เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 160

บทที่ 160 เริ่มแข่งกลยุทธ์ทางทหาร

ขณะที่ผู้เข้าประลองเพื่อคัดเลือกแม่ทัพทุกคนพักผ่อนกันเรียบร้อยแล้ว การประลองยุทธศาสตร์ทางทหารก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ

สนามที่กองทัพทั้งสองจะเผชิญหน้ากันถูกปัดกวาดหมดจด บนพื้นมีฟูกปูอยู่ และมีโต๊ะหนังสือขนาดใหญ่ตั้งไว้ พร้อมด้วยอุปกรณ์สำคัญในการศึกษา

ผู้เข้าประลองแม่ทัพจำนวนสิบแปดคนเข้าประจำยังที่นั่ง และมีกุนซือประจำอยู่ข้าง ๆ แม่ทัพแต่ละคน

กุนซือเหล่านี้ล้วนเป็นคนหนุ่มสาวไร้ประสบการณ์ในสนามรบ

อาจเป็นบุตรหลานในเมืองหลวงที่ใกล้ชิดกับผู้เข้าประลองแม่ทัพ หรืออาจเป็นผู้ติดตามก็ได้ทั้งสิ้น

ไม่ว่าจะในราชสำนักหรือในสนามรบล้วนตัดสินใจด้วยคนเพียงคนเดียวไม่ได้

ความกล้าหาญของแม่ทัพหาใครมาช่วยไม่ได้ แต่ความชาญฉลาดที่บกพร่องไปนั้นสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ เพียงแต่ต้องมีคนอยู่ข้างกายเพื่อชดเชยข้อบกพร่องนั้น

กุนซือคนอื่น ๆ ทั้งหมดล้วนยืนอยู่ มีเพียงฉินเฟิงที่ขอเบาะนั่งอย่างไร้ยางอาย ชายหนุ่มนั่งขัดสมาธิข้างสวีโม่

เนื่องจากวันนี้นายน้อยฉินกินมากเกินไป ท้องไส้เลยรู้สึกไม่ค่อยสบาย เขาวางสองมือค้ำพื้น เอนหลังเหยียดท้อง แม้ว่าจะนั่งก็ไม่เหมือนนั่ง

เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาเหยียดหยามจากทุกทิศทุกทาง สวีโม่ก็รู้สึกอับอายขายหน้ามาก ใบหน้าเริ่มร้อนผ่าว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เต็มไปด้วยความมั่นใจในด่านกลยุทธทางทหารครั้งนี้

การใช้ยุทธวิธีอันไม่ธรรมดาของฉินเฟิงในการทลายค่ายกลก่อนหน้านี้ก็เพียงพอแล้วกับการพิสูจน์ทักษะการวางแผนทางทหารของนายน้อยฉิน

ด่านกลยุทธ์ทางทหารมีฮ่องเต้และฉินเทียนหู่ชี้แนะข้อบกพร่อง

เมื่อมองไปที่ท่านั่งเหมือนคนเสเพลของฉินเฟิง ฉินเทียนหู่ก็อดไม่ได้ที่จะหน้าแดง และแอบก่นด่าเด็กสารเลวคนนี้อยู่ในใจ ดีไปหมดทุกอย่าง ยกเว้นแต่อากัปกิริยาอย่างนักเลงหัวไม้ ช่างน่าอับอายขายหน้านัก

ฉินเทียนหู่กระแอมในลำคอ และเอ่ยด้วยเสียงทุ้ม “ผู้เข้าประลองคัดเลือกแม่ทัพทุกท่านฟังหัวข้อให้ดี ไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับวิธีการตอบและทิศทางการคิด ผู้ที่ตอบได้ดีที่สุดจะเป็นผู้ชนะ”

“โปรดฟังคำถาม”

“กองทัพศัตรูหนึ่งแสนคนบุกโจมตีเมืองที่ห่างไกล กองทัพคุ้มกันแปดพันคนหัวเดียวกระเทียมลีบ ควรรับมืออย่างไร?”

เมื่อคำถามสิ้นสุด ทันใดนั้นก็มีเสียงหารือกระซิบกระซาบดังขึ้นในสนาม

เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คู่แข่งได้ยิน ผู้เข้าประลองคัดเลือกแม่ทัพแต่ละคนจึงกระซิบกระซาบกับกุนซือของตน หลังผ่านไปหนึ่งถ้วยชา แม่ทัพบางคนก็เริ่มเขียนคำตอบออกมาแล้ว

ทันทีที่ผู้เข้าประลองแม่ทัพยกมือขึ้นทำสัญญาณ ขันทีน้อยก็วิ่งเข้าไปนำกลยุทธ์มา และถวายแก่ฮ่องเต้ ให้พระองค์ทรงทอดพระเนตร หากฮ่องเต้ทรงดำริว่าใช้ได้ เมื่อนั้นจึงจะส่งต่อให้ฉินเทียนหู่อ่านออกเสียง

ผู้เข้าประลองแม่ทัพคนแรกที่ส่งกลยุทธ์คือ บุตรชายของแม่ทัพทหารม้า

ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงรับกลยุทธ์มาและกวาดสายพระเนตรมอง พยักพระพัตร์แล้วตรัสชม “ไม่เลว สมกับเป็นทายาทของแม่ทัพ”

หลี่จ้านรีบส่งต่อกลยุทธ์แก่ฉินเทียนหู่ ฉินเทียนหู่จึงอ่านออกเสียง “ทุก ๆ ตารางนิ้วของดินแดนต้าเหลียงเราไม่อาจสูญเสีย ข้าจะนำทหารแปดพันนายต่อสู้จนตัวตายไม่หันกลับ และหลั่งเลือดจนหยดสุดท้าย แม้ว่าเมืองโดดเดี่ยวจะพ่ายแพ้ ข้าก็จะสำแดงบารมีของแคว้นต้าเหลียงเรา ทำให้นานาอาณาจักรได้รู้ว่า หากรุกรานแคว้นของเราแล้ว ย่อมต้องชดใช้”

สิ้นเสียงเสนาบดีกรมกลาโหม ทั่วลานก็เกิดเสียงชื่นชมยินดีขึ้นทันที

แม้ว่าคนที่มีสติปัญญาทุกคนต่างก็รู้ดีว่า นี่มันก็แค่กลยุทธ์สุนัขผายลม เห็นได้ชัดว่าเป็นคำสาบานก่อนออกรบที่ไม่มีการพลิกแพลงแม้แต่น้อย แม่ทัพคนใดจะไม่พูดเช่นนี้ก่อนไปสนามรบบ้างเล่า?

แต่นี่เป็นข้อความที่สร้างเสริมขวัญกำลังใจ เพื่อเห็นแก่หน้าแม่ทัพทหารม้า ทุกคนจึงทำได้เพียงปรบมือโห่ร้องยินดี ทรยศต่อจิตใต้สำนึกของตนเองโดยแท้

ฉินเฟิงเม้มริมฝีปาก คิดในใจว่า…นี่มันบ้าบออะไรกัน!

บทที่ 160 เริ่มแข่งกลยุทธ์ทางทหาร 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ