บทที่ 235 ดูแลความเป็นอยู่ของผู้คน
ทหารองครักษ์รับจดหมายแล้วออกไป
ฉินเฟิงก้มศีรษะลงคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กำชับทหารองครักษ์ที่เหลือ “พวกเจ้านับจำนวนปัญญาชนในเมืองดูสักหน่อย ใครก็ตามที่เคยเรียนหนังสือให้เรียกมารวมตัวกัน ข้ามีบางอย่างจะหารือกับพวกเขา”
หลังจากมอบหมายเรื่องพื้นฐานให้ผู้ใต้บังคับบัญชาจัดการแล้ว ในที่สุดฉินเฟิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และลากร่างที่ใกล้จะแตกสลายกลับไปที่เรือนหลัง
ฉินเฉิงซื่อกับหลี่เซียวหลานกำลังพูดคุยกันอยู่ที่เรือนหลัง เวลานี้ทั้งคู่ดูผ่อนคลายสบายอุรานัก
ผ่านไปหลายวัน ในที่สุดพวกนางก็เห็นฉินเฟิงมาเสียที
หลี่เซียวหลานอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินมาว่าฮ่องเต้ประทับอยู่ในพระตำหนักด้านหน้าเป็นเวลานาน เพราะราชกิจติดพัน ในเวลาปีครึ่งไม่สามารถกลับไปยังวังหลังได้เลยสักครั้ง ศาลาว่าการเล็ก ๆ นี้ใหญ่เท่าเม็ดงา ห้องโถงและเรือนหลังอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่ก้าว แต่ต้องแยกจากกันถึงหลายวันกว่าจะได้พบหน้า เฟิงเอ๋อร์ ดูท่าเจ้าก็ไม่ได้ยุ่งน้อยไปกว่าฮ่องเต้เลยนะ”
ฉินเฟิงทรุดตัวลงบนม้านั่งในศาลาพร้อมสีหน้าบูดบึ้ง “พี่หญิงสาม ท่านหยุดล้อเลียนข้าเสียที ข้าจะเทียบกับฮ่องเต้ได้อย่างไรเล่า? ก่อนอื่นข้ามีข่าวร้ายมากมาบอกพวกท่าน… ข้าได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายอำเภอเมืองเป่ยซีเสียแล้วขอรับ”
ทันทีที่เอ่ยออกมา รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่เซียวหลานพลันหายไป แม้นางจะไม่พูดอะไรแต่ในใจก็รู้ดีว่า ในฐานะนายอำเภอ ฉินเฟิงจะต้องเจอปัญหาทั้งในที่แจ้งและที่ลับ
ในที่แจ้ง ฉินเฟิงจะถูกขังอยู่ในเมืองเป่ยซีจนตาย หากเขาต้องการกลับไปยังเมืองหลวง เกรงว่าต้องรอถึงวันใดก็ไม่อาจหยั่งรู้
ในที่ลับ ตราบใดที่ฉินเฟิงมีตำแหน่งขุนนาง เขาจะถูกควบคุมโดยกรมขุนนางหรือขุนนางชั้นสูงที่อยู่เหนือเขา กล่าวได้ว่า เขาไม่อาจไม่ยี่หระเพราะมีคนหนุนหลังเหมือนเมื่อก่อนที่สามารถทำอะไรก็ได้ตามใจต้องการ
ทว่าปฏิกิริยาของฉินเฉิงซื่อกลับเรียบเฉย นางจัดเชือกบนเสื้อผ้าพลางกล่าวอย่างสงบ “ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย ยิ่งไปกว่านั้น การเคลื่อนไหวครั้งนี้มีแนวโน้มว่าจะเป็นคำสั่งภายใต้การแนะนำของกุ้ยเฟย”
ฉินเฟิงมองฉินเฉิงซื่อด้วยท่าทางน้อยอกน้อยใจ พลันเอ่ยรำพัน “ท่านแม่! ข้าแค่อยากทำการค้าและหาเงินเท่านั้น ข้าไปทำบาปกรรมอะไรไว้กัน? เหตุใดคนมากมายถึงอยากจัดการข้าเช่นนี้”
ฉินเฉิงซื่อยิ้มอ่อนโยน “ไม้เด่นเกินไพร ลมพัดหักโค่น ในเมืองหลวงเจ้าโดดเด่นยิ่งนัก เจ้ามีความตั้งใจที่จะรับตำแหน่งขุนนางหรือไม่นั้นหาใช่เรื่องที่ตัดสินใจเองได้ ต่อให้เจ้าเป็นขอทานก็ตาม หากพวกเขาต้องการจะจัดการเจ้า เขาก็จะยังคงลงมือ ถึงอย่างไรเจ้าก็ซ่อนไม่พ้นแล้ว เจ้าเองไม่ต้องกังวลมากเกินไปนัก หากเป็นยามปกติเรื่องนี้อาจจะจัดการยากสักหน่อย แต่บัดนี้สองแคว้นกำลังทำสงครามกัน แม้ฮ่องเต้ต้องการจะลืมเจ้าก็ใช่ว่าเขาจะลืมได้”
เมื่อได้ยินเช่นนี้อารมณ์หดหู่ของฉินเฟิงก็ดีขึ้นเล็กน้อย
ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์อีกครั้งว่า สติปัญญาและวิสัยทัศน์ของฉินเฉิงซื่อมิธรรมดา ไม่แปลกใจเลยที่นางจะถูกลดตำแหน่งจนต้องมาอยู่ในที่ห่างไกลแห่งนี้ จากเมืองหลวงมาเป็นเวลาถึงเจ็ดปี เกรงว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียบางคนในเมืองหลวง คงกังวลว่าหากนางกลับไปแล้ว นางจะช่วยชี้แนะตาเฒ่าฉินจนยากจะรับมือ
ฉินเฉิงซื่อโบกมือ “เฟิงเอ๋อร์ เจ้าเหนื่อยมากแล้ว กลับไปพักผ่อนเถอะ”
หลี่เซียวหลานลุกขึ้นประคองฉินเฟิงให้ลุกตามไปที่ห้องพักแขก
เนื่องจากหลี่เซียวหลานกับฉินเฉิงซื่ออยู่ด้วยกันมาเจ็ดปีแล้วจึงค่อนข้างเคยชิน ดังนั้นแม้ว่าจะย้ายมาอยู่เรือนหลังศาลาว่าการ สองแม่ลูกก็ยังคงอยู่ด้วยกัน ส่วนห้องพักแขกนี้ ภายในมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยพอให้อยู่อาศัยได้อย่างไม่อึดอัด
หลี่เซียวหลานช่วยประคองฉินเฟิงไปที่ข้างเตียง แต่เมื่อนางคลายมือ กลับพบว่าน้องชายตัวดีไม่ยอมปล่อยง่าย ๆ นางจึงถูกลากลงไปพร้อมกัน
หลี่เซียวหลานล้มลงบนร่างของฉินเฟิง นางขมวดคิ้วเล็กน้อย และขณะที่กำลังจะลุกขึ้น นางก็สบกับดวงตาที่ไร้ยางอายของน้องชาย พลันนางตระหนักได้ในทันใด
เมื่อนึกย้อนไปถึงตอนอยู่ในถ้ำก่อนหน้านี้ ท่ามกลางความมืดสลัว ฉินเฟิงก็มุดเข้ามาในอ้อมแขนนาง คราแรกหลี่เซียวหลานคิดว่าเป็นเพราะอีกฝ่ายมีความสุขที่ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง หลังแยกจากกันมานาน ทว่าบัดนี้ดูเหมือนว่าเด็กเหลือขอนี่จะกำลังเอาเปรียบนางอย่างโจ่งแจ้ง
จริงสิ!
ก่อนที่พวกนางจะออกจากเมืองหลวง ฉินเฟิงยังเป็นเด็กน้อยตัวจ้อย แต่บัดนี้เขาเติบโตเป็นชายหนุ่มเต็มตัวแล้ว
หากเป็นพี่สาวอีกสามคนที่ถูกฉินเฟิงหยอกล้อเช่นนี้ เกรงว่าเด็กนี่คงถูกทุบตีด้วยมือด้วยเท้าเพื่อสอนบทเรียนให้หลาบจำไปนานแล้ว
ทว่าหลี่เซียวหลานไม่ทำเช่นนั้น นางแค่กดมือลงบนร่างฉินเฟิง ไม่รีบร้อนลุกขึ้น รอยยิ้มปรากฏที่มุมปาก นางสบตาและกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เมื่อไม่กี่วันก่อน จดหมายจากเมืองหลวงบอกว่า… เฟิงเอ๋อร์จะแต่งงานกับบุตรสาวของหนิงกั๋วกง บุตรีของตระกูลเซี่ยผู้นั้นจะสวยเพียงใดกันหนอ?”
เดิมทีฉินเฟิงยังแอบกลัวนางตบ ทว่าตอนนี้เขากลับถูกหลี่เซียวหลานจับกดลงกับเตียงและดูแล


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ