บทที่ 1057 เส้นทางสู่บ้านอันยาวไกล
กล้าประกาศต่อหน้าขุนนางเป่ยตี๋ว่าจะ ‘ขโมย’ สมบัติล้ำค่าจากพระราชวังของเป่ยตี๋?
ใต้หล้านี้มีเพียงฉินเฟิงเท่านั้นที่กล้าทำเรื่องเช่นนี้!
หากไม่รู้ว่าฉินเฟิงไม่ได้ขัดสนเงินทอง เหล่าขุนนางเป่ยตี๋คงเข้าใจว่าเขาเป็นโจรแน่นอน
หลี่จางก็ตกใจกับการกระทำอันบ้าบิ่นของฉินเฟิงเช่นกัน แม้ตอนนี้จะยึดราชสำนักเป่ยตี๋ได้แล้ว แต่ก็ยังห่างไกลจากการควบคุมได้อย่างสมบูรณ์
อีกทั้งฉินเฟิงและจิ่งเชียนอิ่ง สองบุคคลสำคัญกำลังจะออกจากเป่ยตี๋ เดินทางกลับแคว้นต้าเหลียง
ช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ การปลอบขวัญขุนนางรักษาน้ำใจผู้คนถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
ทว่าฉินเฟิงกลับทำตรงกันข้าม เช่นนี้มิเท่ากับเปิดช่องให้ผู้คนนินทาลับหลังหรอกหรือ?
ไม่ว่าจะเป็นการขโมยหรือการปล้นชิงล้วนเป็นเรื่องไม่สมควร
หลี่จางขมวดคิ้วแน่นพลางโบกมือ “ข้าคืออัครเสนาบดีแห่งเป่ยตี๋ ข้าไม่อนุญาตก็ห้ามผู้ใดแตะต้อง!”
เมื่อคำพูดนี้ดังขึ้น เหล่าขุนนางต่างซาบซึ้งจนน้ำตาแทบไหล
สมบัติในพระราชวังเป่ยตี๋ล้วนเป็นทรัพย์สินของทั้งเป่ยตี๋ หลี่จางในฐานะขุนนางนอกราชสำนักสามารถปกป้องสมบัติในพระราชวังไม่ให้รั่วไหลออกไปได้ เหล่าขุนนางจะไม่ซาบซึ้งใจได้อย่างไร
ตอนนั้นเอง ขันทีกล่าวว่า “ท่านโหวฉินยังบอกอีกว่า ของกำนัลส่วนหนึ่งเป็นของหมิงอ๋อง”
หลี่จางที่เมื่อครู่ยังสง่างามและเที่ยงธรรมพลันชี้ไปที่องครักษ์นอกประตู
“เจ้าไปนำทาง ให้คนของท่านโหวฉินเลือกตามใจได้”
ทั้งท้องพระโรงพลันเงียบกริบ เหล่าขุนนางมองหน้ากันไปมา สีหน้าแต่ละคนราวกับเห็นผี
สมดังคาด! คนรอบตัวฉินเฟิงนั้น ล้วนไร้ยางอายไม่ต่างจากฉินเฟิง
ขณะที่ขันทีกำลังจะหมุนตัวจากไป หลี่จางก็กล่าวเสริมขึ้นมา “อย่าลืมจ่ายเงินด้วย!”
ขันทีชะงักฝีเท้า ค่อย ๆ หันกลับมา สีหน้าฉงนฉงาย ตอนนี้ทั่วทั้งเป่ยตี๋ล้วนเป็นสมบัติของฉินเฟิงแล้ว
เอาของของตัวเองยังต้องจ่ายเงิน? เรื่องอะไรกัน?
“อัครเสนาบดีเมื่อครู่ท่านว่า… จ่ายเงิน?”
หลี่จางพยักหน้า พลางกล่าวอย่างจริงจัง “แผ่นดินนี้เป็นของฝ่าบาท ไม่ใช่ของท่านโหวฉินการมาเอาของที่นี่แล้วจ่ายเงิน มิใช่เรื่องที่ถูกต้องตามครรลองหรอกหรือ?”
แม้หลี่จางจะตอบอย่างไม่ใส่ใจ แต่แฝงความหมายลึกซึ้ง ประการแรก เป็นการบอกให้ขุนนางทั้งหลายรู้ว่า เขาและฉินเฟิงเป็นเพียงผู้ปกครองแทนชั่วคราวเท่านั้น อำนาจสูงสุดยังคงอยู่ที่จิ่งเชียนอิ่ง
ทุกสิ่งที่ทำไปล้วนเพื่อผลประโยชน์ของเป่ยตี๋
ประการที่สอง การให้ฉินเฟิงจ่ายเงินก็เพื่อควบคุมฉินเฟิง
หากไม่คิดเงิน ด้วยนิสัยของฉินเฟิงคงจะขนของในพระราชวังไปหมดสิ้นเป็นแน่
แม้ฉินเฟิงจะเข้าใจดีว่าการขนย้ายสมบัติจากพระราชวังเป่ยตี๋จะต้องถูกจับได้ แต่เพราะเขารักเงินมาก หลังจากชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียแล้ว สุดท้ายก็คงจะยื่นมือขโมยอยู่ดี
เงินทองคือสัจธรรม ตราบใดที่ผลประโยชน์มากพอ ฉินเฟิงจะขนย้ายทั้งเมืองหลวงไปก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ชาวบ้านในเมืองฉางสุ่ยก็เป็นตัวอย่างแล้ว!
ในสายตาของทุกคน การที่ฉินเฟิงอพยพชาวบ้านเมืองฉางสุ่ยเป็นเรื่องที่เหนื่อยเปล่า ไม่ได้ผลตอบแทน
แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่า ลูกคิดในใจของฉินเฟิงดีดคำนวณอย่างแม่นยำเพียงใด ในยุคนี้อะไรสำคัญที่สุดเล่า? แน่นอนว่าเป็นแรงงาน ความมั่งคั่งที่ชาวบ้านเมืองฉางสุ่ยสร้างได้ ฉินเฟิงย่อมคำนวณแล้วว่ามากกว่าค่าใช้จ่ายระหว่างทางหลายเท่านัก
ฉินเฟิงโจมตีเป่ยตี๋ ช่วยให้จิ่งเชียนอิ่งขึ้นครองบัลลังก์ หากไม่นับความสัมพันธ์กับจิ่งเชียนอิ่งและตัดเรื่องภารกิจในฐานะชาวต้าเหลียงออกไป เมื่อขุดลึกลงไปถึงสาเหตุที่แท้จริง ท้ายที่สุดแล้วก็เพื่อ…เงิน!
ภรรยาของฉินเฟิงได้กลายเป็นฮ่องเต้หญิงแห่งเป่ยตี๋ ถึงเวลานั้น ฉินเฟิงก็จะสามารถรุกคืบเข้าสู่วงการการค้าของเป่ยตี๋ได้อย่างเต็มที่ กอบโกยผลประโยชน์จากทุกด้านอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย!


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ