บทที่ 971 ทะเลทุกข์
บทที่ 971 ทะเลทุกข์
หนึ่งเดือนให้หลัง เฉินซีก็ออกจากการทำสมาธิ นัยน์ตาของเขาเยือกเย็นแฝงไปด้วยกลิ่นอายสังหารไร้อารมณ์ ดุจดั่งหุบเหวไร้ก้นที่ใครได้เห็นก็เป็นต้องรู้สึกหนาวไปถึงขั้วหัวใจ
เป้ยหลิงที่กำลังทำสมาธิอยู่ทางด้านข้างพลันสะดุ้งตกใจจากสิ่งนี้ นางรู้สึกราวกับว่าเฉินซีได้กลายเป็นคนไร้อารมณ์ ไร้ความปรานี และเยียบเย็นไร้ซึ่งความผันผวนของชีวิต
เคราะห์ดีที่เฉินซีดึงตัวตนเดิมกลับมาได้ หวนคืนสู่ความสงบ เผยกลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ใจคนรู้สึกสงบออกมา
ช่วงเวลาของการบ่มเพาะนี้ทำให้เขาได้รับผลประโยชน์มหาศาลจนจินตนาการไม่ถึงเลยทีเดียว
อย่างแรกเลยคือชายหนุ่มได้รับชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากมา จากนั้นก็ทำความเข้าใจความลึกล้ำของเต๋าแห่งการพิพากษา ทำให้สามารถเปิดระเบียนแดนมรณะและได้รับศาสตร์เต๋าขั้นสุดยอดชื่อเจ็ดกระบวนท่าแห่งการพิพากษามา
ในช่วงเดือนที่ผ่านมานี้ ชายหนุ่มได้ทำความเข้าใจความลึกล้ำของเจ็ดกระบวนท่าแห่งการพิพากษาแล้ว เหลือเพียงลงมือฝึกฝนและขัดเกลาฝีมือเท่านั้น
ซึ่งมันไม่เหมือนกับศาสตร์เต๋าและพลังอิทธิฤทธิ์ที่เขาเคยทำความเข้าใจมาในอดีต ทั้งเจ็ดกระบวนท่าแห่งการพิพากษาและเพลงหมัดเทพอัคคีล้วนเป็นศาสตร์เต๋าขั้นสุดยอดแห่งยมโลก มีอำนาจหาใครเทียมและมีพลังน่าสะพรึงยิ่ง
ยิ่งถ้าใช้กับวิญญาณดุร้าย อสูร วิญญาณอาฆาต วิญญาณร้าย และวิญญาณอื่น ๆ รวมถึงภูตผี อำนาจของศาสตร์เต๋านี้ก็ยิ่งทวีคูณ
“พลังบ่มเพาะของเจ้า…ก้าวหน้าขึ้นอีกแล้วหรือ?” เป้ยหลิงถามขึ้นเสียงเบาจากทางด้านข้าง ใบหน้าเย็นชาไม่อาจปิดบังความประหลาดใจไว้ได้
“ก้าวหน้าขึ้นหรือ?” เฉินซีส่ายหน้ากล่าว “มีเพียงพลังต่อสู้ที่เพิ่มขึ้น แต่พลังบ่มเพาะยังอยู่ที่ขอบเขตเซียนปฐพีระดับแปด”
เขาไม่ได้โกหก เพราะนับตั้งแต่ที่เข้ามาในยมโลก ชายหนุ่มก็ทำการบ่มเพาะเคล็ดมหาจุติ เพลงหมัดเทพอัคคี และเจ็ดกระบวนท่าแห่งการพิพากษาที่เป็นเต๋าสืบทอดขั้นสุดยอดและเป็นศาสตร์เต๋าที่ได้มาจากระเบียนแดนมรณะ
อีกทั้งเขายังทำความเข้าใจเต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตาจนถึงขั้นสมบูรณ์ รวมถึงทำความเข้าใจเต๋ารู้แจ้งแห่งการพิพากษาจนถึงขอบเขตแรกรู้แล้ว ดังนั้นอำนาจต่อสู้ของชายหนุ่มจึงมีมากกว่าเดิมราวสองเท่า!
น่าเสียดายที่จนถึงตอนนี้เขายังไม่มีโอกาสพบเจอทัณฑ์สวรรค์ระดับเก้าเลย
ณ ขอบเขตเซียนปฐพีระดับเก้า ผู้บ่มเพาะจะได้ขึ้นสู่ภพเซียน ซึ่งทัณฑ์สวรรค์ในระดับนี้มีชื่อเรียกว่าเสริมโอภาสทัณฑ์สวรรค์ หมายความว่าจังหวะที่กำลังจะขึ้นสู่ภพเซียนจะมีกลิ่นอายเซียนแผ่ลงมา แปรเปลี่ยนเป็นลำแสงศักดิ์สิทธิ์ที่นำพาคนผู้นั้นให้ข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์เพื่อขึ้นสู่ภพเซียนได้
“ไม่แน่ว่าพอกลับถึงภพมนุษย์เมื่อใด ข้าอาจจะสัมผัสโอกาสที่ว่าก็ได้?” เฉินซีคาดเดาว่าเพราะเขาไม่ใช่คนจากยมโลก จึงไม่อาจเลื่อนขอบเขตในที่แห่งนี้ได้
เฉินซีพลันส่ายหน้าแล้วเลิกคิด จากนั้นเงยหน้ามองเป้ยหลิงแล้วถามนางด้วยรอยยิ้มว่า “ระบายจนพอใจแล้วหรือยัง?”
เขาไม่พูดถึงยังไม่เป็นไร แต่พอพูดถึงขึ้นมาแล้ว เป้ยหลิงจึงหัวเราะออกมา “อืม ข้าได้ข่าวจากเมืองภูษาไหมม่วงมามากมายทีเดียวระหว่างที่เจ้าบ่มเพาะอยู่ ตอนนี้ตระกูลชุยกำลังลุกเป็นไฟ คึกคักยิ่งนัก” ดวงตาใสกระจ่างของนางเผยแววยินดี ริมฝีปากสีแดงยกโค้งขึ้นเล็กน้อย เผยความงามตามธรรมชาติออกมา ทำให้ทิวทัศน์รอบกายหญิงสาวดูหมองลงถนัดตา ขณะที่ตัวนางดูโดดเด่นงดงามยิ่ง
เฉินซียิ้มกว้าง ก่อนลุกยืนแล้วมองไปยังที่ไกลแสนไกล บริเวณที่เมืองภูษาไหมม่วงตั้งอยู่ …เขามองมันอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าว “เราไปภูมิภาคราชานรกกันเถอะ!”
…
ภูมิภาคราชานรกเป็นอาณาเขตของราชานรกทั้งสิบ
ตามตำนานเล่าไว้ว่า ภูมิภาคราชานรกเป็นภูมิภาคที่กว้างใหญ่ไพศาลมากที่สุดในยมโลก ราชานรกทั้งสิบอาศัยอยู่ในอาณาเขตนี้ และช่วยกันปกปักรักษานรกทั้งสิบแปดขุม รวมถึงสถานที่ที่ความผิดบาปทั้งปวงมาบรรจบกัน ซึ่งก็คือธารโลหิตยมโลก!
ราชานรกองค์ที่สอง ราชาฉู่เจียงพำนักอยู่ในพื้นที่ทางใต้ของภูมิภาคราชานรก มีทะเลเลื่องชื่อแห่งสามภพนามว่าทะเลทุกข์เป็นตัวแยกออกจากภูมิภาคราชหกวิถี
ทะเลทุกข์นั้นกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต หากอยากพ้นภัยมีแต่ต้องสำนึกผิดให้ได้เท่านั้น
เมื่อครั้งบรรพกาล พระโพธิสัตว์แห่งภพพระพุทธองค์ได้ลงมาจุติที่ยมโลก หลังจากได้ตรวจสอบทะเลทุกข์แล้ว พระโพธิสัตว์ก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา และมันเป็นการทอดถอนใจที่ยาวนานหลายปีนัก
…พระโพธิสัตว์ผู้นี้ได้ใช้การถอนหายใจนี้เพื่ออธิบายถึงความกว้างใหญ่ของทะเลทุกข์แห่งนี้นั่นเอง!
…
ณ ภูเขาหมื่นกระแส
ราชานรกองค์ที่สองพำนักอยู่ที่ริมฝั่งทะเลทุกข์อันมัวหมอง ภูเขาที่นี่สูงชันนัก ลำธารจำนวนมหาศาลไหลมาบรรจบกันที่นี่ก่อนจะกลับสู่ทะเลทุกข์ เป็นภาพที่ดูยิ่งใหญ่ตระการตายิ่ง
บนภูเขาหมื่นกระแส ภายในห้องโถงสีดำสนิทที่เหมือนกับป้อมปราการขนาดใหญ่
ตอนนี้มีบุรุษผู้หนึ่งบนศีรษะสวมมงกุฎเอาไว้ เขาอยู่ในชุดสีดำสนิท มีท่าทางทรงอำนาจ กำลังยืนเอามือไพล่หลังอยู่ที่หน้าห้องโถง นัยน์ตาคล้ายกับสายฟ้าอันเยือกเย็นจ้องมองไปทางทะเลทุกข์อันแสนกว้างใหญ่ที่อยู่ห่างไกล ก่อนตัวคนจะตกลงสู่ภวังค์ความคิดอันเงียบงัน
เขามีหน้าตาธรรมดายิ่ง แต่กลับมีคิ้วกว้าง กระดูกสันหลังตรง และมีกลิ่นอายสุขุมนุ่มลึก
เขาก็คือราชานรกองค์ที่สอง ราชาฉู่เจียงคนปัจจุบัน จี้คัง!
“มันเป็นการสมรู้ร่วมคิด ข้าประมาทบรรพบุรุษตระกูลชุยไป…” จี้คังพึมพำ นัยน์ตาสะท้อนภาพที่เกิดขึ้นในฟ้าดิน เห็นภาพทะเลทุกข์ซัดสาดและหมอกภูผาเวียนวนอยู่ภายใน
“ช่างมันเถิด หากไม่มีอำนาจแห่งการพิพากษา เข็มทิศปรโลกในมือข้าก็ไร้ประโยชน์ ไม่แน่ว่าหากรีบนำไปคืนอาจจะทำให้สหายเฒ่าระงับความโกรธไว้ได้บ้าง” หลังจากเงียบไปนาน จี้คังก็สะบัดแขนเสื้อ เกิดลำแสงสีดำพุ่งออกไปสู่บริเวณตีนภูเขาหมื่นกระแส
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...