บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 970

บทที่ 970 เจ็ดกระบวนท่าแห่งการพิพากษา

บทที่ 970 เจ็ดกระบวนท่าแห่งการพิพากษา

ณ ตระกูลชุย

ตรงหน้าแท่นบวงสรวงโบราณซึ่งทำจากหินปูนกะดำกะด่าง

ชุยเจิ้นคงจ้องมองเด็กสาวที่กลับมาจากดินแดนเร้นลับในสุสานบรรพบุรุษไม่วางตา

แม้ระดับการบ่มเพาะของชุยเจิ้นคงจะอยู่ที่ขอบเขตเซียนปราชญ์แล้ว ทว่าเขาก็ยังตกใจอยู่ดี เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากร่างของเด็กสาวที่ยืนอยู่เบื้องหน้า

ช่างเป็นอำนาจเต๋าแห่งการพิพากษาที่บริสุทธิ์ยิ่ง!

ร่องรอยแห่งความสับสนวูบไหวอยู่ในดวงตาของเขา เมื่อครั้งยังเยาว์ ชุยเจิ้นคงได้ยินคำพร่ำสอนของผู้อาวุโสเกี่ยวกับกลิ่นอายนี้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสมันกับตาตัวเอง!

มันเป็นกลิ่นอายที่ทั้งเยือกเย็น เหี้ยมเกรียม ไร้อารมณ์ และไร้ความปรารถนา ราวกับกระบี่ที่อยู่ใต้อาณัติของเต๋าแห่งสวรรค์ มีเพียงหน้าที่ในการตัดสินถูกผิด แยกแยะดำขาวเท่านั้น!

ชุยเจิ้นคงรู้ได้ทันทีว่านี่เป็นอำนาจแห่งการพิพากษาไม่ผิดแน่! เป็นสิ่งดำรงอยู่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดซึ่งตกทอดกันภายในตระกูลชุย!

ในอดีต บรรพบุรุษชุยเจวี๋ยถือพู่กันแห่งการพิพากษา และควบคุมบัญชีสังสารวัฏ เขามีหน้าที่ตัดสินความผิดชอบชั่วดีของทุกชีวิตในยมโลก และนอกจากจักรพรรดิยมโลกแล้ว ใครกันจะยิ่งใหญ่ไปกว่าเขาได้?

ครั้นเมื่อบรรพบุรุษได้ล่วงลับไป สายธารแห่งกาลเวลาก็ได้ทำให้อำนาจของตระกูลชุยเสื่อมถอย ความรุ่งโรจน์ที่เคยมีในอดีตกลายเป็นเพียงความทรงจำที่ไม่อาจสร้างใหม่ได้

เหตุผลคืออะไรน่ะหรือ?

ไม่ใช่ทุกคนจะบรรลุความลึกล้ำแห่งการพิพากษาได้!

สิ่งนี้เป็นตราบาปที่ชุยเจิ้นคงไม่อาจลบไปจากใจ เป็นที่มาที่ทำให้บรรพบุรุษตระกูลชุยต้องเผชิญกับความผิดหวังและสูญเสียครั้งแล้วครั้งเล่า

โชคดีที่การปรากฏตัวของชุยชิงหนิง ทำให้เขามองเห็นความหวังอีกครั้ง มองเห็นโอกาสที่จะกอบกู้ความรุ่งเรืองในอดีตของตระกูลขึ้นมาใหม่!

ดังนั้น เขาจึงไม่ลังเลที่จะสังเวยชีวิตของสมาชิกทั้งหลายในตระกูลชุยเพื่อสร้างสถานการณ์บีบคั้นให้แก่เด็กสาว …เพียงเพื่อให้ชุยชิงหนิงสามารถบ่มเพาะได้อย่างรวดเร็วแล้ว เขาไม่ลังเลเลยที่จะจ่ายด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่มี!

และในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จ!

ชุยชิงหนิงไม่ทำให้เขาผิดหวัง นางสามารถเปิดสุสานบรรพบุรุษ และครอบครองสิ่งตกทอดจากบรรพบุรุษซึ่งทำให้นางบรรลุเต๋ารู้แจ้งแห่งการพิพากษาที่สาบสูญไปนานหลายปีได้ตั้งแต่อายุยังน้อย…

เรื่องราวทั้งหมดนี้ทำให้ชุยเจิ้นคงตื่นเต้นอย่างมาก ดวงตาเยือกเย็นของเขาอุ่นร้อนด้วยความสุขสม ราวกับกำลังมองเห็นภาพยามที่ตระกูลชุยกลายเป็นผู้ปกครองยมโลก ภายใต้การนำของชุยชิงหนิง …เพียงเท่านี้ ความรุ่งโรจน์ในอดีตก็จะต้องฟื้นคืนกลับมาเป็นแน่!

ชุยชิงหนิงยืนอยู่เงียบ ๆ ไม่ขยับไปไหน ราวกับนางไม่ได้สังเกตเห็นความตื่นเต้นในดวงตาของชุยเจิ้นคง

เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ ท่าทีของนางเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ใบหน้าที่อ่อนเยาว์ของเด็กสาวสงบนิ่งและเรียบเฉยกว่าแต่ก่อน ในขณะที่ร่างกายอัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายลึกล้ำยากหยั่งถึง ทั้งยังเต็มไปด้วยจิตสังหารอันไร้ความปรานี!

หากมองเห็นเด็กสาวจากที่ไกลออกไป คนที่มองมาผู้นั้นก็อาจจะกายสั่นสะท้านอย่างมิอาจควบคุมได้จากความหวาดกลัวก็เป็นได้

“ดี! ดี! ดี!” ผ่านไปไม่นาน ชุยเจิ้นคงก็อุทานคำว่า ‘ดี’ ออกมาสามครั้ง สีหน้าของเขาเผยให้เห็นความตื่นเต้นที่ล้นปรี่ในใจ “ชิงหนิง เจ้าได้รับมรดกตกทอดของท่านบรรพบุรุษคนแรกมาหรือไม่?” เขาถามด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร

ชุยชิงหนิงพยักหน้า “สิ่งตกทอดของท่านบรรพบุรุษนั้นลึกซึ้งไพศาล แม้ว่าข้าจะเข้าใจมัน แต่ก็ยังต้องค่อย ๆ ใช้เวลาเพื่อทำความเข้าใจมันอย่างถ่องแท้เจ้าค่ะ”

ชุยเจิ้นคงระเบิดเสียงหัวเราะก่อนจะตบไหล่เด็กสาวเบา ๆ “ดี! ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป เจ้าจงไปที่ถ้ำหงส์เซียนกับข้าเพื่อเก็บตัวบ่มเพาะ ต่อไปอย่าได้สนใจสิ่งใด เมื่อเจ้าบ่มเพาะสำเร็จแล้ว เจ้าก็จะได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลและผู้ปกครองแห่งกรมราชทัณฑ์!”

เด็กสาวย่นริมฝีปากอย่างไม่รู้สึกตื่นเต้นใด ๆ นางยังคงสงบ โดดเดี่ยว ดูไม่แยแสต่อสรรพสิ่ง

ภาพตรงหน้าทำให้ชุยเจิ้นคงพึงพอใจนัก เขารู้สึกยินดีจนอดไม่ได้ที่จะพูดออกมาว่า “ชิงหนิง เจ้ายังมีคำขออื่นอีกหรือไม่? อย่าลังเลที่จะพูดออกมา บรรพบุรุษย่อมต้องยอมทำตามคำขอของเจ้าแน่นอน!”

“ท่านปู่ ข้าไม่มีคำขออื่นใดนอกจากอยากจะขอให้ท่านช่วยพี่เฉินซีรักษาชีวิตภรรยาของเขาเท่านั้นเจ้าค่ะ” ชิงหนิงพูดอย่างเนิบช้า

ใบหน้าของชุยเจิ้นคงแข็งทื่อเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เขาขมวดคิ้วพร้อมกับใบหน้าที่กลายเป็นเคร่งขรึม “เด็กนั่นไม่รู้ว่าสิ่งใดที่ดีสำหรับตน ข้าตกลงที่จะช่วยเหลือเขาแล้ว ทว่าน่าเสียดายที่เขาไม่เห็นค่าความเมตตาของข้า”

ชุยชิงหนิงชะงักไปเมื่อได้ฟังคำตอบ นางเงยหน้ามองผู้เป็นปู่ก่อนจะย่นริมฝีปากเพื่อเก็บคำพูดที่อยู่ในใจของตน

ชุยเจิ้นคงปลอบโยน “ชิงหนิง จงทำใจให้สบายและเตรียมเก็บตัวบ่มเพาะเถิด ข้าจะให้ความช่วยเหลือแก่เด็กคนนั้นเมื่อเขากลับมาและยอมจำนนต่อการตัดสินใจที่ผิดพลาด”

ชุยชิงหนิงถอนหายใจเบา ๆ ร่างของนางลอยขึ้นไปในอากาศประหนึ่งดอกบัวกลีบบาน ก่อนจะหายไปอย่างรวดเร็ว

ท่าทางของชุยเจิ้นคงมืดมนลงเล็กน้อยเมื่อเห็นสิ่งนี้ เขาไม่คาดคิดว่าไอ้เด็กหยาบคายที่ไม่รู้อะไรดีไม่ดีนั่นจะมีน้ำหนักในใจต่อเด็กน้อยมากมายถึงเพียงนี้

แต่เขาก็ไม่คิดว่าตนจะทำผิดอันใด จริงอยู่ที่เฉินซีเป็นยอดราชันของขอบเขตเซียนปฐพี ซึ่งบางทีชายหนุ่มอาจพอสร้างคลื่นลมขนาดใหญ่ให้เกิดขึ้นในยมโลกได้ …แต่ในสายตาของคนอย่างเขา เฉินซีก็เป็นเพียงแค่มดตัวจ้อยที่ใช้เพียงนิ้วเดียวก็สามารถบดขยี้ได้แล้ว!

“อนิจจา ชิงหนิงยังไร้เดียงสาเกินไป ไม่แน่ว่านางอาจจะลืมสหายผู้นี้ไปในสักวันเมื่อวันเวลาผ่านพ้นไป…” ชุยเจิ้นคงส่ายหน้าไปมา

ฟึ่บ!

ทันใดนั้น จู่ ๆ ความผันผวนที่ไร้รูปร่างก็ได้แผ่ออกมาจากแท่นบวงสรวง ดินแดนเร้นลับในสุสานบรรพบุรุษตระกูชุยถูกเปิดออกอีกครั้ง

เวลาเดียวกันนั้นเอง แสงที่เปล่งประกายออกมาจากด้านในก็พลันสว่างวาบ ก่อนจะหายไปขณะที่ชุยเจิ้นคงยังไม่ทันตั้งตัว

‘เกิดอะไรขึ้นกันแน่?’ สีหน้าชุยเจิ้นคงมืดมนด้วยความประหลาดใจ ในฐานะที่เขาเป็นผู้บ่มเพาะขอบเขตเซียนปราชญ์ การที่เขาไม่สามารถตอบโต้กับแสงใด ๆ ซึ่งสว่างวาบเมื่อครู่นี้ได้นับว่าเป็นเรื่องผิดปกติไม่น้อย

นี่มัน…

เมื่อชุยเจิ้นคงมองเข้าไปในดินแดนเร้นลับ ร่างกายของเขาก็ชาวาบ พร้อมกับม่านตาที่เบิกกว้างด้วยความตกใจ บัดนี้สิ่งตกทอดของบรรพบุรุษตระกูลชุยได้หายไปสิ้นแล้ว!

ชุยเจิ้นคงในตอนนี้ไม่ต่างคนถูกฟ้าผ่าลงกลางใจ สีหน้าของเขาเขียวคล้ำลงถนัดตา ของพวกนั้นคือมรดกจากบรรพบุรุษของเขา เป็นรากฐานของตระกูลชุย และมูลค่าของมันก็ยิ่งใหญ่มหาศาลกว่าเข็มทิศยมโลกเสียอีก!

ทว่าตอนนี้มันกลับหายวับไปกับตา! ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ไอรีนโนเวล ขอบคุนจ้า

ร่างกายของชุยเจิ้นคงพลันสั่นสะท้านอย่างรุนแรง เครายาวสลวยสะบัดไปมาด้วยแรงโทสะ เขาในตอนนี้เหมือนกับสัตว์อสูรบรรพกาลที่เกรี้ยวกราด “มันเป็นใคร!? ไอ้สารเลวที่ไหนมันบังอาจมาก่อกวนตระกูลชุยของข้า!?” เสียงคำรามของเขากึกก้องไปทั่วทั้งแผ่นฟ้า

เสียงกู่ร้องของชุยเจิ้นคงดุจดั่งสวรรค์ทั้งเก้าชั้นคำรามพร้อมกัน มันดังไปทั่วทั้งดินแดนตระกุลชุย …ทำให้ผู้คนที่อยู่ในเมืองภูษาไหมม่วงไม่มีใครไม่ได้ยินเสียงของเขาในยามนี้!

“เกิดอะไรขึ้น?”

“บรรพบุรุษพิโรธแล้ว!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]