บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 862

บทที่ 862 เผชิญหน้ากับศัตรูอีกครั้ง

บทที่ 862 เผชิญหน้ากับศัตรูอีกครั้ง

เมื่อเฉินซีกลับไปยังที่ชั้นที่เก้าของเจดีย์ต้าเหยี่ยน เขาก็เห็นกู่หลิวสุ่ยและคนอื่น ๆ กองอยู่บนพื้น ซึ่งแต่ละคนก็มีก้อนปูดบวมอยู่ที่ด้านหลังศีรษะ ทำให้ดูน่าขบขันอย่างยิ่ง

ท่าทางแปลก ๆ ปรากฏบนริมฝีปากของเฉินซี “หรือว่าทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของหม้อใบจิ๋ว?” เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ สายตาของชายหนุ่มได้กวาดมองไปรอบ ๆ แล้วกล่าวว่า “ผู้อาวุโส?”

ไม่มีใครตอบกลับ

เฉินซีตกตะลึง “หรือว่าผู้อาวุโสได้จากไปแล้ว?”

“ฆ่าพวกมันทั้งหมดแล้วจากไปซะ” ในขณะนี้ เสียงหนึ่งดังขึ้นจากบริเวณโดยรอบ และมันก็เป็นเสียงของหม้อใบจิ๋วอย่างแน่นอน

เฉินซีถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที หากกล่าวกันตามตรงละก็ หลังจากที่อยู่ด้วยกันมาเป็นเวลานาน เขาก็ไม่เต็มใจที่จะเห็นหม้อใบจิ๋วจากไป เพราะแม้ว่าหม้อใบจิ๋วจะช่างพูดจนเหมือนจู้จี้ แต่สถานะของมันในใจของเขาในตอนนี้ก็ยังไม่เคยเปลี่ยนแปลง

โดยไม่ลังเลใด ๆ ยันต์ศัสตราในมือของชายหนุ่มตวัดออกไปซ้ำ ๆ เข้าเชือดคอของกู่หลิวสุ่ยและคนอื่น ๆ

…เฉินซีลงมืออย่างเด็ดขาดและไม่มีความปรานีแม้แต่น้อย!

นับตั้งแต่ที่พวกเขาขึ้นไปบนเจดีย์ต้าเหยี่ยน คนพวกนี้ก็กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาต และเฉินซีก็เชื่อมั่นว่า หากเป็นเขาที่นอนอยู่บนพื้น เขาก็คงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!

สำหรับคุณชายและคุณหนูจากภพเซียน หนานซิ่วชง เหวินเหรินเยี่ย เฉาเหอ และฉู่เซียว แม้ว่าพวกเขาจะมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา แต่คนพวกนี้ก็สมควรตายเพราะทำให้เฉินซีขุ่นเคืองใจ!

“ไปกันเถอะ” หลังจากจัดการเรื่องราวทั้งหมดนี้แล้ว ชายหนุ่มก็เก็บยันต์ศัสตรา และตั้งใจที่จะออกจากชั้นที่เก้า

“ช่างมันเถิด พลังของข้ายังไม่ฟื้นดี ดังนั้นครั้งนี้ข้าจะปล่อยพวกไป” เสียงของหม้อใบจิ๋วดังขึ้น แต่มันยังไม่แสดงตัว

“ผู้อาวุโส ท่านหมายความว่าอย่างไร? หรือว่าพวกมันยังไม่ตาย?” เฉินซีตกตะลึง จากนั้นเขาจึงก้มศีรษะลงเพื่อตรวจดูศพจำนวนมากบนพื้น พลังชีวิตในร่างกายเหล่านี้ได้ดับสูญหมดแล้ว และไม่มีทางที่พวกมันจะฟื้นคืนชีพ

“เด็กน้อยเหล่านั้นมาจากภพเซียน และพวกมันได้เก็บดวงวิญญาณเอาไว้ที่ภพเซียน ดังนั้น เว้นแต่เจ้าจะบุกเข้าไปในนิกายของพวกมันและทำลายล้างดวงวิญญาณเหล่านั้น มิฉะนั้น พวกมันก็จะฟื้นคืนชีพได้” หม้อใบจิ๋วกล่าวอย่างใจเย็น

“ท่านว่าอันใดนะ!?” เฉินซีตกตะลึง เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเรื่องนี้ หากเป็นเช่นนี้จริง ๆ ผู้คนจากภพเซียนจะต้องเก็บดวงวิญญาณของพวกเขาไว้ที่นิกาย และไม่มีทางฆ่าพวกมันได้หรอกหรือ?

“มีเพียงนิกายที่ยิ่งใหญ่เท่านั้นที่สามารถทำสิ่งนี้ได้ ยิ่งกว่านั้น หลังจากที่ฟื้นคืนชีพจากดวงวิญญาณของพวกมันแล้ว พวกมันจะต้องเริ่มบ่มเพาะใหม่ตั้งแต่เริ่มต้น ดังนั้นมันจึงมีทั้งข้อดีและข้อเสีย” จากนั้นหม้อใบจิ๋วก็อธิบาย

เฉินซีพอจะเข้าใจแล้ว และดูเหมือนว่าเขาจะคิดอะไรบางอย่างได้ จึงถามออกไปว่า “ผู้อาวุโส แล้วตราประทับเทพปฐพีที่อยู่ในความครอบครองของกู่หลิวสุ่ยล่ะ?”

“ข้ากินมันเข้าไปแล้ว” คำตอบของหม้อใบจิ๋วนั้นตรงไปตรงมา

เฉินซีตกตะลึง และเขารู้สึกหมดหนทางอย่างยิ่ง เพราะเขาจะทำสิ่งใดได้อีกในเมื่อมันถูกกินไปแล้ว?

แต่หลังจากนั้น จู่ ๆ ชายหนุ่มก็ตระหนักได้ว่า เสียงของหม้อใบจิ๋วดูจะกลับมาเป็นปกติแล้ว มันทั้งราบเรียบ ไม่แยแส และไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ

‘หรือว่าข้อบกพร่องของผู้อาวุโสได้รับการเยียวยาแล้ว?’

เฉินซีพอคาดเดาได้ว่า มันอาจเกี่ยวข้องกับการกลืนกินสมบัติศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น เพราะแม้แต่ตราประทับเทพปฐพีก็ยังถูกมันกลืนกินเข้าไป ดังนั้นหากมันยังจู้จี้เหมือนสตรีขี้โมโหอยู่อีก ก็คงไม่ยุติธรรมอย่างแท้จริง…

“ไปกันเถอะ” ในขณะนี้ คลื่นพลังผันผวนได้ปรากฏอยู่ในอากาศ จากนั้นหม้อใบจิ๋วปรากฏตัวขึ้น และมันก็สว่างวาบก่อนที่จะหายไปในแขนเสื้อของเฉินซี

“ตกลง!” ชายหนุ่มพยักหน้า ก่อนที่ร่างของเขาจะสว่างวาบ และพุ่งเข้าสู่ความว่างเปล่าตรงหน้า

ก่อนหน้านี้ เฉินซีได้เห็นกระบวนการซ่อมแซมเจดีย์ต้าเหยี่ยนทั้งหมด โดยชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากได้ใช้ร่างกายของเขา ชายหนุ่มจึงได้รับความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับผังยันต์อักขระและข้อจำกัดในเจดีย์ ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีทางกลับไปสู่ชั้นที่แปดได้

ถึงขนาดที่ว่า หากเขาต้องขึ้นไปบนเจดีย์จากชั้นแรกอีกครั้ง ชายหนุ่มก็สามารถขึ้นไปถึงชั้นที่สิบได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องพึ่งพาปัจจัยภายนอกเลย

“โชคดีที่เด็กคนนี้ไม่สังเกตว่าข้าอ้วนขึ้น มิฉะนั้น มันคงน่าอายเกินไป…” ร่างอ้วนท้วมที่เหมือนลูกโป่งน้ำของหม้อใบจิ๋วหดกลับเข้าไปในเสื้อบนหน้าอกของเฉินซี และมันซ่อนตัวให้ลึกยิ่งกว่าเดิม

ที่ชั้นแปดของเจดีย์ต้าเหยี่ยน

หลัวจื่อเซวียนเป็นเหมือนมดที่อยู่บนกระทะร้อน ขณะที่ตัวคนเดินขึ้นลงไปมา และที่หว่างคิ้วก็เต็มไปด้วยความวิตกกังวลและความโกรธ “ข้าสงสัยว่าไอ้เด็กบัดซบนั่นขึ้นไปถึงขั้นใดของบันไดชั้นที่เก้า…”

การต่อสู้ระหว่างผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนลึกลับใต้บันไดได้ดำเนินมาหนึ่งชั่วยามแล้ว

จนกระทั่งการต่อสู้ดำเนินมาถึงจุดนี้ เหลียงปิงกับเถิงหลานต่างโชกไปด้วยเลือด หว่างคิ้วของพวกเขาเต็มไปด้วยความอ่อนล้า และไม่ว่าความเชื่อมั่นในใจของคนทั้งคู่จะแข็งแกร่งเพียงใด ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ฝ่ายที่ด้อยกว่าก็ยากจะหลบหนีได้!

ถึงกระนั้นเถิงหลานกับเหลียงปิงก็ยังสามารถยืนหยัดได้จนถึงตอนนี้ ทำให้หลัวจ้านเป่ยและคนอื่น ๆ รู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย

แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ จิตสังหารของหลัวจ้านเป่ยและคนอื่น ๆ ก็ยิ่งมากขึ้น เพราะหากฝ่ายตรงข้ามสามารถหลบหนีไปได้ มันจะนำไปสู่ปัญหาที่ไม่มีทางสิ้นสุดในภายภาคหน้า!!

ภาพตรงหน้าของพวกเขาคือ เถิงหลานกับเหลียงปิงที่เป็นเหมือนใบไม้สองใบลอยอยู่ในมหาสมุทร กำลังถูกคลื่นซัดกระหน่ำครั้งแล้วครั้งเล่า แม้ว่าพวกเขาดูเหมือนใกล้จะจม แต่คนทั้งสองก็ยังพยายามดิ้นรน และไม่ยอมรับชะตากรรม!

หลัวจื่อเซวียนรู้สึกหงุดหงิดยิ่งขึ้นเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทำให้ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว ในขณะที่พึมพำอย่างคลุ้มคลั่ง “ไอ้พวกขยะ! พวกมันไม่แม้แต่จะฆ่าไอ้เด็กบัดซบนั้นได้?! ถ้ามันสามารถขึ้นสู่ชั้นที่สิบได้จริง ๆ ละก็…”

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ร่างกายของหลัวจื่อเซวียนก็แข็งทื่อไป และเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีก แต่สีหน้าของเจ้าตัวก็ค่อย ๆ กลับคืนสู่ความสงบ “แม้ว่าไอ้เด็กบัดซบนั่นจะได้รับเคล็ดวิชาบ่มเพาะ แต่ยังมีโอกาสให้พลิกสถานการณ์ได้ เราแค่ต้องเฝ้ารอที่นี่ และรอมันลงมาก่อนค่อยสังหารมัน จากนั้นค่อยชิงเคล็ดวิชาบ่มเพาะมาจากศพมันก็พอ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]