บทที่ 1079 โจรร้ายแห่งอำเภอหยูผิง
ฉินเฟิงนำทัพกองทหารม้าทมิฬมุ่งหน้าตรงไปยังที่ว่าการอำเภอโดยมีนายอำเภอส่งคนไปเชิญหมอมา
ขณะนี้ทั่วทั้งที่ว่าการอำเภอสว่างไสวด้วยแสงโคม นายอำเภออู๋เฉิงกงมองดูแม่ลูกคู่นั้นที่อยู่ตรงหน้า แล้วหันไปมองฉินเฟิงที่มีสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ข้าง ๆ ในใจอดรู้สึกสงสัยไม่ได้
แม้ว่าเขาจะไม่เคยพบฉินเฟิงมาก่อน แต่ชายหนุ่มตรงหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ภายนอก หรือกองทหารม้าทมิฬที่ติดอาวุธครบมือที่อยู่รอบตัว ล้วนยืนยันว่าชายหนุ่มผู้นี้คือโหวอันดับหนึ่งแห่งต้าเหลียง
ใต้เท้าผู้สูงศักดิ์เช่นนี้ เหตุใดจึงมาขอความช่วยเหลือจากหมอที่อำเภอหยูผิง?
อีกทั้งการขอความช่วยเหลือจากหมอก็ยังพอว่า แต่ปัญหาคือแม่ลูกคู่นี้ มีรูปโฉมธรรมดา เด็กน้อยยังพอว่า แต่สตรีผู้นั้น มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็น ‘ชาวบ้านธรรมดา’
ไฉนสามัญชนชั้นล่างเช่นนี้ จึงทำให้ฉินเฟิงกังวลถึงเพียงนี้?
อู๋เฉิงกงทนไม่ไหวจึงลองถามอย่างระแวดระวัง “ท่านโหวฉินข้าน้อยขอถามว่าแม่ลูกคู่นี้มีฐานะเช่นไร?”
ฉินเฟิงใจจดจ่ออยู่กับหนิวเอ้อร์ จึงไม่ได้สังเกตความผิดปกติในสายตาของอู๋เฉิงกง
จ้าวอวี้หลงขมวดคิ้วพลางเอ่ยเสียงเข้ม “เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับเจ้า? เจ้าเพียงแค่รักษาคนก็พอ”
เมื่อรู้สึกถึงกระแสสังหารที่แผ่ออกมาจากร่างของจ้าวอวี้หลง อู๋เฉิงกงก็รู้สึกหวั่นใจ แต่หลังจากลังเลครู่หนึ่ง เขาก็รวบรวมความกล้าพูดถึงความกังวลในใจ
“ท่านแม่ทัพ อย่าได้เข้าใจผิด ข้าน้อยไม่มีเจตนาแอบแฝง เมื่อท่านโหวฉินมาขอความช่วยเหลือจากหมอที่อำเภอหยูผิง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ข้าน้อยจะทุ่มเทสุดความสามารถในการรักษาคุณชายน้อยผู้นี้”
“แต่หากแม่ลูกคู่นี้เป็นเพียงผู้ที่ท่านโหวฉินพบโดยบังเอิญระหว่างทาง ก็ควรตรวจสอบตัวตนให้แน่ชัดจะดีกว่า”
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ฉินเฟิงจึงละสายตาจากหนิวเอ้อร์ หันไปมองอู๋เฉิงกง ตั้งแต่มาถึงที่ว่าการอำเภอสายตาของอู๋เฉิงกงก็จับจ้องไปที่แม่ลูกหนิวเอ้อร์ไม่วางตา เห็นได้ชัดว่าเขามีเรื่องกังวลใจบางอย่าง
หากจะบอกว่าอู๋เฉิงกงรู้จักแม่ลูกคู่นี้มาก่อน ก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะแม่ลูกหนิวเอ้อร์ไม่เพียงแต่เป็นคนเป่ยตี๋ยังเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา ๆ
ต่อให้อู๋เฉิงกงจะมีเส้นสายกว้างขวางแค่ไหน ก็คงไม่มีทางเกี่ยวข้องกับชาวบ้านธรรมดาในเขตเมืองหลวงเป่ยตี๋ได้
ดังนั้นตามการคาดการณ์ของฉินเฟิงอู๋เฉิงกงน่าจะจำคนผิดเสียมากกว่า
ฉินเฟิงอดทนถามกลับไปว่า “นายอำเภออู๋ มีอะไรก็พูดมาตรง ๆ เถิด ไม่ต้องอ้อมค้อม”
“ในฐานะผู้ปกครองอำเภอหยูผิง ถึงท่านจะพูดผิดไป ข้าก็คงไม่ทำอะไรท่านหรอก”
ได้ยินเช่นนั้น อู๋เฉิงกงก็มีความมั่นใจขึ้นมา
เขาไม่ลังเลอีกต่อไป รีบอธิบายว่า “ท่านโหวฉินท่านอาจจะไม่ทราบ ช่วงนี้อำเภอหยูผิงไม่ค่อยสงบ”
“เมื่อเจ็ดแปดวันก่อน จู่ ๆ ก็มีโจรกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้นในละแวกนี้ พบใครก็ฆ่า ไม่ว่าจะเป็นราษฎรทั่วไป หรือขุนนาง เจอพวกมันเมื่อไหร่ก็ต้องตายเมื่อนั้น”
“และเพื่อฆ่าคนปล้นทรัพย์ พวกโจรยังส่งเหยื่อล่อออกมา มักจะปลอมตัวเป็นสตรีและเด็กที่ตกทุกข์ได้ยาก”
“หากชาวบ้านธรรมดาเข้าไปช่วยเหลือ ก็ต้องถูกฟันตายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
“หากเป็นตระกูลร่ำรวยหรือขุนนางที่ออกมาช่วยเหลือ พวกมันจะคอยติดตามไปตลอดทาง สุดท้ายก็จะลงมือสังหารและปล้นชิง”
“เนื่องจากพวกมันโหดเหี้ยมเหลือเกิน ทำให้ทั้งเมืองหยูผิงวุ่นวายจนผู้คนหวาดกลัว”
เมื่อได้ฟังคำพูดของอู๋เฉิงกง ประกอบกับตอนที่เข้าเมือง แม่ทัพรักษาประตูเมืองก็พูดจาอ้ำอึ้ง ระมัดระวังจนเกือบจะงมงาย
ฉินเฟิงจึงเข้าใจในที่สุดว่า ไม่ใช่แม่ทัพตั้งใจกลั่นแกล้ง แต่เป็นเพราะกลัวโจรพวกนั้นต่างหาก
เมื่อรู้ที่มาที่ไปของเรื่องราว ฉินเฟิงขมวดคิ้วแน่น กล่าวเสียงเข้ม “ไม่นึกว่าในยุคที่บ้านเมืองสงบสุขเช่นนี้ จะยังมีพวกโจรที่กล้าทำร้ายผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจ”
“ในเมื่อท่านเป็นนายอำเภอเหตุใดไม่ส่งทหารไปปราบปรามเสียที?”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ