บทที่ 207 ขายอย่างเป็นทางการ
ทันใด เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นด้านนอกประตู
เสิ่นชิงฉือเมินฉินเฟิง นางรีบจัดผมเผ้าที่ยุ่งเล็กน้อย แสร้งทำเป็นว่าไม่มีอันใดเกิดขึ้น
หลินฉวีฉีถอนหายใจด้วยความโล่งอก ลอบคิดว่าในที่สุดเรื่องวุ่นวายนี้ก็จบลงเสียที
นายน้อยทั้งสี่ที่เสิ่นชิงฉือนัดพบในวันนี้นับว่าค่อนข้างมีชื่อเสียงในเมืองหลวง
ถึงกับมีคนเรียกพวกเขาว่า ‘เฉิน หลี่ จ้าว หวัง’ สี่นายน้อยมากพรสวรรค์
สี่คนนี้มักจะเข้าออกหอวิจิตรศิลป์เป็นประจำ และคุ้นเคยกับเสิ่นชิงฉือมานานแล้ว ทันทีที่พบหน้า พวกเขาก็เริ่มพูดคุยอย่างกระตือรือร้น
เมื่อพบว่าฉินเฟิงเองก็อยู่ที่นี่ นายน้อยแซ่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจ หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะกล่าวว่า “นี่ไม่ใช่นายน้อยฉินหรอกหรือ? ข้าได้ยินมาว่าเจ้าปิดล้อมที่ดินผืนหนึ่งไว้นอกเมือง? หรือว่าเริ่มศึกษากิจการใหญ่อีกแล้ว?”
แม้ว่าฉินเฟิงจะไม่รู้จักนายน้อยมากพรสวรรค์ทั้งสี่เลย แต่ในเมื่อเกี่ยวข้องกับกิจการร้านหนังสือ เขาก็เค้นรอยยิ้มออกมา “ใช่ที่ไหนกัน ข้าแทบจะไม่กล้าเปิดหม้อ*[1] ที่บ้านดูด้วยซ้ำ”
ทันทีที่ฉินเฟิงกล่าวเช่นนี้ นายน้อยมากพรสวรรค์ทั้งสี่ก็หัวเราะร่า
นายน้อยหลี่ส่ายหัวและถอนหายใจ “นายน้อยฉินช่างรู้จักเล่นตลก ผู้ใดในเมืองหลวงไม่รู้บ้างว่าเจ้าหาเงินเก่งแค่ไหน? หากแม้แต่เจ้ายังไม่กล้าเปิดหม้อ เช่นนั้นพวกข้าไม่อดตายไปแล้วหรือ? เหอะ ๆ นายน้อยฉินงานยุ่ง ดังนั้นเรามาตรงเข้าประเด็นกันดีกว่า ข้าได้ยินมาว่าท่านวางแผนจะขายหนังสือ ไม่ทราบว่าจะขายหนังสืออะไร?”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ดวงตาของนายน้อยหลี่เผยให้เห็นความรังเกียจอย่างชัดเจน
ท้ายที่สุดแล้ว ร้านหนังสือในเมืองหลวงนั้นไม่นับว่าน้อย ทว่าหนังสือที่ขายก็ล้วนคล้ายกัน แม้กำไรจากหนังสือเล่มเดียวจะถือว่าค่อนข้างมาก แต่อย่างไร ด้วยฐานลูกค้านั้นมีจำกัดและการแข่งขันก็รุนแรง การทำกิจการร้านหนังสือจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
หากขายจะบรรดาหนังสือที่สามารถพบได้ทุกที่ ครานี้ฉินเฟิงคงจะเตะโดนแผ่นเหล็กเข้าแล้ว!
ฉินเฟิงย่อมมองเห็นสายตาดูถูกของอีกฝ่าย ดังนั้นเขาจึงไม่มากความ หยิบหนังสือตัวอย่างออกมาสี่เล่ม มอบให้ทั้งสี่คนตามลำดับ ชายหนุ่มยิ้มกว้างและเอ่ย “เชิญนายน้อยทั้งสี่ลองอ่านดู”
หนังสือส่วนใหญ่จะมีหน้าปกสีน้ำเงินและอักษรสีดำเพื่อความสะดวกในการพิมพ์
แต่หนังสือที่ฉินเฟิงหยิบออกมากลับมีภาพหนึ่งชายหนึ่งหญิงวาดอยู่บนหน้าปก
ไม่เพียงแค่นั้น!
คำสามคำอย่าง ‘ตำนานแสงจันทร์’ ก็ได้รับการปรับแต่งเช่นกัน แบบอักษรดูละมุนละไมเป็นอย่างยิ่ง
แม้แต่เชือกป่านที่ใช้ผูกหนังสือก็ยังได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ
ดูจากปกหนังสือเพียงอย่างเดียว หนังสือแบบนี้ไม่เคยมีมาก่อน!
ดวงตาของนายน้อยผู้มากพรสวรรค์ทั้งสี่ที่มีสีหน้าดูถูกเหยียดหยามเมื่อครู่นี้พลันสว่างวาบ
หลังจากเปิดหน้าหนังสือและเริ่มอ่านเนื้อหา ทั้งสี่คนก็นั่งลงที่โต๊ะ และอ่านอย่างตั้งใจโดยไม่พูดไม่จา
กระทั่งหนึ่งชั่วยามต่อมา พวกเขาทั้งสี่ก็อ่านหนังสือทั้งเล่มจบ นายน้อยหลี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ราวกับว่าเขาได้ดื่มสุราชั้นดีในคราวเดียว เกือบจะเสพติด แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่ายังไม่อยากให้จบ
ทันใดนั้นสายตาพลันไปสะดุดกับหน้าลงนาม
ผู้เขียน : ฉินเฟิง
ผู้เรียบเรียง : หลินฉวีฉี
สายตาของนายน้อยหลี่ที่ใช้มองฉินเฟิงเปลี่ยนแปลงไปอย่างรุนแรง จากดูถูกผันแปรเป็นความประหลาดใจ และในที่สุดก็กลับกลายเป็นความเลื่อมใสศรัทธา “ข้าน้อยได้อ่านนวนิยายมานับไม่ถ้วน และยังได้อ่านนวนิยายทั้งหมดที่เรียกได้ว่าขึ้นชื่อเลื่องลือในเมืองหลวง แต่ไม่มีนวนิยายเรื่องใดเทียบได้กับ ‘ตำนานแสงจันทร์’ เรื่องนี้! ถ้อยคำงดงาม ท่วงทำนองการเขียนพรั่งพรู อารมณ์ละเอียดอ่อน นับเป็นผลงานชิ้นเอกที่หายากอย่างแท้จริง”
ช่วงเวลานี้ นายน้อยเฉินก็วาง ‘ตำนานแสงจันทร์’ ลง ประสานมือบนเข่า นิ่งเงียบอยู่นาน และในที่สุดเขาก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น มองไปที่ฉินเฟิง แล้วกล่าวทีละคำอย่างชัดเจน “ตอนต่อไปอยู่ที่ใด?”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ