บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 92

บทที่ 92 ตราขุมทรัพย์สวรรค์ทองคำม่วง
บทที่ 92 ตราขุมทรัพย์สวรรค์ทองคำม่วง

เปลือกจักจั่นสีคราม!

โสมโลหิตสุริยันเกลียวหยก!

สมุนไพรภัยพิบัติทั้งเจ็ด!

ทุกครั้งที่เล่อฉีระบุชื่อของวัตถุดิบ ในใจของเขาก็รู้สึกตกตะลึง ดวงตาของเขาเปล่งประกายขึ้นเรื่อย ๆ การเคลื่อนไหวของมือดูนุ่มนวลขึ้น มันดูไม่เหมือนกับกำลังประเมินสมบัติ แต่คล้ายกับกำลังลูบใบหน้าของคนรักแทน

ในฐานะผู้ประเมินสูงสุดในหอขุมทรัพย์สวรรค์แห่งเมืองทะเลหมอก ดวงตาของเล่อฉีได้รับการบ่มเพาะให้เฉียบคมเป็นพิเศษมานานแล้ว และวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ผ่านมือของเขาก็มีมากมายนับไม่ถ้วน ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยพบเห็นวัตถุดิบวิญญาณล้ำค่าเหล่านี้ แต่เมื่อเห็นกองวัตถุดิบวิญญาณที่สูงดั่งเนินเขาเล็ก ๆ ตรงหน้า เขาก็ยังต้องตกตะลึง

ตกตะลึงอย่างไม่รู้จบ!

ตกตะลึงราวกับคลื่นที่ทวีความปั่นป่วนมากขึ้นเรื่อย ๆ!

หากกล่าวตามตรง ระดับของวัตถุดิบวิญญาณเหล่านี้ไม่ได้สูงนัก และถือได้ว่าเป็นระดับต่ำเท่านั้น แต่พวกมันล้วนหายากยิ่งนัก เกือบทั้งหมดเป็นวัตถุดิบที่ไม่สามารถพบเจอในโลกมานานแล้ว!

ไม่ว่าจะเป็น การกลั่นโอสถ หุ่นเชิด หรือสมบัติวิเศษ ล้วนมีความแตกต่างระหว่างวัตถุดิบหลักและวัตถุดิบเสริม

วัตถุดิบหลักโดยปกติเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งจะกำหนดระดับและขั้นของสมบัติวิเศษหลังจากที่มันเสร็จสมบูรณ์ แต่วัตถุดิบเสริมก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน แม้ว่าวัตถุดิบหลักจะสมบูรณ์ แต่หากขาดวัตถุดิบเสริมที่จำเป็น จะทำให้สมบัติวิเศษนั้นไม่สามารถเสร็จสมบูรณ์ได้อย่างเต็มที่

ยกตัวอย่างเช่น โอสถที่ได้รับความนิยมอย่างมากในโลกแห่งการบ่มเพาะเมื่อพันปีก่อน นั่นก็คือผงรวมจิตแห่งการบ่มเพาะ หลังจากผู้บ่มเพาะซึมซับมันเข้าไป มันจะสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการบรรลุขอบเขตตำหนักอินทนิลและเสริมสร้างรากฐานเต๋าให้มั่นคงมากขึ้นได้ถึงสองส่วน มันช่างทรงพลังใช่ไหม? แต่น่าเสียดาย เนื่องจากการหมดไปของวัตถุดิบเสริมระดับต่ำที่เรียกว่าเกสรดอกนกเขาวิญญาณ จึงทำให้ผงรวมจิตแห่งการบ่มเพาะหายสาบสูญไปจากหน้าประวัติศาสตร์แห่งการบ่มเพาะตั้งแต่หลายพันปีก่อน เพราะเหลือเพียงสูตรยาเท่านั้น

มีตัวอย่างอีกมากมายที่เป็นเช่นนี้

สูตรยา วิชาการสร้างศัสตรา และเคล็ดวิชาการฝึกสัตว์อสูรที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยโบราณได้ค่อย ๆ หายสาบสูญไปจากโลกแห่งการบ่มเพาะเนื่องจากขาดวัตถุดิบวิญญาณบางประเภทที่จำเป็นต้องใช้ควบคู่กัน

เล่อฉีตระหนักถึงสิ่งนี้ดี เพราะทราบถึงเหตุการณ์ในอดีตเหล่านี้ เมื่อเขาเห็นวัตถุดิบวิญญาณจำนวนมากที่ควรถูกฝังอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์กลับมาปรากฏขึ้นตรงหน้า เขาก็รู้สึกตกตะลึงในทันที!

“ฟู่ว~!”

เล่อฉีถอนหายใจและระงับความตื่นเต้น ในขณะเริ่มจัดระเบียบวัตถุดิบอย่างรวดเร็ว ในเวลานี้ เขาได้แสดงถึงความเป็นมืออาชีพ เขาวางแผนอย่างรวดเร็วเพื่อทำการเลือก คัดแยก และจัดเรียงวัตถุดิบวิญญาณที่ซ้อนกันเหมือนภูเขาอย่างเป็นระเบียบ การเคลื่อนไหวของเขาอ่อนโยนและราบรื่น ช่างเป็นที่พอใจแก่ผู้พบเห็น

“วัตถุดิบเหล่านี้มีอะไรพิเศษหรือ? ข้าเพียงคิดว่ามันมีปริมาณที่เยอะเท่านั้น” ต้วนมู่เจ๋ออดไม่ได้ที่จะถามเสียงเบา เขาไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเหตุใดผู้ประเมินที่ยอดเยี่ยมอย่างเล่อฉีถึงตื่นเต้นขนาดนี้ ราวกับว่าอีกฝ่ายได้กินยาที่มีฤทธิ์ธาตุหยางรุนแรง*[1]

“ไม่แปลกหรอก” ตู้ชิงซีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “วัตถุดิบวิญญาณเหล่านี้ไม่สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาด ยิ่งไปกว่านั้นส่วนใหญ่ไม่มีผู้ใดพบเจอมานานแล้ว ดังนั้นแม้พวกมันจะอยู่ในระดับต่ำ แต่ความหายากของมันทำให้มีราคายิ่งนัก”

ต้วนมู่เจ๋อยังคงไม่เข้าใจ วัตถุดิบที่สูญพันธ์ุไปแล้วมันแปลกตรงไหน?

ทว่าเฉินซีกลับเข้าใจในทันที เนื่องจากอำนาจพลังของชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากทำให้ส่วนลึกของเทือกเขาแดนเถื่อนตอนใต้ถูกแยกออกจากโลกภายนอกมาเป็นเวลานับล้านปี มันเหมือนกับดินแดนนอกโลกที่สมุนไพรวิญญาณและไม้วิญญาณยังคงงอกเงยขึ้นมากมาย ควบคู่ไปกับบรรดาสัตว์อสูรที่ให้ความสำคัญกับธรรมชาติ ไม่เหมือนกับผู้บ่มเพาะชาวมนุษย์ที่มักยึดครองเพื่อควบคุมทรัพยากรทั้งหมด สมุนไพรวิญญาณและไม้วิญญาณที่อยู่ภายในนั้นย่อมสามารถอยู่รอดได้อย่างสมบูรณ์จวบจนถึงตอนนี้

แม้ว่าเฉินซีจะเข้าใจเรื่องนี้ แต่เขาก็ยืนยันที่จะขายสิ่งเหล่านี้อยู่ดี เขาไม่ใช่นักเล่นแร่แปรธาตุ ผู้ฝึกสัตว์อสูร หรือช่างสร้างศัสตราวิเศษ… มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเก็บวัตถุดิบเหล่านี้ไว้ แล้วไยจึงไม่ขายพวกมันทิ้งไปเสียล่ะ?

“ทั้งหมดเป็นสมุนไพรวิญญาณ 80,000 ต้น ไม้วิญญาณ 27,032 ท่อน แร่และวัตถุดิบอื่น ๆ อีก 40,099 ชนิด” ในขณะนี้เอง เล่อฉีได้ทำรายการสินค้าของเขาเสร็จสิ้น เมื่อเขายืนขึ้นก็ยังตกอยู่ในภวังค์ เนื่องจากวัตถุดิบแทบทั้งหมดเป็นสิ่งของหายากที่ได้สูญพันธุ์ไปจากโลกแล้ว เมื่อได้เห็นสิ่งต่าง ๆ มากมายในระยะเวลาอันสั้น เขาก็รู้สึกราวกับกำลังท่องไปในความฝัน

“เป็นมูลค่าเท่าใด?” เฉินซีเอ่ยถาม

“ท่านอาจารย์เล่อฉี เฉินซีเป็นพี่น้องของข้า หวังว่าจะท่านไม่เอาเปรียบพวกเรามากนัก” ต้วนมู่เจ๋อยิ้มกว้างขณะที่เตือนด้วยน้ำเสียงคลุมเครือ

เล่อฉีรับรู้ได้ทันใดและกล่าวด้วยความเคารพต่อเฉินซีว่า “หากคำนวณตามหน่วยของวารีวิญญาณแล้ว วัตถุดิบมากกว่าหนึ่งแสนชิ้นควรจะมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 1.25 ล้านชั่งของวารีวิญญาณ”

1.25 ล้านชั่ง!

ตู้ชิงซีและคนอื่น ๆ ต่างตกตะลึง วัตถุดิบวิญญาณระดับต่ำเหล่านี้สามารถแลกเปลี่ยนเป็นวารีวิญญาณได้ถึง 1.25 ล้านชั่งเลยหรือ?

อย่างที่ทราบกัน ผู้บ่มเพาะที่มีระดับการฝึกฝนต่ำกว่าขอบเขตตำหนักอินทนิลต่างก็บ่มเพาะด้วยศิลาวิญญาณหรือผลึกวิญญาณ หรือไม่ก็ซื้อสิ่งของที่จำเป็นสำหรับการบ่มเพาะเท่านั้น ในขณะที่ผู้บ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิลหรือเหนือกว่านั้นจะใช้วารีวิญญาณแทนเงินตราหรือเพื่อวัดมูลค่าของสมบัติในโลก

วารีวิญญาณ 1.25 ล้านชั่งเพียงพอที่จะแลกเปลี่ยนเป็นสมบัติวิเศษระดับมนุษย์ขั้นสูงสุดหลายร้อยชิ้น หรือสมบัติวิเศษระดับล้ำลึกมากกว่าสิบชิ้น!

ศัสตราสูงสุดที่พวกตู้ชิงซีครอบครองอยู่ในระดับมนุษย์ขั้นสูงเท่านั้น ในเวลานี้ เมื่อได้ยินตัวเลขมหาศาลที่เล่อฉีประกาศออกมา หัวใจของพวกเขาก็สั่นคลอนอย่างรุนแรง

‘1.25 ล้านชั่ง?’ เฉินซีลอบสูดหายใจด้วยความตื่นเต้น แต่เขาไม่ได้แสดงอาการเลยแม้แต่น้อย “ข้าขอเรียนถามท่านอาจารย์เล่อ อย่างน้อย 1.25 ล้านชั่งหมายถึงสิ่งใด? เป็นไปได้หรือไม่ว่า แม้แต่ท่านก็ไม่อาจกำหนดมูลค่าที่แน่นอนได้”

เล่อฉีพยักหน้ารับและกล่าวว่า “มูลค่าของพวกมันสูงเกินไป ข้าจึงไม่กล้าเสนอราคาที่แน่นอนด้วยตัวเอง ดังนั้น ทุกท่านโปรดรอสักครู่ ข้าจะไปหารือกับผู้ดูแลท่านอื่นก่อนและจะรีบกลับมาพบพวกท่านทุกคน” ทันทีที่เขากล่าวจบ เล่อฉีก็รีบจากไป

ชั้นบนสุดของหอขุมทรัพย์สวรรค์

หอขุมทรัพย์สวรรค์ เป็นอาคารที่สูงที่สุดในเมืองทะเลหมอก มันมีความสูงราว ๆ เก้าร้อยจั้ง ประหนึ่งเสาสวรรค์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว หากใครขึ้นไปยืนอยู่บนยอดนั้น ดวงดาวสว่างไสวที่มีขนาดเท่ากำปั้นดูเหมือนจะถูกเด็ดลงมาได้อย่างง่ายดาย

ในขณะนี้ เล่อฉียืนอยู่ที่ชั้นบนสุดด้วยท่าทางที่นอบน้อม และบนม้านั่งตรงข้ามเขา มีสตรีที่งดงามอย่างยิ่งกำลังนอนด้วยท่าทางที่สง่างาม

ดวงตาเรียวของนางดุจหยดน้ำ ใบหน้างดงามราวกับหิมะ และผมสีดำขลับของนางก็สยายราวกับก้อนเมฆ นางนอนตะแคงบนม้านั่งนุ่ม ๆ ร่างอันสง่างามของนางได้รับการพรรณนาอย่างหมดจดเผยให้เห็นถึงเสน่ห์ที่ไร้ขอบเขตของนาง

หากต้วนมู่เจ๋ออยู่ที่นี่ เขาย่อมจำสตรีผู้นี้ได้อย่างแน่นอน เพราะนางเป็นเจ้าของหอขุมทรัพย์สวรรค์ในเมืองทะเลหมอกแห่งนี้ ท่านหญิงสุ่ยฮวา!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]