เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 121

บทที่ 121 การหารือระดมทุน

ฉินเฟิงนั่งอยู่บนขอบเวที สองขาห้อยลงด้านล่าง เหวี่ยงไปมาอย่างสบาย ๆ ชายหนุ่มยิ้มกว้างจนตาหยี พลางมองไปที่ฝูงชนรอบ ๆ “ดังขึ้นอีกสิ ทำไมหยุดส่งเสียงเสียเล่า? ข้าชอบชมความวุ่นวายมากที่สุด เอ้าต่อสิ อย่าหยุด!”

ทุกคนในที่นั้นล้วนเป็นบุคคลสำคัญที่มีหน้ามีตาในเมืองหลวง

แต่กลับถูกฉินเฟิงหยอกล้อเหมือนกับลิง นอกจากจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแล้ว พวกเขายังรู้สึกละอายใจอย่างยิ่งจนยากจะหาใดเปรียบ

การต่อสู้ทางสติปัญญาและความกล้าหาญระหว่างหลี่รุ่ยกับฉินเฟิงเกิดขึ้นมาโดยตลอด ตอนนี้นับว่าบุตรชายเสนาบดีกรมคลังมี ‘ประสบการณ์’ แล้ว เขาเติมเชื้อเพลิงลงในกองไฟทันที “ฉินเฟิง ทั่วทั้งเมืองหลวงมีผู้ใดไม่รับรู้เรื่องเลวร้ายที่เจ้าทำบ้าง? เจ้าเป็นความน่าอับอายของลูกหลานแห่งเมืองหลวง! เจ้าไม่สมควรจะเรียกตัวเองว่าเป็นบุตรขุนนาง เจ้าก็เป็นได้แค่กุ๊ยในตลาด!”

ทันทีที่หลี่รุ่ยเอ่ยออกมาเช่นนั้น ทุกคนต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย

ในขณะที่พวกเขาต่างก็คิดว่าฉินเฟิงจะรู้สึกอับอายขายหน้าจนต้องหารอยแตกบนพื้นมุดหนีลงไป ฉินเฟิงกลับหัวเราะร่าออกมาอย่าง ‘จริงใจ’

“พูดได้ดี ๆ ขอบคุณ!” ฉินเฟิงแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อหลี่รุ่ย

บริเวณนั้นพลันเงียบกริบอีกครั้ง ทุกคนต่างมองหน้ากัน และคิดว่าสมองของนายน้อยฉินเฟิงต้องมีปัญหาเป็นแน่ ไม่อย่างนั้นเขาถูกหลี่รุ่ยดุด่าเช่นนี้ ไยจึงยังหันมาขอบคุณได้? นายน้อยเจ้าสำราญคนนี้ไม่เพียงโง่เขลา แต่ช่างไร้ยางอายอย่างถึงที่สุดจริง ๆ

หลี่รุ่ยสะบัดแขนเสื้อ แค่นเสียงเยาะ “ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้ตัวว่าตนเองเป็นกุ๊ยในตลาด!”

ฉินเฟิงปลื้มปีติยินดียิ่ง ราวกับมีความสุขมากกับฉายา ‘กุ๊ยในตลาด’ ทุกคนในที่นั้นคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ ได้แต่คิดกันว่า …หรือเจ้าสารเลวฉินเฟิงนี่จะแยกความแตกต่างระหว่างคำชมกับคำด่าไม่ได้? เป็นคนเสียสติโดยแท้!

ภายใต้การจ้องมองอย่างงุนงงของทุกคน ฉินเฟิงทำท่าทางราวกับว่าได้รับคำชมอย่างท่วมท้น เขาเอ่ยอย่างมีความสุข “กุ๊ยในตลาดดียิ่ง ดังคำกล่าวที่ว่า ราชาเป็นเรือ ชาวประชาเป็นน้ำ น้ำทำให้เรือลอยลำได้ ย่อมสามารถจมลำเรือได้เช่นกัน ข้าน้อยรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นหนึ่งเดียวกับชาวบ้านในตลาดทั้งใต้หล้า หรือว่าทุกท่านคิดว่าคำว่า ‘ตลาด’ เป็นคำเสื่อมเสียอย่างงั้นหรือ?”

ทันทีที่เอ่ยออกมา บรรยากาศโดยรอบก็ตกอยู่ในความเงียบงัน

แม้ว่าทุกคนในที่นั้นจะมองว่าตัวเอง ‘เหนือกว่า’ ชาวบ้านร้านตลาด แต่พวกเขาทำได้เพียงคิดอยู่ในใจ หาได้กล้าเอ่ยออกมา ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นการสร้างปัญหาให้ตัวเองภายใต้กระแสวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนในสังคม

พวกเขาต่างคาดไม่ถึงว่า ฉินเฟิงผู้นี้จะรู้จักใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ได้ดียิ่ง รู้จักการใช้สำบัดสำนวนพลิกแพลงตัวอักษร นั่นทำให้ผู้คนขุ่นเคืองและหวั่นเกรง

ในตอนนั้นเอง ฉินเฟิงก็หุบยิ้มฉับ แล้วลุกขึ้นยืนช้า ๆ ก่อนจะประกาศเสียงดังว่า “ในเมื่อทุกท่านรู้สึกว่าข้าไม่คู่ควรที่จะเป็นลูกหลานแห่งเมืองหลวงและสมควรที่จะอยู่ในหมู่สามัญชน เช่นนั้นข้าน้อยก็จะยอมรับ บุตรหลานขุนนางผู้สูงส่งทุกท่าน ย่อมรังเกียจที่จะคบหาสมาคมกับมดแมลงเช่นพวกข้า แล้วพวกข้าจะฝืนบังคับได้อย่างไร? ข้าน้อยฉินเฟิง เป็นเพียงสามัญชนตัวเล็ก ๆ แห่งเมืองหลวง”

ผู้เฉลียวฉลาดในที่นั้น เปลี่ยนสีหน้าทันที พวกเขาฉีกยิ้มประจบ “ฮ่า ๆ พูดได้ดี ๆ เช่นเดียวกับนายน้อยฉิน ข้าน้อยก็เป็นเพียงสามัญชนแห่งเมืองหลวง”

บรรดาบุตรหลานของขุนนางซึ่งดูถูกสามัญชนจากก้นบึ้งหัวใจ พลันเปลี่ยนสีหน้า และโห่ร้องว่า ‘สามัญชน’ ซ้ำ ๆ เสียงดังก้อง

สีหน้าของหลี่รุ่ยขาวซีด ไฟโชติช่วงที่เขาจุดขึ้นอย่างยากเย็น กลับถูกฉินเฟิงดับลงด้วยประโยคเพียงประโยคเดียว

หลี่รุ่ยไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ เขาตะคอกเสียงต่ำ “ฉินเฟิง! เจ้ายังไม่ได้ชี้แจงเกี่ยวกับพิธีชำระอาภรณ์เลยว่าเจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่!”

ทุกคนเองก็รีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเช่นกัน

“จริงสิ ฉินเฟิงเจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?”

“หากไม่มีอะไรแล้ว พวกข้าจะขอตัวก่อน”

ฉินเฟิงก้าวกระย่องกระแย่งขึ้นมาข้างหน้าสองก้าว จากนั้นก็สั่งให้ฉินเสี่ยวฝูย้ายโต๊ะ พร้อมหากระดาษกับพู่กันมา เขากวาดตามองทุกคน แล้วเอ่ยอย่างไม่รีบร้อน “ทุกวันนี้มีวิกฤตระดับชาติ ภัยพิบัติทั้งจากธรรมชาติและจากฝีมือมนุษย์เกิดขึ้นมากมาย ท้องพระคลังชักหน้าไม่ถึงหลัง ยากลำบากเหลือแสน ทุกคนล้วนรู้แก่ใจดี”

บทที่ 121 การหารือระดมทุน 1

บทที่ 121 การหารือระดมทุน 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ