บทที่ 1179 การเลี้ยงม้าและภาษี
พวกชาวนาเหล่านี้ แต่เดิมก็ได้กำไรมากอยู่แล้ว แถมยังได้ส่วนลดครึ่งราคาในการซื้อม้าอีก?!
องค์หญิงจิ่งฉือกลืนน้ำลายอย่างอดไม่ได้ พูดอย่างงงงัน “นี่ก็เป็นกฎหมายที่ฉินเฟิงบัญญัติขึ้นหรือ?”
หลินฉวีฉียักไหล่ “อำเภอเป่ยซีมีกฎหมายเกือบทั้งหมดที่ท่านอ๋องทรงบัญญัติขึ้นด้วยพระองค์เอง”
เป่ยตี๋หมอจากกรมโยธาที่มาด้วยกัน ทนไม่ไหวแล้ว รีบถามขึ้นมา
“การให้ประโยชน์แก่ประชาชนนั้นเป็นเรื่องดี แต่ท่านอ๋องกลับมอบภาษีทั้งหมดของศาลว่าการอำเภอให้แก่ประชาชน เมื่อถึงคราวต้องใช้เงิน จะทำอย่างไร?”
“พูดตรง ตอนนี้ประชาชนอาจจะดีใจ แต่ในอนาคตหากมีสงคราม ต้องการเงินทุนทางทหาร ให้พวกเขาควักเงิน คงไม่ราบรื่นเช่นนี้แน่”
ปัญหาเหล่านี้ ฉินเฟิงย่อมคิดไว้แล้วแน่นอน
หลินฉวีฉีอธิบายอย่างสบาย “ท่านอ๋องทรงใช้นโยบายสะสมความมั่งคั่งให้แก่ประชาชน”
“ยิ่งประชาชนร่ำรวย ศาลว่าการอำเภอก็ยิ่งมั่งคั่ง”
“ยกตัวอย่างเช่นเมืองชั้นนอก ทุกปีคนทำไร่ทำนาทั้งห้าร้อยคนจะต้องส่งเงินให้ศาลว่าการอำเภอสองพันห้าร้อยตำลึง”
“ส่วนลูกจ้างห้าพันคนของพวกเขา แม้จะไม่ต้องเสียภาษี แต่ต้องไปจับจ่ายใช้สอยในเมืองชั้นในแน่นอน”
“แค่ไปซื้อของในเมืองชั้นในก็เท่ากับเสียภาษีทางอ้อมแล้ว”
“ชาวบ้านธรรมดาในเมืองเป่ยตี๋คนหนึ่ง ต้องใช้จ่ายเงินสองตำลึงต่อปี ซึ่งอย่างน้อยห้าร้อยอีแปะ เป็นการจ่ายภาษีทางอ้อม”
“ห้าพันคน ก็เท่ากับสองพันห้าร้อยตำลึง”
“แค่เมืองชั้นนอกเมืองเดียว ก็เท่ากับต้องส่งเงินห้าพันตำลึงต่อปี”
ในคณะฑูตเป่ยตี๋ใครบ้างไม่รู้จักคำว่า ‘เก็บความมั่งคั่งไว้กับประชาชน’
แต่เมื่อนำมาปฏิบัติจริง กลับเต็มไปด้วยความยากลำบาก ไม่มีใครทำได้เหมือนฉินเฟิงที่สามารถนำแนวคิดก้าวหน้ามาปฏิบัติได้จริง
“แล้ว…เรื่องสัตว์ราคาถูกล่ะ จะอธิบายอย่างไร?”
เมื่อได้ยินดังนั้น หลินฉวีฉีไม่ตอบแต่ย้อนถาม “ไม่ทราบว่าม้าศึกของเป่ยตี๋จัดการอย่างไร?”
รองเจ้ากรมกรมทหารที่มาด้วยรีบตอบ “หากเป็นม้าศึกที่ตายในสนามรบ ก็จะชำแหละเก็บหนังม้า ส่วนที่เหลือ ขนไปได้ก็ขนไป ขนไม่ได้ก็ฝังตรงนั้น”
“ในแคว้นเป่ยตี๋ของข้า ไม่มีม้าศึกปลดประจำการ”
“ม้าศึกที่ดีสักตัว นับจากวันที่เข้าประจำการ มีแค่สองทางเท่านั้น ไม่ตายในสนามรบ ก็ถูกส่งไปเป็นม้าขนของในกองพลาธิการจนกว่าจะตายจากไป”
รองเจ้ากรมกรมทหารไม่ได้พูดต่อ แต่หลินฉวีฉีเข้าใจดี เป่ยตี๋ยังมีกฎหมายอีกข้อคือห้ามกินเนื้อม้าทหารอย่างเด็ดขาด
เพราะม้าศึกกับกองทหารม้าร่วมรบกันมานาน สร้างความผูกพันกันมาก แม้ตายแล้วก็ห้ามนำมากิน
นี่เท่ากับเป็นการเพิ่มต้นทุนการเลี้ยงม้าศึกทางอ้อม
หลินฉวีฉีไม่มีความกังวลใด จึงถ่ายทอดระบบการจัดการม้าของอำเภอเป่ยซีออกมาทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม กฎระเบียบเหล่านี้เป็นสิ่งที่เปิดเผยอยู่แล้ว ไม่มีทางปิดบังได้ และถึงแม้คนอื่นอยากเลียนแบบก็ไม่แน่ว่าจะทำได้ จำเป็นต้องลงทุนล่วงหน้าจำนวนมากเหมือนอย่างฉินเฟิง
“ในอำเภอเป่ยซีสัตว์เลี้ยงแบ่งออกเป็นห้าประเภท ได้แก่ ม้าศึก ม้าใช้งาน ล่อ ลา และวัว”
“ลา วัว และล่อ ไม่จำเป็นต้องพูดถึงมาก เพราะมีไว้เพื่อประโยชน์ของประชาชนอยู่แล้ว”
“ส่วนม้าศึก จะรับใช้เพียงห้าปีเท่านั้น ซึ่งเป็นช่วงที่แข็งแรงที่สุด เมื่อถึงกำหนดอายุ ม้าเหล่านี้จะถูกคัดออกทันที”
“ม้าศึกที่ถูกคัดออกจะถูกส่งไปยังกองทัพแนวที่สอง เพื่อใช้ในการฝึกทหารสำรองและทหารใหม่”
“ส่วนม้าที่ใช้ในกองทัพแนวหน้าจะเป็นม้าที่แข็งแรงที่สุดเสมอ”



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ