่รู้นามของแผนภาพวารีหลาก”

เมื่อได้ยินคำของราชาเต่าเฒ่า เฉินซีนึกย้อนถึงถ้อยคำมารดาของเขาเอง เสียงไพเราะดั่งเสียงดนตรีชวนให้ตกอยู่ในภวังค์และตกตะลึงของนางปรากฏขึ้นในหัว

เป็นเพราะแผนภาพวารีหลากนี้เอง!

ใช่ มีเพียงอำนาจของสมบัติในตำนานระดับนี้เท่านั้นจึงจะสามารถผนึกส่วนลึกของเทือกเขาแดนเถื่อนตอนใต้ได้เป็นเวลานับล้านปี!

เฉินซีอดไม่ได้ที่จะนึกถึงรูปปั้นผู้อาวุโสฝูซีอันมโหฬารและเก่าแก่ภายในทะเลจิตสำนึกของเขา ผู้อาวุโสฝูซีได้เฝ้าสังเกตแผนภาพวารีหลากเพื่อทำนายการเปลี่ยนแปลงของความลับจากสวรรค์ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของมหาเต๋าเพื่อบรรลุความรุ่งโรจน์สูงสุด การดำรงอยู่ของแผนภาพวารีหลากนั้นน่าสะพรึงกลัวเพียงใดสามารถเห็นได้จากสิ่งนี้ นับว่าเป็นสมบัติล้ำค่าอันดับหนึ่งของพิภพ!

นอกจากนี้ เฉินซีเคยได้ยินจี้อวี๋กล่าวว่า ผู้อาวุโสฝูซีในทะเลจิตสำนึกของเขามีเศษเสี้ยวพลังของแผนภาพวารีหลาก ซึ่งทุกวันนี้เฉินซีก็ยังไม่เข้าใจความลึกซึ้งที่ซ่อนอยู่ภายในนั้น ทว่าตอนนี้เมื่อเขาได้ยินราชาเต่าเฒ่ากล่าวถึงแผนภาพวารีหลาก ชายหนุ่มจึงอดไม่ได้ที่จะคิดทบทวนอยู่ในใจ ‘เป็นไปได้ไหมว่าอสูรชราผู้นี้สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง จึงมาหาและสิ่งที่ต้องการร้องขอจากข้านั้นเกี่ยวข้องกับแผนภาพวารีหลาก?’

“แผนภาพวารีหลาก? เป็นไปไม่ได้! สมบัติอันลึกลับเปี่ยมล้นไปด้วยอำนาจจะตกลงมายังสถานที่แสนกันดารห่างไกลเช่นที่นี่ได้อย่างไร!” เสียงของจี้อวี๋ดังขึ้นในหัวของเฉินซี

“ทว่าเฉินซีเจ้าควรตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด แผนภาพวารีหลากนั้นลี้ลับมากหากมันตกลงที่นี่จริง ๆ จะนับได้ว่าเป็นความโชคดีอย่างยิ่งและตัวเจ้าก็ไม่ควรพลาด เมื่อตอนนั้นเจ้านายของข้าได้รับมันมาโดยบังเอิญ

แต่ช่างน่าเสียดายในขณะที่นายท่านกำลังบรรลุมหาเต๋ามันกลับสลายหายไปในอากาศ ไม่ว่านายท่านของข้าจะค้นหาอย่างไร เขาก็ไม่เคยพานพบมันอีกเลย”

“สิ่งที่ข้าสงสัยตอนนี้คือเหตุใดอสูรสองตนนี้ถึงมาหาข้า? หรือว่าพวกมันล่วงรู้ว่าข้าครอบครองตราประทับกายาอันแท้จริงของผู้อาวุโสฝูซีอยู่ในทะเลจิตสำนึกของข้า?” เฉินซีได้แต่สงสัยอยู่ภายในใจ

“หืม?” จี้อวี๋ตกตะลึงและนิ่งเงียบไปเนิ่นนาน ดูเหมือนเขาจะสังเกตเห็นถึงบางสิ่งและทันใดนั้นจึงกล่าวว่า “อ้อ ข้าเข้าใจแล้ว ที่แท้ไอ้เจ้าเต่าตัวนี้ก็คือเต่ากระดองนิ่ม ในสมัยโบราณตระกูลเต่ากระดองนิ่มเชี่ยวชาญการทำนายทางโหราศาสตร์ และมีทักษะขั้นสูงในการทำนายโชคชะตาของผู้คนทั้งในอดีตและอนาคตภายในขอบเขตระยะเวลาหนึ่งปี ข้าคาดว่าเต่ากระดองนิ่มตัวนี้คงสังเกตเห็นอะไรบางสิ่งจากการทำนาย ดังนั้นมันจึงมาหาเจ้า”

“เป็นเช่นนี้เอง” เฉินซีเข้าใจทันที

“แต่มันไม่สมควรนัก เรื่องนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง ทันทีที่แผนภาพวารีหลากปรากฏขึ้นก็จะดึงดูดความสนใจเหล่าผู้แข็งแกร่งจากสวรรค์และโลก ดูเหมือนว่าข้าต้องปรากฏตัวเพื่อพบกับพวกมัน…” จี้อวี๋กล่าวอย่างแน่วแน่ น้ำเสียงของเขาจริงจัง

ในขณะที่เฉินซีจมอยู่ในห้วงความคิด ราชาเต่าเฒ่าและราชาจิ้งจอกเก้าหางต่างมองหน้ากัน แต่พวกเขาไม่ได้รบกวนชายหนุ่มแต่อย่างใด พวกเขาต่างหยิบถ้วยสุราขึ้นมาเพื่อลิ้มรสสุราอย่างระมัดระวังในขณะที่สื่อสารผ่านกระแสปราณ

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะกล่าวถูก เจ้าหนูผู้นี้รู้จักแผนภาพวารีหลากจริง ๆ” ราชาจิ้งจอกเก้าหางกล่าวอย่างรวดเร็ว น้ำเสียงของมันไม่อาจปกปิดความตื่นเต้นได้ “การบ่มเพาะของข้านั้นติดอยู่ในขอบเขตตำหนักอินทนิลขั้นสมบูรณ์แบบมาหลายพันปีแล้ว หากยังไม่สามารถฝ่าขีดจำกัดที่มีอยู่ภายในภูเขาแห่งนี้ เกรงว่าข้าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ช่างโชคดีที่สหายน้อยคนนี้ได้ปรากฏตัว!”

ราชาเต่าเฒ่าแค่นหายใจแล้วจึงกล่าวว่า “ใช่แล้ว หากไม่ใช่เพราะเผ่าอสูรของเรามีอายุขัยอันยาวนาน ข้าเกรงว่าเราคงจะไม่อาจทนไปต่ออีกหลายปี ดังนั้นเราควรคว้าโอกาสนี้ไว้”

ราชาจิ้งจอกเก้าหางพยักหน้าและทันใดนั้นก็กล่าวว่า “ถูกต้อง ว่าแต่เจ้าคิดว่าเขาจะสามารถครอบครองภาพวารีหลากได้หรือไม่?”

“สิ่งนั้นหาใช่แผนภาพวารีหลาก มันคือ…” ก่อนจะพูดจบประโยค ราชาเต่าเฒ่าก็เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วและร่องรอยความประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นในแววตาของเขา

ราชาจิ้งจอกเก้าหางก็ตกตะลึงเช่นกันแล้วเงยหน้าขึ้นมอง เมื่อพบกับชายชราร่างผอมบางที่ปรากฏกายขึ้นอย่างกะทันหัน เขาก็อดไม่ได้ที่จะกลั้นหายใจอย่างไม่รู้ตัว

เหนือขึ้นไปกลางอากาศมีร่างของชายชราผู้หนึ่งปรากฏขึ้นอย่างเงียบเชียบ ใบหน้าของชายชรานั้นผอมตอบ ดวงตาของเขาลึกล้ำไม่อาจหยั่ง ถือขวดน้ำเต้าสีครามอย่างเกียจคร้านในขณะที่กระดกดื่มด้วยท่าทางไม่แยแส หากไม่นับดวงตาที่ลึกล้ำพิสดาร รูปลักษณ์ของชายชราผู้นี้หากดูผิวเผินจะเหมือนกับชายชรามนุษย์ทั่วไป

อย่างไรก็ตาม สายตาของราชาอสูรทั้งสองย่อมเฉียบแหลมกว่าผู้คนทั่วไป พวกเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวจากร่างของชายชราผู้นี้ได้ในทันทีจนทำให้หัวใจของพวกเขาสั่นสะท้าน

ความรู้สึกราวกับกำลังเผชิญหน้ากับภูเขาสูงตระหง่านที่ไม่อาจหยั่งถึง ทำได้เพียงแหงนมองและเทิดทูนเท่านั้น!

จี้อวี๋ชำเลืองมองราชาอสูรทั้งสองและกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “เฒ่าเต่ากระดองนิ่มที่บ่มเพาะมาสามหมื่นหนึ่งพันสองร้อยปีและจิ้งจอกเก้าหางที่บ่มเพาะมาแปดพันสามสิบสามปี ทว่าพวกเจ้าทั้งคู่กลับมีการบ่มเพาะแค่เพียงขอบเขตตำหนักอินทนิลขั้นสมบูรณ์แบบเท่านั้น หากไม่เป็นเพราะมีอายุขัยที่ยาวนาน พวกเจ้าคงกลายเป็นกองกระดูกไปเนิ่นนานแล้ว”

ใบหน้าของราชาเต่าเฒ่าและราชาจิ้งจอกเก้าหางยิ่งเคร่งเครียดเพราะจี้อวี๋เปิดเผยตัวตนของทั้งสองด้วยถ้อยคำประโยคเดียว

“ท่านผู้อาวุโสจี้อวี๋มองพวกมันออกได้อย่างรวดเร็ว?” แม้เขาจะรู้ว่าการบ่มเพาะของจี้อวี๋นั้นยากที่จะหยั่งถึง แต่เฉินซีก็ยังอดทึ่งไม่ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]