บทที่ 1047 ทฤษฎีสายเลือดจอปลอม
เผชิญหน้ากับคำถามของฉินเฟิง ขุนนางเป่ยตี๋ทั้งหมดจมอยู่ในความเงียบงัน
กั๋วซือก็หน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ ปากสั่นพร่าๆ
เขาตั้งใจจะยืนอยู่บนจุดสูงสุดทางศีลธรรม ตำหนิฉินเฟิงอย่างรุนแรง มุ่งหวังให้ฉินเฟิงกลายเป็นโจรปล้นชาติ กลายเป็นหนูข้างถนนที่ทุกคนไล่ตี
ไม่คาดคิดว่าฉินเฟิงจะใช้ประชาชนทั่วแคว้นเป็นโล่ แยกราชวงศ์และประชาชนออกจากกันอย่างเด็ดขาด กลายเป็นสองฝ่าย
ฉินเฟิงไม่ได้ให้โอกาสกั๋วซือได้หายใจ เขาโจมตีต่อเนื่อง
“อย่าพูดถึงความดีงามอันเสแสร้งกับข้า ที่สุดแล้ว ผู้ใดสามารถทำให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีได้ ผู้นั้นต่างหากคือผู้ปกครองที่ชอบธรรม”
“พวกเจ้าคิดว่าราชวงศ์และขุนนางเป็นอย่างไร อำนาจในมือของพวกเจ้ามิใช่ได้รับมอบจากประชาชนหรอกหรือ”
“เมื่อพวกเจ้าไม่อาจจัดหาชีวิตที่สมควรแก่ประชาชน ก็สมควรถ่อมตนและมอบตำแหน่ง”
“ความสามารถต่างหากคือสิ่งสำคัญ มิใช่สายเลือด!”
หากเป็นกาลก่อน คำกล่าวเช่นนี้ของฉินเฟิงจะไม่ก่อให้เกิดคลื่นลมใด ๆ เลย
แต่สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปแล้ว
ฮ่องเต้เป่ยตี๋นำพาแคว้นเป่ยตี๋ตกสู่หุบเหวแห่งความพินาศ แม้ว่าฉินเฟิงจะไม่มา ประชาชนและตระกูลต่าง ๆ ที่มีความแค้นลึกซึ้งต่อเป่ยตี๋ก็จะรวมกำลังกันโค่นล้มฮ่องเต้เป่ยตี๋
ฉินเฟิงเพียงเร่งกระบวนการเท่านั้น
ดังที่ฉินเฟิงกล่าว ประชาชนคือรากฐานของทุกสิ่ง หากไร้การสนับสนุนจากประชาชน แม้จะมีสายเลือดบริสุทธิ์ของราชวงศ์จิ่ง ก็ไร้สิทธิ์ที่จะนำพาแคว้น
และข้อเท็จจริงพิสูจน์แล้วว่าประชาชนได้ทอดทิ้งราชวงศ์จิ่งแล้ว ตอนนี้ประชาชนในเมืองหลวงปรากฏตัวตามท้องถนน เริ่มกลับมาใช้ชีวิต ฟื้นฟูบ้านเมืองและการผลิต ไม่มีผู้ใดเศร้าโศกกับการล่มสลายของราชวงศ์จิ่งแล้ว
อู๋ฟางซวี่ครุ่นคิดครู่หนึ่ง สุดท้ายก็กัดฟันแน่น สะบัดแขนเสื้อตะโกนเสียงดัง
“ท่านโหวฉินกล่าวถูกต้องแล้ว!”
“ผู้ใดสามารถนำพาความเป็นอยู่ที่สุขสงบมาสู่ประชาชน ผู้นั้นย่อมมีสิทธิ์ที่จะนำพาแคว้น”
“ท่านโหวฉินปกครองอำเภอเป่ยซีรุ่งโรจน์ ชื่อเสียงขจรไกล เพียงข้อนี้ก็เพียงพอจะพิสูจน์ความสามารถในการปกครองของท่านโหวฉินแล้ว”
“ชาวบ้านในอำเภอเป่ยซี ของหล่นบนถนนก็ไม่มีหาย กลางคืนไม่ต้องปิดประตู อาศัยอยู่อย่างสุขสบายราวกับเทพเจ้า”
“ตรงกันข้ามกับราชวงศ์จิ่ง เพื่อสืบทอดอำนาจย่อมไม่สนใจชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน”
“ฤดูหนาวนี้จะมีกี่คนที่ตายเพราะความหนาวเย็นและความหิวโหย?!”
อู๋ฟางซวี่ได้เปลี่ยนจุดยืนอย่างสิ้นเชิง สนับสนุนฉินเฟิงอย่างเต็มที่ เพราะหนทางนี้เท่านั้นที่จะยุติความวุ่นวายของเป่ยตี๋โดยสมบูรณ์
ขุนนางคนอื่น ๆ ยังคงลังเลอยู่บ้าง
ทว่าเสียงของอู๋ฟางซวี่ดังขึ้นอย่างเด็ดเดี่ยว “พวกท่าน แม้จริงแล้วพวกท่านจงรักภักดีต่อประชาชนหรือจงรักภักดีต่อราชวงศ์จิ่งเล่า?”
คำถามนี้ ทลายแนวป้องกันทางจิตใจของเหล่าขุนนางโดยสิ้นเชิง
ขุนนางกรมโยธาธิการคนหนึ่งกัดฟันแน่น ก่อนจะตะโกนเสียงต่ำ “พูด…พูดถูกต้อง!”
“เราทั้งหลายควรให้ความสำคัญกับประชาชนเป็นอันดับแรก!”
เมื่อมีขุนนางคนแรกตอบรับ ก็มีขุนนางคนที่สองตามมา
“ประชาชนทั่วแผ่นดินทนทุกข์ยาก หากประชาชนตายหมดสิ้น แล้วจะมีแคว้นเหลืออยู่ได้หรือ?”
“หากสูญเสียแผ่นดินผู้คนยังอยู่ ผู้คนและแผ่นดินก็จะยังคงอยู่ แต่หากสูญเสียผู้คนเหลือแต่แผ่นดิน ทั้งผู้คนและแผ่นดินย่อมสูญสิ้นแล้ว”
“ผู้คนนับไม่ถ้วนย่อมสำคัญที่สุด!”
“เราทั้งหลายควรจงรักภักดีต่อประชาชน หาใช่ต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ