บทที่ 1104 หยุดการฆ่าด้วยการฆ่า
ตามหลักแล้วหลิวอวิ๋นชุนที่ถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายจนเป็นเช่นนี้ ย่อมต้องแค้นเคืองหม่าฟางหยวนอย่างที่สุด
แต่ผลกลับตรงกันข้าม หลิวอวิ๋นชุนมองหม่าฟางหยวนแวบหนึ่ง โดยไม่ได้แสดงอารมณ์ด้านลบมากนัก
นางตอบตามความจริง
“เป็นคนตระกูลหวังที่จับพวกข้าเข้าศาลว่าการอำเภอ ท่านนายอำเภอหม่าได้รับคำสั่งจากตระกูลหวัง ตัดสินโทษพวกเราและสั่งให้คุมขังไว้ชั่วคราว”
“จากนั้นก็เป็นเจ้าหน้าที่ที่พาพวกข้าออกนอกเมือง บอกว่าจะฆ่าไก่ให้ลิงดู เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าการขัดขวางตระกูลหวังจะจบลงเช่นไร”
คำพูดของหลิวอวิ๋นชุนยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า หม่าฟางหยวนเป็นเพียงหุ่นเชิดที่ถูกตระกูลใหญ่ข่มขู่เท่านั้น
แม้แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังคอยเอาใจตระกูลหวัง ไม่ได้ฟังคำสั่งของหม่าฟางหยวนเลย
อย่าว่าแต่หม่าฟางหยวนเลย ไม่ว่าใครมาเป็นขุนนางที่อำเภอหมิงก็คงไม่มีจุดจบที่ดีไปกว่านี้
เพราะทั้งศาลว่าการอำเภอถูกตระกูลหวังครอบงำมานานแล้ว
การจะเปลี่ยนแปลงสภาพของอำเภอหมิง ปัญหาที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่หม่าฟางหยวน แต่อยู่ที่ตระกูลหวังและศาลว่าการอำเภอเอง
เมื่อตระกูลหวังล่มสลายแล้ว ต่อไปก็เหลือเพียงปัญหาเดียว
ฉินเฟิงชี้นิ้วไปที่ซุนอี้ “เจ้าเข้ามานี่”
ซุนอี้กลืนน้ำลายลงคอ แม้จะไม่รู้ว่าฉินเฟิงเรียกตนมาทำไม แต่ด้วยฐานะและตำแหน่งของฉินเฟิงหากต้องการชีวิตของเขา ก็แค่พูดคำเดียวเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องพูดอ้อมค้อม
ซุนอี้ไม่กล้าลังเล รีบก้าวเดินเข้าไปต้อนรับ
“ท่านโหวฉินมีอะไรจะสั่งการหรือขอรับ?”
ฉินเฟิงไม่พูดอ้อมค้อม พูดตรง ๆ ว่า “ในศาลว่าการอำเภอนี้มีเจ้าหน้าที่ทั้งหมดกี่คน?”
เมื่อเผชิญกับคำถามของฉินเฟิงซุนอี้จะกล้าปิดบังอะไรได้? รู้อะไรก็พูดไป พูดแล้วต้องพูดให้หมด
“เรียนท่านโหว เจ้าหน้าที่ที่ขึ้นทะเบียนทั้งศาลว่าการอำเภอมีทั้งหมดเจ็ดสิบเก้าคนขอรับ”
“เจ้าหน้าที่ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน มีอีกห้าสิบกว่าคนขอรับ”
เมื่อได้ยินคำตอบของซุนอี้ ฉินเฟิงพยักหน้าเบา ๆ
เจ้านี่ยังพอซื่อสัตย์อยู่
อำเภอหมิงไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่ก็ถือว่าเป็นอำเภอที่มั่งคั่ง การมีเจ้าหน้าที่เจ็ดสิบเก้าคนในศาลว่าการอำเภอก็ถือว่าสมเหตุสมผล
เจ้าหน้าที่นั้นเป็นแค่ “ลูกจ้างชั่วคราว” และพวกที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนก็เป็นลูกจ้างชั่วคราวของลูกจ้างชั่วคราวอีกที
แต่เนื่องจากอิทธิพลของตระกูลหวังนั้นยิ่งใหญ่เกินไป ดังนั้นเจ้าหน้าที่ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนพวกนี้ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นมือปราบประจำตัวของตระกูลหวัง
“ไปเรียกเจ้าหน้าที่ทั้งหมดในศาลว่าการอำเภอมาที่นี่ ไม่ว่าจะขึ้นทะเบียนหรือไม่ก็ตาม หากขาดไปแม้แต่คนเดียว ข้าจะเอาเรื่องกับเจ้า”
เมื่อรับรู้ถึงบรรยากาศอันน่าเกรงขามที่แผ่ออกมาจากฉินเฟิงซุนอี้รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งแผ่นหลัง รีบหันหลังวิ่งออกไป
ไม่ถึงหนึ่งก้านธูป เจ้าหน้าที่ทั้งหมดก็มาครบ รวมทั้งสิ้นหนึ่งร้อยสามสิบเก้าคน เกือบจะแน่นเต็มศาลว่าการอำเภอ
ฉินเฟิงไม่พูดอ้อมค้อม กล่าวตรง ๆ ว่า “ให้ชาวบ้านชี้ตัว เจ้าหน้าที่คนไหนที่เคยช่วยตระกูลหวัง กดขี่ข่มเหงชาวบ้าน จับตัวมาให้หมด”
“เพื่อหลีกเลี่ยงการใส่ร้ายคนดี ต้องมีชาวบ้านชี้ตัวพร้อมกันอย่างน้อยสิบคนขึ้นไป จึงจะนับว่าผิดจริง”
หากเป็นในอดีต ชาวบ้านที่อยู่ในที่นี้คงไม่กล้าออกหน้า
แต่วันนี้ พวกเขามีฉินเฟิงคอยให้ความเป็นธรรม ราวกับความฝันที่เป็นจริง ต่างพากันวิ่งเข้าไปในลานศาลว่าการอำเภอชี้หน้าด่าทอพวกเจ้าหน้าที่ที่ยืนหน้าซีดเผือดสั่นเทาอยู่
“ไอ้คนชั่ว วันนี้เจ้าก็ได้รับกรรมเสียที นี่แหละสวรรค์ลงโทษ”
“ไอ้คนนี้แหละ ที่ทำตามคำสั่งตระกูลหวัง ทุบขาท่านพ่อข้าจนหัก!”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ