เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 1060

บทที่ 1060 ความทุกข์ยากของประชาชน

เสิ่นชิงฉือเอ่ยปากขึ้นก่อน ขมวดคิ้วเล็กน้อย น้ำเสียงแฝงความประหลาดใจ

“เฟิงเอ๋อร์ ยามที่เจ้านำทัพออกรบ เจ้าไร้ความปรานีขนาดนี้เลยหรือ?”

“คนห้าสิบคน เจ้าคิดจะสังหารก็สังหารเลยหรือ?”

เมื่อเผชิญกับคำถามของเสิ่นชิงฉือฉินเฟิงอดที่จะขำไม่ได้

เขายักไหล่ พลางอธิบายอย่างไม่ใส่ใจ “นี่มันเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น หากเป็นในสนามรบจริง ๆ อย่าว่าแต่ห้าสิบคนเลย ห้าร้อยคนก็เป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น”

“ชีวิตมนุษย์ในยามปกติย่อมมีค่าเหนือกว่าทองพันชั่ง แต่เมื่อถึงยามสงคราม กลับไร้ค่าแม้แต่สตางค์แดงเดียว”

ฉินเฟิงมิใช่คนเลือดเย็น แต่เขาได้เห็นการสูญเสียมากเกินไป และเข้าใจถึงความโหดร้ายในสนามรบเป็นอย่างดี ยิ่งต้องการหลีกเลี่ยงให้ห่างจากสนามรบ

หากไม่จำเป็นถึงที่สุด ฉินเฟิงจะไม่สั่งให้ทหารเคลื่อนไหวโดยไม่จำเป็น เสิ่นชิงฉือไม่เอ่ยวาจาใด นางมองไปทางหลี่เซียวหลานและจิ่งเชียนอิ่งพบว่าแววตาของทั้งสองก็ไม่ดีไปกว่ากัน

เพราะในความเข้าใจของพวกนาง ฉินเฟิงเป็นคนอ่อนโยนและร่าเริง ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าฉินเฟิงจะมีความเด็ดขาดและน่าเกรงขามถึงขนาดนี้

แต่พวกนางต่างรู้ดีในใจว่า ก็เพราะความเย็นชาไร้ความปราณีของฉินเฟิงนั่นเอง ที่ทำให้พวกนางได้ใช้ชีวิตอย่างสบายและสุขสำราญ

หากไม่เป็นเช่นนั้น ความยากลำบากใจเหล่านี้ ก็คงต้องตกเป็นหน้าที่ของพวกนางที่ต้องรับมือ

ด้วยเหตุนี้เอง แม้ทั้งห้าคนจะรู้สึกตกใจ แต่ก็ไม่ได้ครุ่นคิดมากเกินไป

ขบวนรถม้ายังคงเดินทางต่อไป คนทั้งห้าสิบที่ขวางทางนั้น เป็นเพียงผู้คนที่ผ่านมาแล้วผ่านไปเท่านั้น ไม่อาจทิ้งความทรงจำอันใดไว้ได้มากนัก

ไม่ถึงสองวัน ทุกคนก็ลืมคนทั้งห้าสิบนั้นไปจนสิ้น

แฉินเฟิงไม่เคยลืมว่าพวกหัวรั้นเหล่านั้นเคยพยายามลอบสังหารเขา เมื่อพวกมันส่งคนมาหนึ่งกลุ่มแล้ว ก็ย่อมต้องมีอีกกลุ่มตามมาอย่างแน่นอน อีกทั้งฉินเฟิงยังวิเคราะห์ว่าอิทธิพลของพวกหัวรั้นเหล่านี้ไม่ใช่น้อย ๆ แม้จะไม่ถึงขั้นเป็นขุนนางผู้ปกครองแคว้น แต่ก็คงไม่ต่างจากพวกผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นเท่าไร

หลังจากที่ฉินเฟิงยึดเป่ยตี๋ได้ สถานการณ์ทั้งหมดก็จะเปลี่ยนแปลงไป หรือที่เรียกกันว่า “การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่”

เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ผลประโยชน์ของพวกผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นเหล่านี้ย่อมได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน

วิธีจัดการที่ง่ายที่สุดก็คือการลงมือกับฉินเฟิงผู้เป็น ‘ต้นเหตุ’

เป็นไปตามที่ฉินเฟิงคาดไว้ไม่ผิด ไม่นานหลิ่วหมิงก็มารายงานอีกครั้งว่า บนเส้นทางที่จำเป็นต้องผ่านข้างหน้านั้น ปรากฏกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งขึ้นจริง ๆ และครั้งนี้จำนวนคนของพวกมันเพิ่มขึ้นไม่ใช่น้อย มีถึงสามร้อยกว่าคนทีเดียว

จำนวนนี้มากกว่ากองกำลังของฉินเฟิงถึงสองเท่า

หากเกิดการปะทะกันขึ้น ย่อมต้องมีผู้บาดเจ็บล้มตายอย่างแน่นอน ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ฉินเฟิงจึงไม่ลังเลที่จะออกคำสั่งให้อ้อมเส้นทางนั้นไป

ในขณะเดียวกัน ก็ส่งหน่วยอาวุธมืดไปแจ้งข่าวให้หลี่จางที่เมืองหลวงทราบ เพื่อตรวจสอบกลุ่มอิทธิพลต่าง ๆ ในเมืองหลวงของฮ่องเต้เป่ยตี๋อย่างเข้มงวด

แม้ว่าการกระทำนี้จะเหมือนน้ำไกลไม่อาจดับไฟใกล้ แต่หากสามารถระงับตระกูลใหญ่ในแคว้นเป่ยตี๋ไว้ได้ ป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายส่งกำลังจำนวนมากมาไล่ล่าและปิดล้อมฉินเฟิงก็นับว่าเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่แล้ว

ส่วนกองกำลังขนาดเล็ก ฉินเฟิงไม่เกรงกลัวแต่อย่างใด

แน่นอนว่าการหลอกล่อเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การอ้อมเส้นทางก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ขบวนออกจากถนนหลัก ละทิ้งเส้นทางใกล้แล้วเลือกเส้นทางไกล เดินทางผ่านทุ่งรกร้างที่ขรุขระและไม่ราบเรียบ ด้วยเหตุนี้ความเร็วจึงช้าลงอย่างมาก

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป การจะกลับไปถึงแคว้นต้าเหลียงอย่างน้อยต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีกครึ่งเดือน

แต่ตราบใดที่สามารถลดการสูญเสียกำลังพลของพวกเราได้ การเสียเวลาเพิ่มขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

แม้แต่เสิ่นชิงฉือก็ยังยอมรับข้อเสนอของฉินเฟิงการอ้อมไกลยังดีกว่าการปะทะกับกองทัพศัตรูโดยตรง

เนื่องจากออกห่างจากถนนหลวง ระหว่างการเดินทางของขบวน จึงได้พบเห็นชีวิตความเป็นอยู่ที่ ‘แท้จริง’ ของชาวบ้านในเป่ยตี๋

บทที่ 1060 ความทุกข์ยากของประชาชน 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ