บทที่ 115 พิธีชำระอาภรณ์
เพื่อหลีกเลี่ยงความสงสัยของเสด็จพี่ องค์ชายเจ็ดจึงใช้ชีวิตอย่างสันโดษมาตั้งแต่เด็ก เขารับรู้เรื่องราวจากโลกภายนอกน้อยมาก
เมื่อได้ยินเสี่ยวจั๋วจื่อพูดถึงการกระทำต่าง ๆ ของฉินเฟิงจึงอดหัวเราะไม่ได้ และรู้สึกว่าคนผู้นี้น่าสนใจมากกว่าตัวละครตลกในหนังสือเสียอีก
บทกวี ‘ออกด่าน’ ทำให้องค์ชายเจ็ดรู้สึกฮึกเหิม ฉินเฟิงทำลายกฎเกณฑ์ของขุนนางที่เอาแต่ปกป้องกันเอง เขากล้าหาญในการเผชิญหน้ากับเหล่าบุตรหลานขุนนางในเมืองหลวง อีกทั้งยังกล้าปะทะฝีปากกับพวกบัณฑิตในราชสำนัก ทั้งหมดนี้ทำให้องค์ชายเจ็ดประทับใจฉินเฟิงผู้นี้เป็นอย่างมาก
เขายิ่งอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับคน ๆ นี้มากขึ้น
เสี่ยวจั๋วจื่อคาดเดาใจได้เก่ง เมื่อเห็นความปรารถนาในสายพระเนตรขององค์ชายเจ็ด เขาก็รีบให้คำแนะนำ “องค์ชาย วันนี้กระหม่อมได้ยินข่าวคราวจากขันทีตอนกินอาหารเย็นว่า อีกสามวันจะมีพิธีชำระอาภรณ์ ถึงวันนั้นองค์ชายไปทอดพระเนตรดูได้พ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น พระเนตรขององค์ชายเจ็ดพลันสว่างขึ้น
พิธีชำระอาภรณ์เป็นพิธีที่ต้องทำก่อนเดินทัพทำสงคราม แม้ว่าจะไม่ใหญ่เท่ากับพิธีสักการะบรรพบุรุษของราชวงศ์ แต่เชื้อพระวงศ์และเสาหลักของประเทศล้วนต้องเข้าร่วมพิธี
ฉินเทียนหู่ในฐานะขุนนางกรมกลาโหมย่อมต้องเข้าร่วม และฉินเฟิงอาจจะต้องไปกับบิดาด้วยเช่นกัน
เมื่อคิดว่าจะได้พบกับฉินเฟิง องค์ชายเจ็ดพลันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างหาใดเปรียบ
เพียงแต่พิธีชำระอาภรณ์มีความสำคัญอย่างยิ่ง ปัญหาต่าง ๆ มากมาย เช่น ข้ารับใช้ หรือการเงินนับว่ามีไม่น้อย
เกรงว่าจะเกิดการทะเลาะกันครั้งใหญ่ในราชสำนัก…
วันรุ่งขึ้น ฉินเทียนหู่ที่กลับมาตั้งแต่เช้าตรู่ก็ทุบถ้วยไปหลายใบด้วยความโกรธ
หลิ่วหงเหยียนรีบมาทันทีหลังจากได้ยินข่าว เดิมคิดจะพูดปลอบใจสักสองสามคำ แต่เมื่อเห็นฉินเทียนหู่เงียบไม่พูดไม่จา ทั้งยังมีสีหน้าย่ำแย่ นางจึงคาดเดาได้ว่าในราชสำนักคงมีบางอย่างผิดปกติแน่ คุณหนูรองครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ในเวลาเช่นนี้คงมีเพียงฉินเฟิงเท่านั้นที่จะสามารถช่วยท่านพ่อวางแผนได้ อย่างไรเจ้าเด็กนั่นก็มีความคิดฉลาดแกมโกงเยอะมากนัก
หลิ่วหงเหยียนรีบไปที่เรือนหลัง นางบุกเข้าไปถึงห้องของฉินเฟิง แล้วสะบัดผ้าห่มของเขาขึ้น
ฉินเฟิงกึ่งหลับกึ่งตื่นจึงคิดว่าเป็นเสี่ยวเซียงเซียงที่มาก่อปัญหาเลยไม่คิดจะลืมตา ชายหนุ่มใช้มือหนึ่งดึงผ้าห่ม ส่วนอีกมือคว้าข้อมือของหลิ่วหงเหยียนแล้วลากนางเข้ามาใต้ผ้าห่มโดยตรง นายน้อยฉินกอดร่างเล็ก ๆ ที่อ่อนนุ่มราวไร้กระดูกพลางลูบไล้มือไปทั่ว แล้วนอนต่อ
ร่างกายของหลิ่วหงเหยียนราวกับถูกไฟลวก ทั้งอายทั้งโกรธ แต่แรงของนางน้อยเกินกว่าจะต้านทานแรงของฉินเฟิงได้ นางจึงได้แต่หยิกท้องของเขาอย่างแรง
ฉินเฟิงไม่สามารถทนต่อความเจ็บปวดได้ สะดุงตื่นขึ้นมาทันที เมื่อพบว่าคนที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่เสี่ยวเซียงเซียง แต่เป็นพี่หญิงรอง ชายหนุ่มก็ผงะไปชั่วครู่
จากนั้น… เขาก็ยิ้มและกอดนางแน่นขึ้น
แก้มของหลิ่วหงเหยียนแดงก่ำ นางกัดฟันพูดว่า “รีบปล่อยมือเสีย หากคนอื่นมาเห็นจะทำอย่างไร!”
ฉินเฟิงไม่แยแส และพูดอย่างไม่ใส่ใจ “กลัวอะไร? พี่น้องนอนด้วยกันไม่ใช่เรื่องธรรมดาทั่วไปหรอกหรือ อีกอย่าง ไม่ใช่ข้าที่ขึ้นเตียงของท่าน แต่เป็นท่านต่างหากที่มาขึ้นเตียงของข้า”
หลิ่วหงเหยียนตัวสั่นด้วยความอับอาย เสียงของนางขาด ๆ หาย ๆ “เจ้า… เจ้าอย่าพูดไร้สาระ! ใครขึ้นเตียงของเจ้า ไอ้เด็กสารเลว! ข้าเป็นพี่หญิงของเจ้า ระวังคำพูดด้วย ถ้าเจ้ายังทำตัวไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่อีก ข้าจะทุบเจ้าจริง ๆ”
ตอนแรกหลิ่วหงเหยียนจดจ่ออยู่กับการโต้เถียงกับฉินเฟิง จนกระทั่งรู้สึกได้ว่าร่างกายของนางถูกโอบด้วยอ้อมอกที่แข็งแกร่งอย่างแน่นหนา คุณหนูรองจึงตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ หัวใจของนางเต้นแรงขึ้น อับอายจนอยากจะมุดแผ่นดินหนี
ร่างกายที่อ่อนนุ่มนี้ราวกับได้กอดนุ่นจริง ๆ ไม่ต้องพูดเลยว่าสบายแค่ไหน พลันฉินเฟิงผุดรอยยิ้มร้ายกาจบนใบหน้า “ก็ได้ ๆ ข้ารู้แล้ว ต่อไปจะระวังเวลาพูด นอนต่อเถอะ นี่เพิ่งกี่โมงเอง? ฟ้ายังไม่สางเลย”
หลิ่วหงเหยียนหยิกหน้าท้องของฉินเฟิงอีกครั้ง แล้วตวาดเสียงเกรี้ยว “เจ้าบ้า! วัน ๆ รู้จักแต่รังแกข้า ชาติก่อนข้าเป็นหนี้เจ้ารึ? ปล่อยมือเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องนอนแล้ว! ไปหาบิดาของเจ้า คาดว่าที่ราชสำนักคงมีเรื่องน่าปวดหัว ในจวนฉินของเราก็มีแต่เจ้าที่พอจะเข้าใจเรื่องพวกนั้น”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินเฟิงก็ปล่อยหลิ่วหงเหยียน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ยอมลุกจากเตียง ชายหนุ่มเพียงแค่พลิกตัวไปอีกด้าน แล้วขดเป็นก้อน ก่อนจะพูดว่า “ใครอยากไปก็ไป ข้าไม่ไปที่อัปโชคเช่นนั้นหรอก ถ้าแก้ไม่ได้จริง ๆ ก็ให้หลินฉวีฉีไปสิ เจ้าหมอนั่น ชอบตาแก่ฉินมากไม่ใช่หรือ?”
หลิ่วหงเหยียนลุกขึ้น แล้วเตะฉินเฟิงที่ไม่เอาการเอางานอย่างแรง “อย่าผลักภาระไปให้คนอื่น! ข้าจะถามเจ้าอีกครั้ง จะไปหรือไม่ไป?”
ฉินเฟิงตอบแบบไม่คิด “ไม่ไป! ข้าง่วงมาก”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ