บทที่ 222 ยังมีโอกาสอยู่
ฝูงชนที่ก่อนหน้านี้กำลังตื่นเต้นหาใดเปรียบ หม่นหมองลงในพริบตาเดียว
ผู้ใดในเมืองเป่ยซีไม่รู้บ้างว่าฮูหยินฉินเป็นคนดี? แต่คนดีกลับมีโชคชะตาไม่ดีเสียได้…
ชั่วขณะนี้ชายหนุ่มคนหนึ่งในฝูงชนลังเลอยู่นาน สุดท้ายก็ก้าวเข้าไปใกล้ม้าของทหารองครักษ์ และพูดอย่างกังวล “นายทหาร พวกท่านมาที่นี่เพื่อค้นหาทหารลาดตระเวนเป่ยตี๋ใช่หรือไม่? ข้าน้อยเคยเห็นพวกมัน”
ทหารองครักษ์ที่แต่เดิมเต็มไปด้วยท่าทีระมัดระวังอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างเมื่อได้ฟัง เขารีบลงจากหลังม้า คว้าแขนของชายหนุ่ม แล้วถามอย่างกระตือรือร้น “เจ้าเคยเห็นที่ไหน? บอกมาเร็วเข้า”
ในเวลาเดียวกัน ฉินเฟิงกำลังดูแผนที่อยู่ภายในศาลาว่าการ
เมืองเป่ยซีอยู่ห่างจากชายแดนสี่สิบลี้ ระหว่างทางมีป้อมสี่ป้อม มีจุดพักม้าสองจุด และค่ายทหารหนึ่งค่าย
ด้านตะวันออกเป็นภูเขาหินโล้น ส่วนอีกด้านเป็นทุ่งกว้าง
หากกองทหารชายแดนล่าช้า หลังจากพวกหน่วยลาดตระเวนเป่ยตี๋จับฮูหยินฉินได้สำเร็จ พวกมันก็จะสามารถออกจากชายแดนได้ทันที
ฉินเฟิงขมวดคิ้ว ถามเสียงเข้ม “กองทหารชายแดนมารายงานเมื่อใด?”
เฉินลี่ตื่นตระหนกจนเหงื่อท่วม เขาตอบตะกุกตะกัก “เรียนนายน้อย เป็นช่วงบ่ายของวัน หลังเกิดเรื่องขอรับ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หัวใจของฉินเฟิงพลันเย็นเยียบไปแล้วครึ่งหนึ่ง
อย่าว่าแต่ความล่าช้าเกือบครึ่งค่อนวันเลย แม้ว่าจะล่าช้าเพียงหนึ่งหรือสองชั่วยาม ด้วยความเร็วของหน่วยทหารลาดตระเวนเป่ยตี๋ พวกมันก็สามารถเดินทางไปกลับ และล่าถอยไปยังดินแดนตนเองได้อย่างง่ายดาย
หรือว่า…
ไร้หนทางแก้ปัญหาสำหรับเรื่องนี้แล้วจริง ๆ?
ชั่วขณะที่ชายหนุ่มกำลังรู้สึกหดหู่ ทหารคนหนึ่งก็พุ่งเข้ามาในศาลาว่าการอำเภอ แล้วกล่าวอย่างตื่นเต้น “เรียนนายน้อย พวกทหารลาดตระเวนเป่ยตี๋ยังคงอยู่ในเมืองเป่ยซี!”
รายงานของทหารองครักษ์ เหมือนกับการโยนถ่านลงมากลางหิมะ ฉินเฟิงที่เดิมทีละทิ้งความหวังทั้งหมดแล้ว ฟื้นคืนจิตวิญญาณการต่อสู้ทันที ตราบใดที่ทหารลาดตระเวนเป่ยตี๋ยังอยู่ในต้าเหลียงก็ยังคงมีหนทาง!
ชายหนุ่มมองทหารองครักษ์ แล้วแสร้งถามอย่างสุขุม “เกิดอะไรขึ้น?”
ทหารองครักษ์คนนั้นแอบตื่นเต้นเงียบ ๆ ท้ายที่สุดแล้วฮูหยินฉินมีความเกี่ยวข้องกับความรุ่งเรืองและการล่มสลายของตระกูลฉิน และตระกูลฉินก็มีความเกี่ยวข้องกับอนาคตของค่ายเทียนจี ตอนนี้ทหารองครักษ์สามร้อยคนและฉินเฟิงต่างก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว แม้ว่าโอกาสในการช่วยฮูหยินฉินจะมีเพียงแค่เส้นด้ายบาง ๆ แต่สำหรับเหล่าองครักษ์ เส้นด้ายบาง ๆ นี่ก็ช่วยสร้างแรงใจได้มากพอแล้ว
ทหารองครักษ์ประสานหมัดขึ้นคำนับ เขาระงับความปีติในใจ “เรียนนายน้อย คนเลี้ยงแกะในท้องถิ่นที่เลี้ยงแกะอยู่ใกล้ภูเขาหมอกพบร่องรอยกีบม้าเมื่อวานนี้ ม้าศึกของเป่ยตี๋ตัวสูงใหญ่ รอยกีบนั้นจึงลึกและกว้างกว่าม้าในพื้นที่หนึ่งชุ่น”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ ฉินเฟิงก็รีบตรวจสอบแผนที่อย่างรวดเร็วและพบว่าภูเขาหมอกตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองเป่ยซี ห่างจากหมู่บ้านชิงฉือยี่สิบลี้
หากไม่มีอะไรผิดพลาดเกี่ยวกับภารกิจของทหารลาดตระเวนเป่ยตี๋ พวกมันย่อมไม่มีทางไปไกลถึงภูเขาหมอกเด็ดขาด
ยิ่งไปกว่านั้น ทางออกสำคัญทั้งหมดยังถูกกองทหารชายแดนปิดกั้นด้วย หากหน่วยลาดตระเวนเป่ยตี๋ต้องการออกจากแคว้นต้าเหลียง พวกมันก็ทำได้เพียงเสี่ยงและข้ามภูเขาหมอกไปเท่านั้น เป็นเหตุให้ไม่สามารถใช้ความได้เปรียบด้านความเร็วได้ ความเร็วในการเดินขบวนของพวกมันจึงลดลงมาก
ยังมีโอกาส!
ฉินเฟิงเมินเฉินลี่ที่ประจบสอพลออยู่ข้าง ๆ และรีบออกคำสั่งทันที “หนิงหู่ เจ้ารีบนำทหารองครักษ์ห้าสิบนายมุ่งหน้าไปทางเหนือ ตรงไปยังแนวเขตแดน บุกไปถึงตีนเขาทางทิศเหนือของภูเขาหมอก ขัดขวางเส้นทางหลบหนีของทหารลาดตระเวน! ในเมื่อพวกมันมาถึงที่นี่ก็จงรั้งอยู่บนดินแดนต้าเหลียงซะ ไม่ว่าใครก็อย่าได้คิดจะหนี!”
หนิงหู่ไม่พูดมากความ สาวเท้าออกจากศาลาว่าการ นำทหารองครักษ์พร้อมม้าห้าสิบนายมุ่งไปทางเหนือทันที
ฉินเฟิงให้ทหารที่เหลืออีกห้าสิบนายเตรียมพร้อม


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ