การต่อสู้ในเทือกเขาดินแดนรกร้างใต้พิภพอย่างไม่มีที่สิ้นสุดในปีนี้ ทำให้เฉินซีระลึกถึงหลักการที่สำคัญ นั่นคืออย่าประมาทเมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรู อีกทั้งยังต้องลงมือสังหารด้วยวิธีที่กระชับฉับไว สิ่งนี้เป็นกฎเหล็กเพียงข้อเดียวที่จะนำไปสู่ชัยชนะ!
แต่ในวันนี้ ชายหนุ่มไม่อาจหักห้ามใจได้จริง ๆ
บ้านทั้งหลังพังทลายและผู้คนต่างถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมภายในระยะสามีร้อยลี้ อีกทั้งชายหนุ่มยังมีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้ร้านค้าของตระกูลจางกับร้านอาหารนทีกระจ่างกลายเป็นซากปรักหักพังที่เต็มไปด้วยคราบเลือด แม้แต่ซากศพยังไม่หลงเหลือเลยแม้แต่น้อย
ฉากโศกนาฏกรรมครั้งนี้เปรียบเสมือนใบมีดแหลมคมเหลือคณานับทิ่มแทงหัวใจ แม้แต่จิตวิญญาณของเขายังสั่นสะท้านไปด้วยความเจ็บปวด
ตั้งแต่เฉินซีเกิดมาก็ไม่เคยรู้สึกเคียดแค้นเท่าวันนี้ มันอัดอั้นสะสมอยู่ในอกจนแทบปะทุ และได้มาถึงจุดที่ทำให้เขาตกอยู่ในสภาวะกระหายเลือด!
‘หากวันนี้เลือดไม่เจิ่งนองย้อมแผ่นดิน แล้วเหตุนี้จะระบายความแค้นในใจข้าได้อย่างไร?’
สิ่งที่เกิดขึ้นนอกจากเปลวเพลิงแห่งโทสะที่แผดเผาในแววตาแล้ว ยังมีร่องรอยของความไม่แยแสปราศจากอารมณ์ใด
เฉินซีคือผู้รอดชีวิตจากการรบรันฟันแทงมานับครั้งไม่ถ้วน ไม่เพียงแต่เชี่ยวชาญในการต่อสู้ แต่ยังมีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่ไม่มีผู้ใดทัดเทียม
ความไม่แยแสและความเกรี้ยวกราดของเขา ไม่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการต่อสู้ ตรงกันข้าม มันกลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง!
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
ลูกดอกหนึ่งพันเก้าร้อยลูกถูกยิงออกไป พุ่งผ่านท้องฟ้าด้วยพลังรุนแรง ปลายลูกดอกแข็งและเย็นยะเยือก พวกมันส่งเสียงหวีดหวิวแสบหูขณะที่พุ่งเข้ามาทำร้ายเขา
ลูกดอกเหล่านี้เป็นเหมือนมวลเมฆทมิฬที่เคลื่อนตัวไปข้างหน้า ปกคลุมผืนฟ้าและแผ่นดิน ทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหมดหนทางและไม่อาจหลบเลี่ยง
อย่างไรก็ตาม การโจมตีเช่นนี้เต็มไปด้วยข้อบกพร่อง และไม่อาจหยุดยั้งเฉินซีเลยแม้แต่น้อย
เมื่อบ่มเพาะเคล็ดวิชาแปดก้าวมังกรสวรรค์บรรลุถึงขั้นเอกภาพ เขาก็สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของลูกดอกมหาศาลได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งในตอนนี้ยังได้บ่มเพาะเคล็ดวิชาวาตะเหินทะยาน และวิชาตัวเบาของเขาก็มีเศษเสี้ยวของเต๋าแห่งสายลม ด้วยเหตุนี้เองจึงไม่จำเป็นต้องกังวลกับการโจมตีของลูกดอกที่มากกว่าสองพันลูกเลย ถึงแม้จะมีอีกสิบหรืออีกหลายร้อยเท่าก็ยังไม่อาจสัมผัสแม้แต่ชายเสื้อ แล้วจะนับประสาอะไรที่จะทำร้ายร่างกายเขาได้
ฟิ้ว!
ในเวลาต่อมา เฉินซีหายไปจากบริเวณนั้นแล้ว
ลูกดอกที่ยิงออกไปราวกับสายฝนต่างพลาดเป้า ทว่าร่างขององค์รักษ์อาชาสวรรค์ที่พุ่งเข้ามาก่อนหน้านี้มีรูพรุนมากมาย พวกมันตายอย่างน่าอนาถยิ่งนัก
“ตั้งค่ายกล!” ผู้ดูแลอู๋คาดว่าเฉินซีจะต้องหลบเลี่ยงการโจมตีของลูกดอกได้อยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นทันทีที่หน้าไม้หนักวิญญาณเหินถูกยิงออกไป เขาก็ตะโกนออกคำสั่งเสียงดังในทันที และล่าถอยไปทางด้านหลังของกลุ่มคนอย่างเงียบงัน
ชิ้ง!
องค์รักษ์หนึ่งพันเก้าร้อยคนต่างชักดาบออกมาอย่างพร้อมเพรียง ก่อให้เกิดเสียงดังกังวานอยู่ในหู ขณะเดียวกัน องค์รักษ์อาชาสวรรค์เก้าร้อยคนกับองค์รักษ์เกราะขาวหนึ่งพันคนก็เคลื่อนไหวในทันที และสลับไปมาเพื่อผสานในแนวนอนและแนวตั้ง
เพียงชั่วพริบตา พวกเขาก็สร้างค่ายกลกระบี่ที่เปี่ยมด้วยจิตสังหารขึ้นมา พวกมันพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ดาบแทงพยัคฆ์ที่แวววาวและแหลมคมมากมายชี้ไปยังท้องฟ้า และภายใต้ดวงอาทิตย์อัสดง ประกายสีเลือดก็ปรากฏบนใบมีดดาบ
“เฉินซี หากไม่อาจเอาชนะค่ายกลหยินหยางพันดาบ เจ้าก็จะไม่มีวันที่บุกเข้าสู่ตระกูลหลี่ของข้าได้ ! ฮ่า ๆๆ…” ผู้ดูแลอู๋ซ่อนอยู่หลังประตูที่ปิดสนิทและหัวเราะอย่างเย่อหยิ่ง แต่เขากลับต้องชะงักไป
ในขณะนี้เอง ราวกับมีใครบางคนกำลังบีบคอผู้ดูแลอู๋ ดวงตาของเขาเบิกโพลง ขณะที่มองดูร่างที่ยืนอยู่ข้างหน้าอย่างหวาดกลัว ตัวเขาก็ถูกความกลัวเข้าครอบงำเสียแล้ว!
เจ้าคนนี้… เข้ามาตั้งแต่เมื่อใด? ความเร็วของเขาจะรวดเร็วขนาดนี้เชียวหรือ?
ฟิ้ว!
ประกายแสงเย็นเยียบปรากฏขึ้นฉับพลัน ผู้ดูแลอู๋ไม่มีเวลาแม้แต่จะร้องขอความช่วยเหลือใด ๆ ก่อนที่จะเกิดรูเลือดเจาะตรงลำคอ และแม้กระทั่งก่อนตาย เขาก็ไม่รู้ว่าเฉินซีปรากฏตัวต่อหน้าได้อย่างไร
“เฮ้ย! เฉินซีมันเข้ามาได้แล้ว!”
“ผู้ดูแลอู๋ตายแล้ว เขาตายภายใต้คมกระบี่ของเฉินซี!”
“ใครก็ได้ เร็วเข้า! เฉินซีบุกเข้ามาแล้ว!”
…
ด้านหลังประตูเป็นลานโล่งที่มีพื้นที่ราว ๆ สี่หมื่นจั้ง พื้นดินถูกปูด้วยหินปูนที่แข็งและเรียบ ด้านหลังเป็นเส้นทางมากมายที่นำไปสู่จวนของตระกูลหลี่
ในเวลานี้ เหลือข้ารับใช้ไม่กี่สิบคนอยู่ในลานโล่ง เมื่อเห็นเฉินซีคร่าชีวิตผู้ดูแลอู๋ด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะกรีดร้องก่อนที่จะแยกย้ายกันหลบหนี
ฟึบ!
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะหนีอย่างหัวซุกหันซุน กระบี่ท่องปรภพก็พุ่งทะยานออกไปอย่างรุนแรง ราวกับว่าพวกมันมีดวงตาและปลิดชีพผู้คนได้
พวกข้ารับใช้ที่น่ารังเกียจที่คอยช่วยเหลือผู้กระทำความผิดนั้นสมควรตาย!
เฉินซีไม่ได้หันหลังกลับไปมอง ทว่าพุ่งเข้าไปข้างใน
“ทุกคนจู่โจมพร้อมกัน เพื่อฆ่าเจ้าตัวอัปมงคลนี่ซะ!”
“ถูกต้อง! ถึงมันผู้นั้นจะน่าเกรงขามเพียงใด แต่ก็มีเพียงผู้เดียวเท่านั้น!”
“ฆ่ามัน!”
ท่ามกลางเสียงโห่ร้อง เหล่าศิษย์ตระกูลหลี่ที่มีท่าทางดุร้ายพุ่งทะยานเข้าหาเฉินซีจากทุกทิศราวกับกระแสน้ำ
องค์รักษ์อาชาสวรรค์กับองค์รักษ์เกราะขาวที่สร้างค่ายกลหยินหยางพันดาบ ขนาดอยู่ด้านนอกประตูยังได้ยินเสียงโห่ร้องตะโกน พวกเขาจึงพุ่งไปยังประตู แต่ไม่ว่าจะเค้นสมองหาอย่างไรก็ไม่เข้าใจว่าเฉินซีเข้าประตูไปอย่างเงียบ ๆ ได้อย่างไร
แต่ด้วยสายตากับขอบเขตการบ่มเพาะ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะรับรู้ความเร็วของเต๋าแห่งสายลมที่สมบูรณ์ เมื่อผนวกรวมกับเคล็ดวาตะเหินทะยานนั้นช่างน่าสะพรึงกลัวจริง ๆ
ฝูงชนหลั่งไหลเข้ามามากมายราวกับกระแสคลื่น สมาชิกตระกูลหลี่เหล่านี้ล้วนมีท่าทางที่ดุร้าย เผยให้เห็นถึงความโหดเหี้ยมและกระหายเลือด ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้คนหวาดกลัวตัวสั่น
เมื่อสมาชิกตระกูลหลี่ที่นำหน้าอยู่เห็นเฉินซี ก็ยังคงนิ่งเฉยด้วยรู้สึกตกตะลึง เมื่อได้สติก็โห่ร้องด้วยปีติ “พี่น้อง! ฆ่ามัน! นายน้อยหลี่หมิงจะให้รางวัลมากมายแก่พวกเราอย่างแน่นอน!”
“ฆ่ามัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...
ลงวันละหลายตอนใต้ใหม่ครับ...
ไม่ลงต่อแล้วหรือครับ ผมยังรออยู่นะครับ...