บทที่ 151 กองกำลังพิเศษ
รอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏขึ้นที่มุมปากขององค์ชายรอง “ข้าคิดว่าฉินเฟิงจะเก่งกาจจริง ๆ แต่ดูแล้วก็แค่เพียงเท่านี้!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ องค์ชายเจ็ดพลันขมวดคิ้วเล็กน้อย มองดูจากสถานการณ์ตอนนี้ กองทัพของสวีโม่แทบไม่มีทางฟื้นตัวได้ เมื่อพลธนูถูกกวาดล้าง ความพ่ายแพ้ก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น
หลินฉวีฉีที่ประจำการอยู่บนกำแพงตามคำเชิญของนายกองหน่วยลาดตระเวนได้ทำหน้าที่เป็น ‘ผู้ส่งข่าว’ ชั่วคราว เขาถ่ายทอดสถานการณ์การต่อสู้ให้นายกองฟังอีกทอดหนึ่ง นายกองพลันเปลี่ยนตัวหมากบนโต๊ะทรายทันที และวาดภาพจำลองไปตามสถานการณ์…
พบว่าทหารม้าของกองทัพหนิงหู่มาถึงด้านหลังแล้ว กองพันเพลิงของฉินเฟิงไร้การป้องกัน พลันเสียงตะโกนดังกึกก้องก็ดังขึ้นในพิธีชำระอาภรณ์
เหล่าบุตรหลานที่เดิมพันว่าฉินเฟิงต้องพ่ายแพ้ รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉินเฟิงแพ้แล้ว!”
“โง่ชะมัด! มีจำนวนพลอยู่ในมือเพียงสามร้อยนาย ถ้าทั้งหมดเป็นพลทหารราบหนัก ทะยานมุ่งหน้าต่อสู้ในระยะประชิดบางทีอาจจะเกิดปาฏิหาริย์ขึ้นก็ได้ ตอนนี้มีพลธนูร้อยคนอีกทั้งยังไร้การป้องกัน โง่เสียจนผู้คนต้องหัวเราะเยาะจริง ๆ”
“เมื่อพลธนูพ่ายแพ้ กองพันทหารราบเกราะเบาที่สองของหนิงหู่จะพุ่งไปข้างหน้า และปิดล้อมแนวรบส่วนกลาง อาวุธเจาะเกราะจะโจมตีพวกเขาจากทุกทิศทุกทาง ชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ทำได้ง่ายเพียงแค่ดีดนิ้ว”
หัวใจของหลิ่วหงเหยียนแทบกระเด็นออกมานอกอก ฝ่ามือชื้นไปด้วยเหงื่อ “ฉินเฟิง เจ้าทำพลาดเช่นนี้ได้อย่างไร!”
เสิ่นชิงฉือที่อยู่ด้านข้างส่ายหัวพลางถอนหายใจ “หมดหนทางแล้ว”
ในเวลาเดียวกัน เสียงหัวเราะแปลกพิกลของเกาอวี้หลานก็ดังขึ้นมา “จริง ๆ แล้วฉินเฟิงเคยพูดอย่างไร้ยางอายว่า คนอื่นรู้จักแต่วางแผนรบบนกระดาษ*[1] ตอนนี้ประโยคนั้นได้ใช้กับตัวเขาเองแล้ว”
ในการประลองครั้งนี้ หนิงหู่ชนะแน่!
ขุนนางบุ๋นบู๊ทุกคนกำลังรอให้ฉินเทียนหู่ประกาศผล
ทว่า…
เมื่อทหารม้าของหนิงหู่มาถึงทางด้านหลัง การสังหารหมู่ฝ่ายเดียวที่ทุกคนคาดหวังกลับไม่ได้เกิดขึ้น!
พลธนูที่ดูเหมือนจะอ่อนแอเหล่านั้นโยนคันธนูและลูกศรทิ้งไป และยกดาบที่ติดอยู่ด้านข้างขึ้นมาแทน!
“นั่นอะไร?!” หลี่ซวี่ลุกขึ้นยืนทันที ดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างตระหนก
ทันใดนั้นพระเนตรของฮ่องเต้แคว้นเหลียงก็สว่างขึ้น แล้วตรัสอย่างตื่นเต้น “อาวุธนี้ไม่ใช่ของต้าเหลียง ดูเหมือนว่าจะบันทึกไว้ในภาพประกอบที่ฉินเฟิงนำเสนอ ใช่แล้ว… มันคือม่อเตาหรือดาบด้ามยาว!”
เมื่อเผชิญหน้ากับทหารม้าที่พุ่งเข้ามา พลธนูราบก็โบกสะบัดดาบด้ามยาว หลักจากโจมตีเพียงครั้งเดียว หัวม้าก็ถูกตัดขาด ทหารม้าล้มลงกับพื้นอย่างแรง แม้ว่าพวกเขาจะยังสู้ได้ แต่ตามกฎแล้วพลทหารม้าที่ตกหลังม้าถือว่าตายทันที
ทหารม้าของหนิงหู่ที่พุ่งเข้าสู่ขบวนทัพถูกดาบด้ามยาว ‘ฆ่าฟัน’ ไปมากกว่าห้าสิบนาย!
แม้ว่ากองพันเพลิงเองก็ได้รับความเสียหาย แต่อัตราส่วนความเสียหายจากการต่อสู้นั้นแตกต่างกันมาก
นายกองทหารม้าที่ไม่เคยเห็นอาวุธเช่นนี้มาก่อนหน้าซีดเซียว เขากุมบังเหียนแน่นก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงต่ำ “เร็วเข้า! ไปแจ้งผู้บังคับบัญชา!”
เนื่องจากการปะทะกันอยู่บริเวณด้านหลังของกองทัพสวีโม่ หนิงหู่จึงไม่สามารถมองเห็นได้เลย ทำได้เพียงพึ่งพาผู้ส่งสารเพื่อถ่ายทอดสถานการณ์การต่อสู้เท่านั้น
เมื่อผู้ส่งสารกลับไปยังกองทัพของหนิงหู่ ฉินเฟิงที่ยืนอยู่บนกำแพงก็อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ย “งงเลยสิ? ความเร็วในการส่งสารของเจ้า ไม่มีทางเทียบได้หรอกนะ รอเจ้าส่งข้อมูลเสร็จก็พลาดโอกาสอันดีไปแล้ว”
“ส่งทหารม้าไปโจมตีกองกำลังด้านหลังเหรอ จุ๊ ๆๆ เป็นความคิดที่ดี แต่น่าเสียดาย… ใครบอกเจ้าว่าข้ามีกองกำลังอยู่ด้านหลัง?”
สนามประลองมีขนาดเพียงเท่านี้ ยิ่งมีทหารม้ามากเท่าไรก็ยิ่งเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ยากขึ้นเท่านั้น หากความเร็วไม่เพิ่มขึ้นก็ไม่สามารถออกแรงกระแทกได้ เมื่อถูกไล่ล่าโดยพลธนูราบที่ถือดาบด้ามยาว ขบวนด้านหลังจะเคลื่อนไปข้างหน้าแทน!

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ