บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 96

สรุปบท บทที่ 96 ชดใช้ด้วยเลือด ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! (1): บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]

บทที่ 96 ชดใช้ด้วยเลือด ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! (1) – ตอนที่ต้องอ่านของ บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]

ตอนนี้ของ บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] โดย novelones ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 96 ชดใช้ด้วยเลือด ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! (1) จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 96 ชดใช้ด้วยเลือด ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! (1)
บทที่ 96 ชดใช้ด้วยเลือด ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! (1)

ตระกูลหลี่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองหมอกสน และครอบครองพื้นที่กว่าสามร้อยหกสิบลี้ อาคารต่าง ๆ งดงามและโอ่อ่า ภายในจวนมีภูเขาเทียมที่มีธารน้ำไหล ศาลาริมน้ำและทางเดินอันคดเคี้ยวไปมาอย่างมีสัดส่วน ตรงใจกลางยังมีทะเลสาบที่มีพื้นที่กว่าเจ็ดสิบห้าลี้ ทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาด ข้ารับใช้ที่มีอยู่มากมายดั่งมวลเมฆ ทั้งหมดนี้ส่งให้บรรยากาศของตระกูลดูมั่งคั่งและทรงอำนาจ

ภายในห้องโถงใหญ่ในขณะนี้

ผู้ที่นั่งอยู่ในเก้าอี้ของผู้นำตระกูลไม่ใช่หลี่อี้เจิ้นอีกต่อไป แต่เป็นหลี่หมิงกำลังนั่งอยู่

“เป็นเช่นไรบ้าง? มีข่าวคราวจากตระกูลซูมาบ้างหรือไม่? ซูเจียวไม่ได้กลับไปนานแล้วหรือ? ข้าช่วยนางฆ่าคนไปนับหมื่นคน เป็นไปได้หรือไม่ที่นางจะไม่ยอมแต่งงานกับข้า” เขากำลังจิบสุราชั้นเลิศในถ้วยของตนเอง แต่สีหน้าของหลี่หมิงมืดมนยิ่งนัก ทั่วทั้งร่างของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นอายเลือดและความโหดเหี้ยม ซึ่งทำให้ดูดุร้ายยิ่งนัก

ผู้ดูแลอู๋ที่อยู่ใกล้เคียงเหงื่อท่วมหน้าและรีบอธิบาย “ตระกูลซูพอใจกับการกระทำของเรามาก แต่พวกเขาบอกว่านายน้อยจะต้องเข้าสู่สิบอันดับแรกของการประลองมังกรซ่อนในปีหน้าเสียก่อน นายน้อยถึงจะมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะแต่งงานกับคุณหนูซู”

“การจัดอันดับมังกรซ่อน?” หลี่หมิงกล่าวด้วยความประหลาดใจ

ภายในเมืองทะเลสาบมังกรนั้นประกอบด้วยแปดนิกายใหญ่ หกตระกูลใหญ่ และสามสำนักใหญ่ พวกเขาจะรวมตัวกันทุก ๆ สิบปีเพื่อจัดการประลอง และใช้สิ่งนี้เพื่อคัดเลือดผู้บ่มเพาะรุ่นเยาว์ที่มีพรสวรรค์โดยกำเนิดและสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ทั้งหมด

เกณฑ์สำหรับเข้าร่วมการจัดอันดับมังกรซ่อนนั้นสูงมาก ผู้บ่มเพาะรุ่นเยาว์ต้องบรรลุขอบเขตตำหนักอินทนิลก่อนอายุสามสิบปีจึงจะมีคุณสมบัติในการเข้าร่วม

ผู้บ่มเพาะรุ่นเยาว์ที่อยู่ในหนึ่งร้อยอันดับแรกจะได้รับรางวัลเป็นโอสถและเคล็ดวิชาการบ่มเพาะมากมาย

ผู้ที่ติดอันดับห้าสิบอันดับแรกจะได้รับสมบัติวิเศษที่ทรงพลังเป็นของรางวัล

ผู้ที่อยู่ในสิบอันดับแรกจะถูกชักชวนให้เข้าสู่หนึ่งในแปดนิกาย หกตระกูล หรือสำนักที่ยิ่งใหญ่ทั้งสามแห่งเพื่อที่จะกลายเป็นศิษย์สายตรง

ผู้ที่อยู่ในสามอันดับแรกจะได้เป็นศิษย์สายตรงและถูกสั่งสอนโดยผู้บ่มเพาะขอบเขตจุติ!

ท้ายที่สุด ดินแดนทางตอนใต้ทั้งหมดมีประชากรหลายหมื่นล้านคน และการคัดเลือกผู้บ่มเพาะรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งที่สุดหนึ่งร้อยคนจากผู้คนนับหมื่นล้านรายนี้ นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะดึงดูดใจใครก็ตาม

มากเสียจน แม้แต่ศิษย์ทั่วไปหรือศิษย์สายตรงบางคนจากแปดนิกายใหญ่ หกตระกูลใหญ่ และสามสำนักใหญ่ก็ยังเข้าร่วมในการจัดอันดับมังกรซ่อน ในแง่หนึ่ง มันคือการสร้างชื่อให้แก่ตัวเอง ในทางกลับกัน เพื่อประโยชน์ในการได้รับทรัพยากรมากขึ้นหรือเสาะหาผู้บ่มเพาะที่น่าเกรงขามเป็นอาจารย์แก่พวกเขา

เช่นเดียวกันกับรางวัลที่น่าดึงดูด การประลองก็รุนแรงและโหดร้ายเช่นกัน

“นายน้อยหลังจากที่ท่านผ่านการฝึกฝนอันขมขื่นตลอดหนึ่งปีและด้วยพรสวรรค์อันโดดเด่นของท่าน ข้ามั่นใจว่าในการจัดอันดับมังกรซ่อนครั้งนี้ท่านจะต้องติดสิบอันดับแรกอย่างแน่นอน” ผู้ดูแลอู๋ยกยอด้วยรอยยิ้ม

“ฮึ่ม! มีผู้คนหลายหมื่นล้านคนในดินแดนทางตอนใต้ และเหล่าอัจฉริยะที่มีมากมายนับไม่ถ้วนเป็นเหมือนฝูงปลาที่แหวกว่ายอยู่ตามสายน้ำ การจัดอันดับมังกรซ่อนนั้นหาได้ง่ายอย่างที่เจ้าคิด” หลี่หมิงตะคอกอย่างเย็นชา “อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตระกูลซูได้ยื่นคำร้องเช่นนี้มา ข้าจึงต้องหมั่นเพียรฝึกฝนและพัฒนาการบ่มเพาะของข้า เพื่อคุณหนูซู ข้าต้องติดหนึ่งในสิบอันดับแรกของการจัดอันดับมังกรซ่อนให้ได้!!”

“ข้ารับใช้ผู้นี้ ขอแสดงความยินดีล่วงหน้าแก่นายน้อยกับการที่จะได้รับชัยชนะในอนาคต โปรดแสดงความสามารถล้ำเลิศในการต่อสู้และทำให้นามของท่านเลื่องลือไปทั่วพิภพ!” ผู้ดูแลอู๋กล่าวคำเยินยอไม่หยุด ทำให้หลี่หมิงเงยหน้าขึ้นและหัวเราะไม่หยุด

“รายงาน! นายน้อย ไอ้เฉินซีได้กลับมาแล้ว! มันกลับมาแล้ว!” ในขณะนี้เอง ผู้คุ้มกันคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาในห้องโถงใหญ่และตะโกนเสียงดัง

เฉินซี!

หลี่หมิงลุกยืนขึ้นพลางแสยะยิ้มบ้าคลั่ง จากนั้นเขาก็หัวเราะเสียงดัง “หึ ๆๆ ดี! ดีมาก! เจ้าเด็กคนนี้ก็กลับมาในที่สุด การจับกุมมันและส่งไปยังตระกูลซูของเมืองทะเลสาบมังกร ย่อมเป็นผลงานใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย!”

“เจ้าเฉินซีมันอยู่ที่ใด” ผู้ดูแลอู๋เอ่ยถาม

“มัน… มันกำลังเข้าใกล้ตระกูลหลี่ของเรา!” ผู้คุ้มกันปาดเหงื่อบนหน้าผากและตอบในขณะที่หอบหายใจ

“มันเสนอตัวมาเอง?” ผู้ดูแลอู๋ตกตะลึง จากนั้นจึงเย้ยหยันเสียงดัง “ฮ่า! มันกำลังรนหาที่ตายอย่างแท้จริง! ตอนนี้มันรู้แล้วสินะว่าบ้านของมันได้ถูกทำลายลงและผู้คนใกล้ชิดต่างก็ตายไปหมดแล้ว ดังนั้นมันจึงต้องการบุกเข้ามาในตระกูลหลี่ของเราด้วยตัวคนเดียว บางทีมันอาจจะเสียสติไปแล้ว ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลว่าเหตุใดถึงกระทำเรื่องโง่เขลาเช่นนี้ ฮ่า ๆๆ!”

“เจ้าเศษสวะนี่ไม่คู่ควรที่ข้าต้องลงมือด้วยตัวเอง ผู้ดูแลอู๋เจ้าจงนำกลุ่มคนชั้นยอดของตระกูลเราไปและรีบจับกุมมันมา จำไว้ว่าอย่าเพิ่งทำให้มันตาย ฮ่า ๆๆ!” หลี่หมิงโบกมืออย่างเฉยเมย เนื่องจากตอนนี้เขาได้บรรลุขอบเขตตำหนักอินทนิลแล้ว เขาจึงไม่ให้ความสำคัญกับเฉินซีอีกต่อไป

ที่หน้าประตูหลักของตระกูลหลี่

กองกำลังชุดดำทั้งสองกอง มีกำลังพลมากกว่าพันคนยืนเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบ อีกทั้งยังสวมเกราะสีขาวและเกราะสีดำตามลำดับ พวกเขาถูกคัดเลือกจากศิษย์ชั้นยอดของตระกูลหลี่ โดยมีการบ่มเพาะในขอบเขตก่อกำเนิดเป็นอย่างน้อย ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดมีการบ่มเพาะในขอบเขตก่อกำเนิดขั้นสมบูรณ์แบบ

พวกเขาคือกลุ่มอาชาสวรรค์และผู้คุ้มกันเกราะขาวที่โด่งดังในเมืองหมอกสน พวกเขาคือกองกำลังส่วนตัวของตระกูลหลี่ ซึ่งเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองหมอกสน

ในตอนนี้ พวกเขาถือหน้าไม้หนักและมีดาบห้อยอยู่ที่เอว ยืนอยู่ที่นั่นด้วยท่าทางเคร่งขรึมและน่ายำเกรงราวกับเป็นกองทหารที่เชี่ยวชาญในการรบ จิตสังหารอันเยือกเย็นจากร่างของพวกเขาได้ผสมผสานกัน หากคนทั่วไปมองจากระยะไกล ย่อมทำให้คนผู้นั้นหวาดกลัวจนตัวแข็ง

หน้าไม้หนักในมือของพวกเขาเรียกว่า ‘หน้าไม้หนักวิญญาณเหิน’ ลูกดอกเหล่านี้เป็นเหมือนหอกที่สามารถยิงได้ไกลถึงห้าสิบลี้ เมื่อคนนับพันยิงพร้อมกัน ย่อมทำลายผู้บ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิลได้!

ดาบที่ห้อยอยู่ที่เอวมีนามว่า ‘แทงพยัคฆ์’ พวกมันถูกสร้างจากเหล็กกล้าทมิฬ อีกทั้งยังมีความคมและแข็งแกร่ง สามารถเทียบได้กับสมบัติวิเศษขั้นสูง เมื่อผู้คุ้มกันทั้งสองพันคนเหวี่ยงดาบผสานกันจะสามารถสร้างค่ายกลหยินหยางพันดาบได้ในทันที

ในประวัติศาสตร์ของตระกูลหลี่ ค่ายกลนี้ประสบความสำเร็จในการทำลายล้างศัตรูที่บุกรุกมาหลายครั้ง เป็นเพราะมันทรงพลังและมีอานุภาพเป็นอย่างมาก

ผู้ดูแลอู๋ยืนไพล่หลังด้วยความกังวล

ที่ทะเลสาบถ้ำวิญญาณ เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว เขาเคยนำกลุ่มผู้คุ้มกันไปที่นั่น เพื่อถวายเครื่องบรรณาการแก่อสูรแรดอินทนิลสองหัว แต่เขากลับพบกับเฉินซีโดยบังเอิญ สิ่งที่ทำให้เขาไม่อยากจะเชื่อก็คือการบ่มเพาะขอบเขตก่อกำเนิดของชายหนุ่มสามารถฆ่าผู้คุ้มกันมากมายราวกับกวาดใบไม้แห้ง และบีบบังคับเขาให้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหลบหนีไป

ต่อมาเขาได้ยินว่าอสูรแรดอินทนิลสองหัวถูกเฉินซีฆ่า และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาก็เกรงกลัวความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายมากขึ้นเรื่อย ๆ

ในตอนนี้ได้ผ่านไปหนึ่งปีแล้ว การบ่มเพาะของมันจะก้าวหน้าขึ้นอีกหรือไม่?

ผู้ดูแลอู๋รู้สึกไม่มั่นใจ แต่เมื่อเขาเห็นผู้คุ้มกันทั้งสองกลุ่มที่มีกลิ่นอายอันผ่าเผยพวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับสายรุ้ง ความกังวลในใจก็หายเป็นปลิดทิ้ง

‘กลุ่มอาชาสวรรค์และผู้คุ้มกันเกราะขาว ที่ระดมกำลังทั้งหมดก็เพียงพอที่จะทำลายล้างผู้บ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิลทั่วไป เจ้าเฉินซีมาที่นี่เพียงคนเดียว ข้ายังต้องกังวลสิ่งใดอีก?’

ตุ้บ! ต้บ! ตุ้บ!

ท่ามกลางบรรยากาศกดดันของการเข่นฆ่า เสียงฝีเท้าดังกึกก้องไปตามถนนที่อ้างว้าง แผ่วเบาราวกับสายลม แต่หนักหน่วงดั่งเสียงรัวกลอง และยังส่งจังหวะประหลาดที่ทำให้หัวใจเต้นระรัวขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

เขามาแล้ว!

ลูกดอกเปรียบดั่งฝูงตั๊กแตน กลุ่มอาชาสวรรค์กว่าหนึ่งร้อยคนพุ่งออกมาราวกับเกลียวคลื่น และสกัดกั้นเส้นทางหลบหนีของเฉินซีในทันที

ในสายตาของทุกคน เฉินซีที่กำลังก้าวไปข้างหน้าทีละก้าวดูเหมือนจะกลัวจนตัวแข็ง แต่จริง ๆ แล้วเขาแทบไม่มีปฏิกิริยาเลยแม้แต่น้อย!

หรือว่าชายคนนี้มาเพื่อหาที่ตาย?

ในขณะที่ความคิดนี้แวบเข้ามาในหัวของทุกคน เพียงชั่วพริบตาต่อมา ก็รู้สึกถึงประกายแสงวาบต่อหน้าต่อตาพวกเขา และร่างของเฉินซีก็หายลับไปในอากาศอย่างสิ้นเชิง!

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

ลูกดอกที่ยิงออกมาจากหน้าไม้หนักวิญญาณเหินด้วยความรุนแรงและรวดเร็ว พุ่งเจาะพื้นส่งผลให้บังเกิดรูนับร้อย เศษหินเศษดินกระจายไปโดยรอบ

ทว่าเขาหายไปไหนแล้ว?

หัวใจของกลุ่มอาชาสวรรค์นับร้อยคนที่พุ่งไปข้างหน้ากระตุกวูบ และพวกเขาทั้งหมดต่างตกตะลึง

ในเวลานี้เองที่ผู้พิทักษ์อาชาสวรรค์นับร้อยคน สังเกตเห็นบางสิ่งที่น่าหวาดกลัวในระยะสายตาของพวกเขา แสงกระบี่ที่ดูเหมือนสายฟ้าแลบ ราวกับพายุที่พัดผ่านใต้ท้องฟ้าอย่างน่าทึ่ง สวยงามและเยือกเย็นพลั่งพรูออกมาในทันทีที่มันปราฏ

ปุ! ปุ! ปุ!

เลือดทะลักราวกับประทัดที่ถูกจุด สาดกระจายไปทั่วและพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า จนทำให้เกิดฉากนองเลือด

เพียงชั่วพริบตา รูที่เจิ่งนองไปด้วยโลหิตที่มีขนาดเท่ากับเหรียญทองแดงได้ปรากฏที่คอของกลุ่มอาชาสวรรค์ทั้งสิบสามคน สีหน้าของพวกเขาแข็งค้างและไม่เข้าใจว่าเกิดสิ่งใดขึ้นจนกระทั่งตายไป

ปุ! ปุ! ปุ!

ร่างของเฉินซีเป็นเหมือนหมอกควัน เคลื่อนไหวรวดเร็วดุจลำแสงของสายฟ้า และเนื่องจากเขาเร็วเกินไป เขาจึงทิ้งเงาร่างไว้เบื้องหลัง กระบี่ท่องปรภพในมือของเขาเป็นเหมือนลำแสงมรณะที่แม่นยำและโหดร้าย มันคร่าเกี่ยวชีวิตอย่างต่อเนื่อง เปรียบเหมือนชาวนาที่กำจัดวัชพืชในทุ่งนา ตัดวัชพืชเป็นหย่อม ๆ ด้วยการแกว่งเคียวเพียงครั้งเดียว

ในขณะนี้ กลุ่มอาชาสวรรค์ที่พุ่งไปข้างหน้าเป็นเหมือนฝูงแพะที่รอการเชือด และไม่ใช่ว่าพวกเขาด้อยความสามารถ แต่ศัตรูของพวกเขานั้นแข็งแกร่งเกินไป!

การบ่มเพาะของขอบเขตตำหนักอินทนิลขั้นห้าดารา เต๋าแห่งสายลมขั้นสมบูรณ์ และความแข็งแกร่งที่สามารถรับมือกับผู้บ่มเพาะขอบเขตเคหาทองคำ ผู้บ่มเพาะขอบเขตก่อกำเนิดเหล่านี้จะสามารถต้านทานเฉินซีได้อย่างไร?

กระบี่ท่องปรภพในมือของเฉินซีไม่เคยพลาดเป้า สมกับเป็นพลังของศัสตราวิเศษระดับมนุษย์ชั้นยอด มันเฉียบคมและเย็นยะเยือก เพียงแค่ปราณกระบี่น้ำแข็งที่ปล่อยออกมา ก็สามารถบดขยี้ดาบแทงพยัคฆ์ที่อยู่ในมือของกลุ่มอาชาสวรรค์เหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย ภายใต้มือของเฉินซี มันแสดงพลังอำนาจทำลายล้างได้อย่างหาที่เปรียบไม่ได้!

เลือดสาดกระจายไปในอากาศราวกับน้ำพุที่พวยพุ่งออกมาพร้อมกัน ในชั่วพริบตา กลุ่มอาชาสวรรค์อีกสามสิบคนก็ถูกแทงที่คอและหล่นลงบนพื้นดิน

“ขอบเขตตำหนักอินทนิล! แต่ทักษะการใช้กระบี่ระดับนี้มันเต๋าแห่งการรู้แจ้งชัด ๆ! ผ่านไปเพียงปีเดียว การฝึกฝนของเจ้าเศษสวะนี้กลับบรรลุถึงระดับที่น่าสะพรึงกลัวขนาดนี้ได้อย่างไร?” สีหน้าของผู้ดูแลอู๋ที่อยู่ห่างออกไปซีดเผือดและดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ กลุ่มอาชาสวรรค์นับร้อยคนที่อยู่ห่างออกไปกำลังจะถูกสังหารจนหมดสิ้น เขาไม่กล้าลังเลอีกต่อไป รีบยกมือขวาขึ้นในทันทีและตะโกนอย่างสุดกำลัง “ยิงได้!”

กลุ่มอาชาสวรรค์และผู้คุ้มกันเกราะขาวที่อยู่ด้านข้างทั้งหนึ่งพันเก้าร้อยคน ได้เตรียมพร้อมไว้เนิ่นนานแล้ว เมื่อพวกเขาได้ยินคำสั่งนี้ หน้าไม้หนักวิญญาณเหินในมือของพวกเขาก็ยิงออกอย่างพร้อมเพรียง ลูกดอกที่เหมือนพายุฝนอันหนาแน่นก็พุ่งออกไปอย่างน่าสะพรึง!

ในขณะนี้เพื่อที่จะฆ่าเฉินซี ผู้ดูแลอู๋ได้ยอมสละกลุ่มอาชาสวรรค์ที่ส่งไปชุดแรกเรียบร้อย!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]