บทที่ 231 ขุนนางน้อยจอมละโมบ
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ฉินเฟิงก็เหลือบมองสาวงามทั้งห้าคนที่คุกเข่าอยู่ข้าง ๆ พลางรู้สึกริษยาในใจ
ให้ตายเถอะ!
นายอำเภอตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งถึงกับมีภรรยาห้าคน แต่นายน้อยอย่างข้ากลับยังโสดอยู่!
ฉินเฟิงรู้สึกอิจฉาริษยาและขุ่นเคือง เขากล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “ประการที่สาม! นายอำเภอตัวเล็ก ๆ หนึ่งไม่มีผลงาน สองไม่มีฐานันดรศักดิ์ ตามกฎหมายต้าเหลียงมีเพียงซิ่วไฉ*[1]จากการสอบเคอจวี่*[2]เท่านั้นที่จะรับอนุภรรยาได้ ดูเจ้าสิ คาดว่าไม่มีแม้แต่ตำแหน่งซิ่วไฉ แต่กลับกล้าเก็บอนุภรรยาสี่คนไว้เป็นการส่วนตัว ช่างน่ารังเกียจจริง ๆ ตามกฎหมายต้าเหลียง ต้องถูกลงโทษฐานแอบอ้างถือดี!
เมืองทั้งเมืองเงียบเหงาซบเซา อีกทั้งการปกครองก็ย่ำแย่ หมู่บ้านชิงฉือถูกพวกเป่ยตี๋สังหารหมู่ แต่กลับไม่มีใครรู้…”
ขณะที่พูด แม้แต่ฉินเฟิงเองก็ยังรู้สึกประหลาดใจ
ความผิดที่ขุนนางตัวเล็ก ๆ ผู้นี้กระทำเพียงพอจะถูกตัดศีรษะแล้ว แม้แต่ขุนนางชั้นสูงในเมืองหลวงหากกระทำความผิดขนาดนี้ก็ไม่น่าจะรอดพ้น!
เมื่อฉินเฟิงร่ายคำฟ้องร้องเฉินลี่จบในลมหายใจเดียว ใต้เท้านายอำเภอก็นอนนิ่งอยู่บนพื้นไม่ยอมขยับเขยื้อน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่มีโอกาสรอดชีวิตแล้ว
รองนายอำเภอวางพู่กันลงด้วยมือสั่นเทา เขายกข้อกล่าวหาขึ้นเหนือศีรษะด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วกล่าวอย่างประหม่า “นายน้อยโปรดตรวจสอบ”
ฉินเฟิงรับข้อกล่าวหามา ไม่ได้รีบร้อนตรวจสอบแต่อย่างใด เขามองไปที่รองนายอำเภอด้วยรอยยิ้ม “เจ้าทำเงินได้เท่าไหร่ในเมืองเป่ยซี?”
ร่างของรองนายอำเภอสั่นสะท้าน เขาเกือบจะร่วงจากเก้าอี้ รีบแก้ต่างด้วยความตื่นตระหนก “นายน้อยโปรดพิจารณาอย่างใสสะอาด ข้าน้อยซื่อสัตย์และสุจริตมาโดยตลอด ไม่กล้ารีดไถเลือดเนื้อของราษฎรเด็ดขาดขอรับ”
ภูผาวารีที่ยากแค้นหล่อเลี้ยงพวกดื้อด้าน!*[3]
รองนายอำเภอตัวเล็ก ๆ เองก็ไม่ซื่อสัตย์เช่นกัน มิน่าชายแดนต้าเหลียงถึงตกอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงมาโดยตลอด
ในเมื่อเฉินลี่ซื้อตำแหน่งมา เช่นนั้นรองนายอำเภอ รวมถึงเจ้าหน้าที่ในศาลาว่าการทั้งหมดคงเป็นกลุ่ม ‘นักเลงท้องถิ่น’ อย่างแน่นอน ตัวอย่างแบบนี้พบเห็นได้ทั่วไปในพื้นที่ชนบท พวกอันธพาลมั่งมีหรือพ่อค้าหน้าเลือดบางคนจะเลือกลงทุนกับคนบางกลุ่ม หลังจากซื้อตำแหน่งขุนนางแล้วก็จะใช้โอกาสขูดรีดราษฎร
ภายนอกมีศัตรูที่ทรงพลังอย่างเป่ยตี๋ ภายในมีขุนนางทรยศ ราษฎรที่อยู่ชายแดนไฉนเลยจะอยู่อย่างสบายใจ หากฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงไร้อัจฉริยะภาพ ชายแดนคงจะวุ่นวายไปนานแล้ว!
ก่อนฉินเฟิงจะบีบรองนายอำเภอให้ยอมจำนน ราษฎรที่รวมตัวกันอยู่นอกประตูก็เริ่มบริภาษเสียงดัง
“นายน้อยฉิน! ทุกคนในศาลาว่าการนี้ล้วนจิตใจสกปรกโสมม! โดยเฉพาะรองนายอำเภอ นอกเหนือจากเฉินลี่แล้ว เขานั่นแหละชั่วร้ายที่สุดในเมืองเป่ยซี ตราบใดที่เขาขึ้นศาล เขาจะกินทั้งโจทก์กินทั้งจำเลย รวบกินตะวันออกกินตะวันตก แม้แต่ครอบครัวที่ร่ำรวยบางครอบครัวยังถูกเจ้าสารเลวนี่ทำให้บ้านแตกสาแหรกขาดมาไม่น้อย นับประสาอันใดกับคนธรรมดาอย่างพวกเรา?”
“นายน้อยฉินโปรดมอบความยุติธรรม!”
“ฉินเฟิงบุตรชายแห่งเสนาบดีกรมกลาโหม บัดนี้ได้กลับมายังเมืองเป่ยซีแล้ว วันที่ยากลำบากของคนรากหญ้าเช่นพวกเราในที่สุดก็จบลงเสียที”
นายน้อยฉินไม่แปลกใจกับความคับข้องใจของราษฎร
เขาให้ทุกคนที่เฝ้าดูอยู่โดยรอบนำคำฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ในศาลาว่าการออกมาทีละคน
ไม่รู้ไม่ผิด ทว่าเมื่อได้รู้ถึงกับต้องผงะตกใจ
อย่าว่าแต่นายอำเภอและรองนายอำเภอเลย แม้แต่มือปราบระดับต่ำสุดก็ยังกระทำการอันชั่วร้ายอย่าง ‘กลั่นแกล้งบุรุษฉุดคร่าสตรี’
ทุกคนในศาลาว่าการถูกพาไปตัดคอ นี่ไม่ใช่การตัดสินคดีที่ไม่ยุติธรรม เป็นเท็จ หรือผิดพลาดอย่างแน่นอน
ฉินเฟิงรวบรวมคำฟ้องร้องมากมาย และสั่งให้ทหารองครักษ์มอบให้จุดพักม้า เพื่อส่งต่อให้กับกรมขุนนางเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว
จากนั้นเขาก็ยืนขึ้นและยืดตัว ทำท่าทาง ‘เชื้อเชิญ’ ด้วยท่าทีที่เป็นมิตร “เชิญใต้เท้าเฉิน รองนายอำเภอ ผู้ช่วย ฯลฯ …เอาเถอะ เชิญทุกคนในศาลาว่าการเข้ามาในห้องขัง เตรียมตัวให้ดี รอคำสั่งอย่างเป็นทางการลงมา…ค่อยรับโทษ”
เฉินลี่และคนอื่น ๆ ถูกทหารองครักษ์ ‘เชิญ’ เข้าคุกด้วยการเตะและโยนเข้าไป
เดิมทีคิดว่าเรื่องนี้จบลงแล้ว
ผลคือเมื่อฉินเฟิงกำลังจะลุกขึ้นและจากไป เขาก็ได้ยินเสียงร้องทุกข์ดังมาจากด้านนอกประตูอีกครั้ง
“นายน้อยฉิน ข้าน้อยไม่ได้รับความเป็นธรรมเจ้าค่ะ! นายน้อยฉินโปรดให้ความเป็นธรรมด้วย”
“สามีของข้าน้อยบุกเบิกพื้นที่รกร้างเพื่อทำการเกษตร แต่กลับถูกเรียกเก็บส่วยบุกเบิกโดยศาลาว่าการเป็นเงินสามตำลึงต่อหนึ่งหมู่ หากไม่สามารถจ่ายได้ก็จะถูกจำคุกสองปี”
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ