บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 949

บทที่ 949 เต๋ารู้แจ้งแห่งการพิพากษา

บทที่ 949 เต๋ารู้แจ้งแห่งการพิพากษา

ณ ค่ายกลเคลื่อนย้ายมิติของเมืองผาทมิฬ

แสงจ้าสว่างวาบ จากนั้นเฉินซี ชุยชิงหนิง กู่เทียน และเป้ยหลิงก็หายตัวไป

ส่วนผู้คุ้มกันที่ติดตามกู่เทียนเพื่อปกป้องชุยชิงหนิงได้ถูกทิ้งไว้ข้างหลังแทน ประการแรกเป็นเพราะพลังของพวกเขาต่ำเกินไป ส่วนอีกประการเป็นเพราะการเพิ่มเข้ามาของเฉินซีและเป้ยหลิง ทำให้พวกเขาไม่มีความจำเป็นต้องติดตามไป

ชุยหมิงส่งเฉินซีและคนอื่น ๆ ด้วยตัวเอง พร้อมกับมอบตราหยกให้แก่เฉินซี ซึ่งเขาได้กล่าวว่า หากเฉินซีไปถึงนรกใต้พิภพแล้ว จะมีคนมาติดกับเฉินซีเพื่อให้เบาะแสเกี่ยวกับเข็มทิศปรโลก นอกจากนี้ ตราหยกนี้ยังเป็นหลักฐานยืนยันตัวตนของเฉินซีต่อบุคคลนั้น

ณ ภูมิภาคน้ำพุยมโลก เมืองราหู

ค่ายกลเคลื่อนย้ายมิติที่นอกเมืองพลันสว่างวาบ จากนั้นเฉินซีและคนอื่น ๆ ก็เดินออกมาจากค่ายกล

สิ่งแรกที่สะท้อนในดวงตาของพวกเขาคือ พื้นที่สีแดงอันงดงามที่ราวกับว่ามันกำลังลุกเป็นไฟ!

ไม่ว่าจะพื้น บริเวณหน้ากำแพง ด้านข้างของถนน… ทุกสิ่งถูกปูด้วยดอกไม้ที่มีสีแดงสดเหมือนโลหิต พวกมันแผ่ขยายออกไปไกล จนดูเหมือนเปลวไฟที่โชติช่วงปกคลุมพื้นดิน

เมื่อมองจากระยะไกล มันดูจะเป็นพรมที่ย้อมด้วยโลหิตสด ๆ และเหมือนกับเปลวไฟแห่งโลหิตที่ลุกโชน

ดอกปารมิตา!

พวกมันถูกเรียกอีกอย่างว่า ดอกพลับพลึงแดง พวกมันเป็นดอกไม้ที่นำดวงวิญญาณไปสู่การเกิดใหม่ และเป็นดอกไม้แห่งความตายที่บ่งบอกถึงความหายนะ ความทุกข์ หรือการพลัดพราก

ตามตำนานเล่าว่า หลังจากที่คนผู้หนึ่งเสียชีวิตลง ดวงวิญญาณของใครคนนั้นจะถูกดอกไม้เหล่านี้นำทางไปยังยมโลกเพื่อเกิดใหม่ ในขณะที่เส้นทางที่ถูกปกคลุมด้วยดอกปารมิตานี้ถูกเรียกอีกอย่างว่า ‘เส้นทางที่สว่างไสวด้วยเปลวไฟ’ โดยนำพาดวงวิญญาณไปสู่อีกฟากหนึ่ง

แม้ว่าจะอยู่ในภพมนุษย์ แต่เฉินซีก็เคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับดอกปารมิตาและตำนานที่เกี่ยวข้องกับดอกไม้เหล่านี้ ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะอุทานด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นดอกไม้เหล่านั้นด้วยตาตนเองในขณะนี้

เท่าที่ชายหนุ่มทราบ ว่ากันว่าดอกปารามิตานั้นผลิบานและร่วงโรยเป็นวัฏจักรหนึ่งพันปี แต่ใบและดอกไม่เคยมาบรรจบกัน ทำให้พวกมันต้องพรากจากกันด้วยโชคชะตา เสมือนดาวคู่รักที่ไขว้กัน มันมีหน้าที่นำทางดวงวิญญาณข้ามไปสู่ยมโลกที่อยู่อีกฟากหนึ่ง ซึ่งในเวลาเดียวกัน มันก็เป็นหนึ่งในสามมหาเต๋าสูงสุดของยมโลก นอกจากนี้ เต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตาจะถือกำเนิดขึ้นจากดอกปารมิตาใน ‘เส้นทางที่สว่างไสวด้วยไฟ’

อาจกล่าวได้ว่า ดอกปารมิตานั้นเปรียบเสมือนกับดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ชนิดหนึ่งในยมโลก และเป็นที่รักของสรรพสัตว์ในยมโลก

“ทั้งหมดนี้คือดอกปารมิตาธรรมดา ๆ และดอกปารมิตาที่มีค่าที่แท้จริงจะเติบโตในช่องเขาพระราหู หากเจ้าโชคดีพอที่จะได้รับผลของดอกปารมิตา เจ้าก็จะสามารถเข้าใจร่องรอยของเต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตาได้” กู่เทียนอธิบายด้วยเสียงที่แผ่วเบา เขารู้ว่าเฉินซีมาที่นี่เป็นครั้งแรก และไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย

“ผลของดอกปารมิตาหรือ?” เฉินซีคิดในใจและเกิดความสนใจเป็นอย่างยิ่ง เขาจึงจ้องมองไปทางเป้ยหลิง ขณะที่ดูจะกำลังครุ่นคิดถึงอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะกล่าวว่า “เป็นไปได้หรือไม่ว่า เต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตาที่เจ้ามีอยู่นั้นสามารถทำความเข้าใจได้จากสิ่งนี้ได้?”

ในระหว่างที่นางต่อสู้กับรุ่ยฉิงจากวิถีวิญญาณเมื่อวานนี้ เป้ยหลิงได้เผยศาสตร์เต๋าที่บรรจุเต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตาไว้เล็กน้อย ซึ่งในเวลานั้น เฉินซีค่อนข้างประหลาดใจ แต่เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่กู่เทียนกล่าว เขาก็เข้าใจได้ทันทีว่า ในฐานะหนึ่งในสามมหาเต๋าสูงสุดของยมโลก อาจมีคนมากมายที่เข้าใจมัน

เป้ยหลิงพยักหน้าและกล่าวว่า “ถูกต้อง เมื่อหลายปีก่อน ครั้งหนึ่งข้าบังเอิญได้รับผลของดอกปารมิตามาสามผล หลังจากฆ่าคู่ต่อสู้ในดินแดนอ่างโลหิต มันก็ทำให้ข้าเข้าใจในเต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตา”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ความสนใจของเฉินซีก็เพิ่มพูนมากขึ้น จากนั้นเขาก็กล่าวว่า “ถ้าเรามีโอกาส ข้าอยากจะไปที่ช่องเขาพระราหู”

โดยไม่รีรออีกต่อไป คณะของพวกเขาเดินทางผ่านเส้นทางที่ปกคลุมด้วยดอกปารมิตาและมุ่งหน้าไปยังเมืองราหูทันที

กู่เทียนได้กล่าวว่า นรกใต้พิภพเป็นสถานที่หลักของยมโลก ซึ่งถูกแบ่งออกเป็นภูมิภาคน้ำพุยมโลก ภูมิภาคแม่น้ำลืมเลือน ภูมิภาคราชหกวิถี และภูมิภาคพญายม

ทุก ๆ ภูมิภาคนั้นกว้างใหญ่ไร้ขอบเขตและปกคลุมไปด้วยเมืองอย่างหนาแน่น ซึ่งเหมือนกับโลกใบเล็กของภพมนุษย์

การเข้าสู่ภูมิภาคน้ำพุยมโลกนั้น เทียบเท่ากับการเข้าสู่ภายในชายแดนภูมิภาคของนรกใต้พิภพ

ยิ่งกว่านั้น เมืองราหูยังเป็นแนวป้องกันทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาคน้ำพุยมโลก ซึ่งมีสถานะพิเศษ มันถูกควบคุมอย่างแน่นหนาโดยกองกำลังอันยิ่งใหญ่ของนรกใต้พิภพ นั่นคือ โถงน้ำพุยมโลก

ความรับผิดชอบของโถงน้ำพุยมโลกนั้นสำคัญมาก มันมีหน้าที่ในการนำพาวิญญาณไปสู่การเกิดใหม่ หลังจากที่วิญญาณของสิ่งมีชีวิตที่เสียชีวิตในทั้งสามภพ พวกมันจะผ่านทวารนรกที่ถูกควบคุมโดยจักรพรรดิทั้งห้า ถูกนำทางโดยศิษย์ของโถงน้ำพุยมโลก

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ศิษย์คนหนึ่งของโถงน้ำพุยมโลกอาจจะเทียบเท่ากับปีศาจนรกที่มีหัวเป็นวัวและใบหน้าเป็นม้าในตำนานของภพมนุษย์ และพวกเขามีหน้าที่นำพาวิญญาณไปสู่การเกิดใหม่โดยเฉพาะ

จ้าวผู้ปกครองของโถงน้ำพุยมโลกคือมหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลก และสถานะของเขาเทียบเท่ากับมหาเสนาบดีของหกวิถีสังสารวัฏ จ้าวตำหนักของโถงยายเฒ่าเมิ่ง ยายเฒ่าเมิ่ง และจ้าวแห่งเมืองผู้หลงผิด พระกษิติครรภมหาโพธิสัตว์ของยมโลก โดยที่เขาเป็นหนึ่งในตัวตนสูงสุดที่มีอำนาจมหาศาล

ตามตำนานเล่าว่า ในยุคบรรพกาล บรรพชนปีศาจราหูเคยเข้าไปในยมโลกและถกเกี่ยวกับเต๋าเป็นเวลาหนึ่งร้อยวันกับบรรพชนแม่น้ำโลหิตของยมโลก และเนื่องจากเต๋าของพวกเขาขัดแย้งกัน พวกเขาจึงตัดสินว่าใครเหนือกว่าผ่านการต่อสู้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]