เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 1062

บทที่ 1062 ฮ่องเต้หญิงแห่งเป่ยตี๋ ราชวงศ์จิ่ง

เสี่ยวเซียงเซียงและชูเฟิงต่างยกมือปิดปากหัวเราะคิกคัก ส่วนอู๋ถังนั้นเชิดหน้าขึ้นทำท่าภาคภูมิใจอย่างที่สุด

ชายชราไม่เข้าใจว่าเหล่าคนสูงศักดิ์เหล่านี้หัวเราะเรื่องอะไรกัน

แต่เมื่อรู้ว่าพวกเขาไม่ได้มีเจตนาร้าย ชายชราก็กล้ามากขึ้น จึงลองถามออกไป

“คุณชาย ท่านเคยได้ยินชื่อฉินเฟิงหรือไม่?”

ฉินเฟิงยิ้มพลางพยักหน้า แสดงว่าเคยได้ยินชื่อคนผู้นี้มาก่อน

ชายชราก็มีสายตาที่ดีอยู่บ้าง เมื่อเห็นขุนนางตรงหน้าและได้ยินชื่อฉินเฟิงสีหน้าไม่ได้หม่นหมองลงแต่อย่างใด กลับยิ้มอย่างผ่อนคลายมากขึ้น จึงรู้ว่าพวกขุนนางเหล่านี้ไม่ใช่ศัตรูของฉินเฟิง

เขารีบพูดโอ้อวดขึ้นมา “พวกขุนนางต่างพูดกันว่า ฉินเฟิงเป็นศัตรูของแผ่นดิน”

“ข้าขอบอกว่า ล้วนเป็นคำพูดเหลวไหลทั้งสิ้น”

“ฉินเฟิงเลวร้ายตรงไหน? นับตั้งแต่ซางโจวตกอยู่ในมือของฉินเฟิงประชาชนต่างก็อยู่กันอย่างสุขสบาย ชีวิตที่ดีเช่นนี้ใคร ๆ ก็เห็นได้”

“อีกอย่าง เมืองซางโจว ตั้งแต่ฉินเฟิงโจมตียึดครองแล้ว ไม่เคยแตะต้องประชาชน กลับเป็นกองทัพท้องถิ่นต่างหากที่ปล้นสะดมหมู่บ้านและเมืองต่าง ๆ เพื่อหาเสบียงกองทัพ!”

“ฮึ! พวกข้าอยากให้ฉินเฟิงปกครองเสียมากกว่า ส่วนเจ้าหน้าที่และทหารในพื้นที่ก็ช่างไม่ต่างอะไรกับโจร”

เมื่อพูดถึงฉินเฟิงดวงตาของชายชราเปล่งประกาย ทุกถ้อยคำเต็มไปด้วยความเลื่อมใสศรัทธา

คนชรา คนป่วย และคนพิการที่อยู่รอบข้างต่างพยักหน้าเห็นด้วย

“ถูกต้อง ผู้ใดที่ทำให้พวกข้ามีชีวิตที่ดีขึ้นได้ คนผู้นั้นก็คือคนดี”

“แคว้นใหญ่โตขนาดนี้ กลับรักษาชีวิตของพวกข้าไว้ไม่ได้ ไปยังซางโจวดีกว่า ไปที่นั่นแล้วถึงจะรู้สึกเหมือนเป็นคน”

“ขอถามท่านผู้สูงศักดิ์ พวกท่านจะเดินทางไปที่ใดหรือ?”

เมื่อเหล่าผู้อพยพถาม ฉินเฟิงยิ้มพลางยักไหล่ “บังเอิญจริง พวกข้าก็จะไปซางโจวเช่นกัน”

เมื่อได้ยิน ดวงตาของชายชราก็เป็นประกาย “คุณชาย พวกข้าไปซางโจวเพื่อหนีภัย แล้วพวกท่านไปเพื่อสิ่งใดหรือ?”

“ผู้มีฐานะอย่างท่านไปที่ใดก็คงมีชีวิตที่สุขสบาย เหตุใดยังต้องไปซางโจวด้วยเล่า?”

ฉินเฟิงยังคงยิ้มแย้ม ตอบอย่างมีนัย “ข้าไม่ได้หนีภัย เพียงกำลังเดินทางกลับบ้านเกิด”

ดวงตาชายชรายิ่งเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น “อย่างนั้นหรือ ท่านเป็นคนซางโจวหรือ? จากกิริยาท่าทางสง่างามของท่าน ต้องเป็นคนชั้นสูงแห่งซางโจวแน่ เกรงว่าท่านคงเคยพบฉินเฟิงตัวจริงมาแล้ว ขอถามคุณชาย ฉินเฟิงมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร?”

เรื่องนี้ทำเอาฉินเฟิงถึงกับอึ้ง นับตั้งแต่มาถึงเป่ยตี๋ใบหน้าหล่อเหลาของเขาต้องตากแดดตากลมจนเปลี่ยนไปหมดสิ้น ตอนนี้หน้าตาเป็นอย่างไรแม้แต่ฉินเฟิงเองก็จำไม่ได้แล้ว

ขณะที่ฉินเฟิงกำลังลำบากใจไม่รู้จะตอบอย่างไร อู๋ถังที่อยู่ด้านหลังก็พูดขึ้นมา

“ผู้ใดบอกพวกเจ้าว่าคนตรงหน้านี้เป็นชาวซางโจว?”

ชาวบ้านล้วนเกรงกลัวทหาร เมื่อเผชิญหน้ากับอู๋ถังที่ท่าทางดุดัน ชายชราก็รีบหดหัวกลับไป พลางกล่าวอย่างตื่นตระหนก “ท่าน…ท่านไม่ได้บอกหรือว่ากำลังเดินทางกลับบ้านเกิด?”

“ท่านว่ากลับบ้าน ทั้งยังบอกว่าไปซางโจว ถ้าไม่ใช่คนซางโจว แล้วจะเป็นคนที่ใดเล่าขอรับ?”

อู๋ถังเชิดหน้าขึ้น ท่าทางหยิ่งยโส “แค่ผ่านซางโจวไม่ได้หรือไร?”

ชายชรางุนงง ผ่านซางโจว… ทางใต้ของซางโจวคือที่ใดกัน?

ขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงอุทานดังขึ้นข้างกาย

ชายวัยกลางคนผมเผ้ารุงรังสกปรกจ้องฉินเฟิงไม่วางตา ปากก็ร้องอย่างประหลาดใจ “ท่านเป็นคนแคว้นต้าเหลียงหรือ?!”

“ข้าก็ว่าแล้วว่า สำเนียงที่ได้ยินเมื่อครู่นี้ไม่ถูกต้อง”

เมื่อได้ยินว่าชายหนุ่มตรงหน้าเป็นชาวแคว้นต้าเหลียง เหล่าผู้อพยพต่างตื่นตระหนก

พวกเขาไม่ได้กลัวชาวต้าเหลียง กลับกลัว…คนท้องถิ่นมากกว่า! แม้ตอนนี้เป่ยตี๋และต้าเหลียงจะหยุดทำสงครามแล้ว แต่ขุนนางและคหบดีส่วนใหญ่ยังคงแค้นเคืองต้าเหลียง

พวกเขาไม่กล้าทำอะไรกับชาวแคว้นเหลียงโดยตรง แต่เมื่อต้องจัดการกับราษฎรในท้องถิ่น พวกเขากลับไม่ลังเลที่จะลงมือแม้แต่น้อย

บทที่ 1062 ฮ่องเต้หญิงแห่งเป่ยตี๋ ราชวงศ์จิ่ง 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ