บทที่ 246 นักฆ่ายอดฝีมือ
เมื่อได้ยินดังนั้น เปลือกตาของฉินเฟิงพลันกระตุก อย่างไรก็ตาม เวลานี้ได้เข้าสู่ขอบเขตของเทือกเขาอิงกังเรียบร้อยแล้ว การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ล้วนเกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของเขาและเหล่าทหารองครักษ์
ฉินเฟิงไม่กล้าชักช้า รีบถามทันที “เกิดอะไรขึ้น!”
หน่วยสอดแนมแนวหน้าสีหน้ามืดมน พลางกระซิบเสียงเบา “ตามที่นายน้อยคาดไว้ บนภูเขานี้ควรมีคนแอบอยู่ในที่แจ้งและที่ลับไม่น้อย ข้าไต่ไหล่เขาสำรวจไปตลอดทาง กระทั่งพบกับทหารยามทั้งหมดหกคน แต่…ทั้งหมดล้วนถูกตัดศีรษะไม่มีเหลือรอด ข้าน้อยตรวจร่างกายแล้วพบว่า เพียงบาดแผลเดียวถึงแก่ชีวิต คนทั้งหมดล้วนถูกฟันเพียงครั้งเดียว นี่เป็นฝีมือของนักฆ่ายอดฝีมือแน่นอนขอรับ”
นายน้อยเจ้าสำราญอดประหลาดใจไม่ได้
ก่อนที่เขาจะทันได้ตอบสนอง หนิงหู่ก็นึกอะไรบางอย่างได้ จึงอุทานออกมา “หรือจะเป็นคุณหนูสาม?!”
ทันทีที่เขาเอ่ยออกมา ดวงตาของฉินเฟิงก็พลันเคร่งขรึม “พี่หญิงสามรึ?! นางจะอยู่ในเทือกเขาอิงกังได้อย่างไร?”
หนิงหู่ละอายใจ แววตาฉายความรู้สึกผิด “เป็นเรื่องยากสำหรับหน่วยสอดแนมแนวหน้าที่จะสำรวจภูมิศาสตร์ของเทือกเขาอิงกัง คุณหนูสามจึงออกมาคนเดียว และก่อนออกเดินทาง นางกำชับข้าว่าห้ามบอกเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้”
นี่ไม่ใช่ความผิดของหนิงหู่ อย่างไรก็ไม่มีใครสามารถขัดขวางสิ่งที่พี่หญิงสามตัดสินใจได้
แต่ความกังวลของฉินเฟิงยังคงไม่ลดลง
เป็นเรื่องจริงที่หลี่เซียวหลานมีวรยุทธ์สูง แต่การ ‘เก่งแค่บางด้าน’ เป็นเรื่องร้ายแรงมาก นางเพียงเชี่ยวชาญการลอบสังหารเท่านั้น เมื่อใดที่ร่องรอยถูกเปิดเผยและถูกกลุ่มโจรล้อมโจมตี นางจะตกอยู่ในอันตรายเมื่อต้องเผชิญกับการสู้แบบเผชิญหน้าที่ตนเองไม่สันทัด
ทว่าไม่มีประโยชน์ที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้นในตอนนี้
เพื่อที่จะเข้าร่วมกับหลี่เซียวหลานได้เร็วที่สุด ฉินเฟิงจึงออกคำสั่งให้เดินทัพอย่างเร่งด่วนทันที
เป็นดังที่หน่วยสอดแนมแนวหน้ากล่าวไว้
ระหว่างทางชายหนุ่มพบศพหลายศพ
ทุกศพมีรอยดาบฟันเข้าที่คอหรือแทงทะลุหัวใจ กลวิธีของนางเด็ดขาดและเรียบร้อยเป็นอย่างมาก
ขณะฉินเฟิงรู้สึกประหลาดใจ เขาก็อดไม่ได้ที่จะพึมพำ “ไม่รู้ว่าพี่หญิงสามนั้นแข็งแกร่งแค่ไหนหากเทียบกับพี่สี่จินที่เคยลอบสังหารเขา?”
ทันทีที่เขาคิดมาถึงตรงนี้ ฉินเฟิงก็ส่ายหัว สลัดความคิดนั้นออกไป
พี่สี่จินเป็นนักฆ่าอันดับสี่ในสมาคมรายนามสวรรค์ ตอนนี้ยอดฝีมืออันดับสูงกว่าเขาทั้งสามเร้นกายอยู่ พี่สี่จินจึงนับเป็นนักฆ่าอันดับหนึ่งในใต้หล้าอย่างแท้จริง
แม้จะต้องต่อสู้ตัวต่อตัว เขาก็ยังสามารถประมือกับจิ่งเชียนอิ่งได้
หลี่เซียวหลานจึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพี่สี่จินเลยแม้แต่น้อย
แต่ถึงกระนั้น ความแข็งแกร่งของหลี่เซียวหลานก็ยังน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง นางสามารถสังหารทหารยามที่ซ่อนอยู่ตลอดทางผ่านของเทือกเขาอิงกังได้อย่างหมดจด
ไม่นานหลังจากนั้น ฉินเฟิงและคนอื่น ๆ ก็ตามมาถึงรังโจร
รังโจรมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก เป็นแค่กระท่อมมุงจากสี่หลัง รองรับคนได้มากที่สุดราวสิบกว่าคน
พวกทหารองครักษ์บุกเข้าไปในรังโจรตามยุทธการ ทันทีที่พวกเขาเปิดประตูกระท่อมมุงจากหลังแรก พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงกับภาพตรงหน้า
โจรสามคนนอนเหยียดยาวอยู่ในกระท่อมมุงจาก
ตัวแข็งทื่อ เห็นได้ชัดว่าตายไปนานแล้ว…
หลังจากตรวจสอบ พบว่าศพทั้งหมดมีเข็มพิษปักอยู่
สถานการณ์ในห้องอื่น ๆ อีกหลายห้องก็ไม่แตกต่างกันมากนัก
บ้างถูกเข็มพิษสังหาร
บ้างถูกมีดแทงข้างหลัง
กล่าวโดยสรุปคือ โจรภูเขาทั้งหมดในรังโจรแห่งนี้ ต่างก็ถูกหลี่เสี่ยวหลานจัดการอย่างเงียบ ๆ
กระทั่งเหล่าทหารองครักษ์รวบรวมศพของพวกโจรภูเขาครบ หนิงหู่ก็หน้าซีด เขากล่าวอย่างใจหาย “คุณหนูสามบอกว่านางมาเพื่อสำรวจภูมิศาสตร์ แต่นางไม่ได้บอกว่ามาเพื่อฆ่า… หากเป็นเช่นนี้ต่อไป มิใช่ว่าจะไม่ถึงคราวที่พวกเราต้องลงมือหรือ ป่านนี้คุณหนูสามไม่ได้ฆ่าพวกโจรจนเกลี้ยงไปแล้วรึ?”
บรรดาทหารองครักษ์ส่งเสียงจุ๊ ๆ อย่างประหลาดใจ แอบหวังว่าฉินเฟิงจะให้คุณหนูสามรับหน้าที่ครูฝึกในอนาคต และสอนกลวิธีลอบสังหารที่น่าทึ่งนี้ให้พวกเขา
อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงยังคงขมวดคิ้ว เขาตรวจสอบศพโจรภูเขาคนหนึ่งอย่างละเอียด ดวงตาพลันฉายความกังวลใจ
เมื่อเห็นว่าแววตาของฉินเฟิงแปลกไป หนิงหู่ก็ถามว่า “พี่ฉิน เจ้าเป็นอะไรไป? เจ้าขมวดคิ้วตั้งแต่พบศพพวกนี้แล้ว เจ้ากังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของคุณหนูสามกระมัง? ข้าว่าวรยุทธ์ของคุณหนูสามแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ แทนที่จะกังวลใจแทนนาง ไม่สู้กังวลเกี่ยวกับพวกเราเองจะดีกว่า”
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ