บทที่ 1017 กองทัพเป่ยซีมาแล้ว
การสู้รบที่ปะทุขึ้นจากอำเภอฉางสุ่ยลุกลามไปจนถึงเมืองหลวง เดิมทีฉินเฟิงเพียงต้องการเปิดเส้นทางสื่อสารเพื่อเชื่อมต่อกับองครักษ์เสื้อแพรภายนอกเท่านั้น
แต่เมื่อหนิงหู่โค่นล้มกองกำลังข้าศึกบริเวณชิงซานได้อย่างง่ายดาย และจางเจิ้นไห่ก็นำกองทหารม้ากลับมาโดยแทบไม่มีความสูญเสีย ฉินเฟิงจึงตระหนักได้ว่า เป่ยตี๋ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงใกล้ล่มสลาย
ฉินเฟิงอารมณ์ดีนัก เขาเรียกตัวหนิงหู่และทหารราบหกร้อยคนกลับ ปล่อยให้จางเจิ้นไห่นำกองทหารม้าทำสงครามกองโจรต่อไป
ตามรายงานของหลิ่วหมิง ตอนนี้เฉินซือ อู๋คัง และจิ่งเผิง พวกเขาสามคนร่วมกันวางแผนถอนกำลังทหารจำนวนมาก และมุ่งหน้าไปทางป๋อโจว ปล้นสะดมเมืองต่าง ๆ ตามเส้นทางเพื่อหาเสบียง
ชัดเจนว่าพวกเฉินซือไม่ได้ยอมแพ้ แต่เลือกวิธีช่วยแคว้นทางอ้อม
สำหรับกองทัพของหลี่จางและสวีโม่เหตุที่ยังบุกมาไม่ถึงเขตเมืองหลวงเพราะกำลังรอให้เฉินซือถอยทัพเสร็จสิ้นก่อน
ดังคำกล่าวที่ว่า ไม่ไล่ฆ่าศัตรูที่ถูกบีบจนมุม ด้วยอาจไปกระตุ้นจนศุตรูให้เกิดพลังที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน จากความคิดที่ว่า ถึงอย่างไรก็ต้องตาย ก็สู้จนตายเสียเลย
ดังนั้นเพื่อรักษากำลัง หลี่จางกับสวีโม่จึงตกลงกันว่าจะคอยมองดูเฉินซือถอยทัพ และรอให้แนวป้องกันทางเหนือเปิดโล่งก่อน ค่อยนำเคลื่อนทัพ
สำหรับการตัดสินใจของพวกเขาฉินเฟิงก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง เมื่อสถานการณ์ตกเป็นของพวกเขาแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิตสู้รบอีก
เพราะนี่คือสนามรบ ไม่ใช่การต่อสู้เล็กน้อย การปะทะขนาดใหญ่ทุกครั้งย่อมมีการเสียสลัเลือดเนื้อและชีวิตเป็นเครื่องบรรณาการ
สงครามฤดูหนาวกำลังใกล้สิ้นสุดลงแล้ว การเข้าควบคุมเป่ยตี๋เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น
ขณะที่ฉินเฟิงกำลังเตรียมตัวป้องกันฉางสุ่ยและรอคอยหลี่จาง แขกไม่ได้รับเชิญมากมายก้ปรากฏตัวที่นอกกำแพงเมือง
บุคคลเหล่านี้บางคนเป็นทหารประจำการเมืองหลวง บางคนเป็นขุนนางในราชสำนัก
พวกเขาต่างมีจุดประสงค์เดียวกัน…สวามิภักดิ์ต่อฉินเฟิง
ฉินเฟิงย่อมยอมรับพวกเขาด้วยความยินดี จึงเปิดประตูเมืองให้เหล่าขุนนางและแม่ทัพเป่ยตี๋เข้ามาเมือง ส่วนทหารที่ติดตามมาให้ถอยห่างออกไปห้าร้อยก้าว และรอคำสั่งอยู่กับที่
แม้มีใจไม่คิดร้ายต่อผู้อื่น แต่ก็ต้องระมัดระวังอยู่เสมอ
แม้ฉินเฟิงจะโง่เขลาก็ไม่มีทางปล่อยให้คู่ต่อสู้นำกองทัพเข้าเมืองได้ หากเป็นการหลอกจำนนจะกลายเป็นเรื่องใหญ่
ไม่นานศาลาว่าการอำเภอฉางสุ่ยก็เต็มไปด้วยผู้คน ฉินเฟิงนับคร่าว ๆ ก็มีราวสิบสามคน
แต่บรรดาผู้มาปรากฏตัวนี้มียศถาบรรดาศักดิ์ไม่สูงนัก น่าจะเป็นตัวแทนของขุนนางและแม่ทัพ เนื่องจากฉินเฟิงกักตัวจางเฉาและองค์หญิงจิ่งฉือไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเชลยของฉินเฟิงไปด้วย เหล่าขุนนางบุ๋นบู๊ของเป่ยตี๋จึงส่งคนใกล้ชิดมาแทน
ฉินเฟิงไม่อ้อมค้อม กล่าวตรง ๆ ว่า “แม้กองทัพของข้าจะมาถึงเป่ยตี๋แล้ว แต่หากจะเคลื่อนทัพเข้าสู่เขตเมืองหลวงก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยเจ็ดแปดวัน ช่วงเวลานี้ฮ่องเต้ของพวกเจ้ายังทรงอำนาจ พวกเจ้ามาสวามิภักดีตอนนี้ ไม่กลัวหรือว่าจะถูกฮ่องเต้เป่ยตี๋ลงโทษหรือ?”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ