บทที่ 1098 ตระกูลหวังผู้ทรงอิทธิพล
หวังหยวนลี่บุกเข้ามาในศาลว่าการอำเภออย่างโกรธเกรี้ยว เขากวาดตามองทุกคนในที่นั้นด้วยสายตาเดือดดาล ก่อนจะหยุดมองที่ฉินเฟิงด้วยแววตาดูแคลนอย่างไม่ปิดบัง
เมื่อครู่นี้ ขณะที่หวังหยวนลี่กำลังงีบหลับอยู่ที่บ้าน เหล่าองครักษ์ก็พังประตูบุกเข้ามา แล้วจะลากตัวเขาไปศาลว่าการอำเภอเพื่อสอบสวนคดีโดยไม่ฟังคำชี้แจงใด ๆ
เรื่องนี้ทำให้หวังหยวนลี่โกรธจัด พวกสมุนหมาเหล่านี้ วัน ๆ เอาแต่กินข้าวดื่มน้ำของตระกูลหวัง พูดให้ชัดก็คือเป็นแค่สุนัขเฝ้าบ้านที่ตระกูลหวังเลี้ยงไว้เท่านั้น
วันนี้กลับทำตัวผิดปกติ คิดจะแว้งกัดเจ้านายงั้นหรือ?!
หากไม่ใช่เพราะหวังหยวนลี่ไม่อยากให้เรื่องบานปลาย เขาคงสั่งคนรับใช้ให้ซ้อมพวกองครักษ์ที่ไม่รู้จักบุญคุณพวกนี้จนพิการไปแล้ว
ส่วนเรื่องไปสอบสวนคดีที่ศาลว่าการอำเภอน่ะหรือ?
จะสอบสวนบ้าอะไรกัน! หวังหยวนลี่ไม่สนใจเลยสักนิด จนกระทั่งองครักษ์บอกว่าหวังฉีถูกฆ่าตาย หวังหยวนลี่ถึงกับอึ้งไปนานก่อนจะได้สติกลับมา
เมื่อรู้ว่าฆาตกรที่สังหารหวังฉีอยู่ที่ศาลว่าการอำเภอหวังหยวนลี่ก็รีบบึ่งมาทันที
ระหว่างทาง เขาสาบานกับตัวเองว่าจะต้องทำให้อีกฝ่ายต้องชดใช้ด้วยเลือด
ตระกูลหวังมีทายาทคือหวังฉีเพียงคนเดียว บัดนี้หวังฉีตายไป ทรัพย์สมบัติมากมายก็ไม่มีผู้สืบทอด แค้นเลือดครั้งนี้ หวังหยวนลี่จะไม่ยอมปล่อยไว้เด็ดขาด
ในตอนนี้ เมื่อเขามองดูฉินเฟิงที่นั่งอยู่หลังโต๊ะหนังสือ ก็รู้ทันทีว่าไอ้ชั่วตรงหน้านี่คือฆาตกรที่สังหารลูกชายของตน
เพราะองครักษ์เคยบอกว่าอีกฝ่ายเป็นขุนนางใหญ่จากเบื้องบน ที่ตัดสินใจมาจัดการคดีของหลิวอวิ๋นเซียด้วยตัวเอง
ก่อนที่ฉินเฟิงจะได้เอ่ยปาก หวังหยวนลี่ก็รีบชิงพูดขึ้นมาก่อน เขากัดฟันด่าทอฉินเฟิงอย่างเดือดดาล
“สัตว์นรกชั่วช้า เจ้ากล้าทำร้ายชีวิตลูกชายข้า หากข้าไม่สับเจ้าเป็นชิ้น ๆ ข้าก็ไม่ใช่สกุลหวังอีกต่อไป!”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ นายอำเภอหม่าฟางหยวนและหัวหน้าหน่วยซุนอี้ต่างสบตากันด้วยความหวาดกลัว
ซุนอี้สบถด่าในใจ
พวกทหารที่ไปจับตัวหวังหยวนลี่มา ไม่ได้อธิบายให้เขาเข้าใจหรืออย่างไร?
หากหวังหยวนลี่รู้ว่าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาคือฉินเฟิงต่อให้มีความกล้าร้อยเท่าพันเท่า ก็คงไม่กล้าก่อเรื่องเช่นนี้แน่
ซุนอี้อยากจะเตือนหวังหยวนลี่ไม่ให้กระโดดเข้ากองไฟ แต่เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาของฉินเฟิงและจ้าวอวี้หลงเขาก็ไม่กล้าเอ่ยปากใด ๆ
เขาได้แต่ยืนอยู่ด้านข้างและภาวนาในใจไม่หยุด
“ท่านหวัง ท่านควรระวังตัวหน่อย อย่าได้พูดจาไม่เคารพท่านโหวฉินอีกเลย มิเช่นนั้นแม้แต่เทพเซียนก็ช่วยท่านไม่ได้”
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้นอกอำเภอ ที่หวังฉีถูกจ้าวอวี้หลงบีบตายราวกับลูกไก่ ซุนอี้ก็รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว
ใต้เท้าทั้งสองท่านที่อยู่ตรงหน้านี้ ไม่ใช่อันธพาลท้องถิ่นในอำเภอหมิงที่ใครจะมาล่วงเกินได้
แต่หวังหยวนลี่จะสนใจอะไรมากมาย? ตอนนี้เขามีความคิดเดียวคือต้องแก้แค้นให้ลูกชายที่ตายอย่างแค้นใจ
ดวงตาทั้งคู่ของเขาเต็มไปด้วยเส้นเลือด จ้องมองฉินเฟิงอย่างดุดัน แล้วตวาดเสียงต่ำ “เจ้าเป็นใบ้ไปแล้วหรือ?!”
“กล้าทำแต่ไม่กล้ารับหรือ?”
“เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ต่อให้แกล้งโง่ก็ช่วยเจ้าไม่ได้แล้ว ข้าต้องตัดหัวเจ้าเพื่อไว้อาลัยให้วิญญาณลูกข้าแน่!”
เมื่อเผชิญหน้ากับการยั่วยุของหวังหยวนลี่ ฉินเฟิงกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใด ๆ
ด้วยเพราะอันธพาลท้องถิ่นระดับนี้ ยังไม่อาจทำให้อารมณ์ของฉินเฟิงต้องหวั่นไหวแม้แต่น้อย
แม้จ้าวอวี้หลงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ จะอยากบิดหัวของหวังหยวนลี่ให้หลุดนัก แต่หากไร้ซึ่งคำสั่งจากฉินเฟิงเขาก็ไม่กล้าตัดสินใจเอง ได้แต่อดทนยืนอยู่ข้าง ๆ จ้องมองหวังหยวนลี่ด้วยสายตาเย็นชา


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ