เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 252

บทที่ 252 สั่นสะเทือนราชสำนัก

เมืองหลวง ณ จวนสกุลฉิน

นับตั้งแต่ฉินเฟิงออกจากเมืองหลวง ในจวนนี้ก็เงียบสงบ

แต่วันนี้กลับคึกคักต่างจากปกติ!

หลิ่วหงเหยียนยืนอยู่ที่ประตูใหญ่ เท้าเอวชี้มือกำชับบ่าวรับใช้พลางตะโกนเสียงหวาน “ทุกคนเร่งมือเข้า! นายน้อยกำลังจะกลับจวนแล้ว โคมแขวนเรียบร้อยแล้วหรือยัง? เตาไฟเล่า! เตาไฟอยู่ที่ไหน? นายน้อยต้องทนทุกข์ทรมานแค่ไหนในเมืองเป่ยซี พวกเจ้าต้องปัดกวาดเช็ดถูให้สะอาด”

เสิ่นชิงฉือรีบกลับมาจวนแต่เช้าตรู่เพื่อรอฉินเฟิงกลับจากการไปรับรางวัลที่วังหลัง นางจะได้ลากเขาไปพูดคุยเกี่ยวกับทิวทัศน์ของชายแดนเป่ยซี

เสิ่นชิงฉือใฝ่ฝันจะออกไปท่องโลกกว้าง แต่น่าเสียดายที่พ่อแม่ไม่ให้เดินทางไกล อีกทั้งตัวนางก็เป็นสตรีจึงไม่อาจออกจากเมืองหลวงที่มีการรักษาความปลอดภัยแน่นหนาได้

จิ่งเชียนอิ่งเป็นคนที่เฝ้ารอคอยมากที่สุด ฉินเฟิงกลับเมืองหลวงครั้งนี้จะต้องนำข่าวคราวเกี่ยวกับท่านแม่และพี่หญิงสามมาด้วยอย่างแน่นอน นางเอามือไพล่หลัง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “พี่หญิงใหญ่ พี่หญิงรอง ท่านคิดว่าครั้งนี้ท่านแม่จะกลับเมืองหลวงมาด้วยกันหรือไม่?”

สตรีนางสองนางมองหน้ากัน อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มขมขื่น

เสิ่นชิงฉือเปลี่ยนจากความเย่อหยิ่งตามปกติ เอ่ยพูดเสียงเบา “น้องสี่ เจ้าอย่าได้กังวลเลย ในเมื่อเฟิงเอ๋อร์ได้พบกับท่านแม่และน้องสามแล้ว แม้ว่าพวกนางจะไม่สามารถกลับมาได้ครั้งนี้ แต่วันที่พวกเราจะได้อยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้งนั้นไม่ไกลอย่างแน่นอน เจ้ายังไม่รู้จักนิสัยน้องชายอีกหรือ?”

หลิ่วหงเหยียนปิดปากหัวเราะเบา ๆ “ใช่ แม้ว่าจะมีแรงต่อต้านหนักแค่ไหน เราแค่ต้องเชื่อว่าเฟิงเอ๋อร์จะสามารถแก้ไขได้ อย่างไรเสีย ครั้งนี้เขาก็ถูกตัวเรียกกลับมาจากเมืองเป่ยซีได้ในระยะเวลาสั้น ๆ อีกทั้งยังสังหารขุนพลในตำนานของเป่ยตี๋ได้ ใครในใต้หล้าจะมีความสามารถเช่นนี้อีกเล่า?”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ความกังวลสุดท้ายของจิงเชียงอิ่งก็หายไป

ในขณะเดียวกัน ณ ท้องพระโรงในพระราชวังต้องห้าม

หลังจากที่ฉินเฟิงรีบกลับเมืองหลวงมาในชั่วข้ามคืน เขาก็ตรงไปยังพระราชวังเพื่อเข้าเฝ้าฮ่องเต้

ฉินเทียนหู่ไม่สามารถซ่อนความตื่นเต้นได้ จึงเหลือบมองบุตรชายอยู่เป็นครั้งคราว เดิมทีกังวลว่าเด็กเหลือขอคนนี้จะต้องทนทุกข์ทรมานในเป่ยซี แต่เมื่อมองผิวที่เนียนละเอียดและท่าทางที่ยังร่าเริง ฉินเทียนหู่ก็เชื่อมโยงเข้ากับคำว่า ‘ความขมขื่น’ ไม่ได้เลยจริง ๆ

ก็ถูก! เจ้าเด็กสารเลวคนนี้เจ้าเล่ห์มาตลอด ไหนเลยจะปล่อยให้ตัวเองทนทุกข์ทรมาน?

ขุนนางบุ๋นบู๊ในราชสำนัก รวมถึงองครักษ์หน้าพระที่นั่ง ต่างก็มองดูฉินเฟิงด้วยความกระตือรือร้นและตื่นเต้น

ในทางกลับกัน ฉินเฟิงเพียงเอามือไพล่หลัง หันศีรษะไปมองขุนนางกรมคลังเป็นครั้งคราว แล้วแสยะยิ้มจนแผ่นหลังของพวกเขาเหล่านั้นเย็นเยียบ

ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงย่อมเข้าใจความคับข้องใจระหว่างฉินเฟิงกับกรมขุนนาง แต่ไม่ได้ชี้ชัดออกมา แค่ตรัสถามอย่างปลื้มปิติว่า “ฉินเฟิง เจ้าฆ่าขุนพลหยาเจี้ยง จงหลิง ได้อย่างไร?”

ฆ่าได้อย่างไร?

ระหว่างกองทัพสับสนวุ่นวาย อีกฝ่ายก็ถูกหนิงหู่แทงจนสิ้นใจตายน่ะสิ ยังจะถูกฆ่าได้อย่างไรอีกเล่า? หรือจะให้นายน้อยอย่างข้าเข้าร่วมกระบวนทัพด้วยตัวเอง?

ฉินเฟิงรู้สึกหดหู่ในใจ แสร้งทำหน้าหวาดกลัว แล้วพูดอย่างประหม่า “จงหลิงผู้นั้นสมแล้วที่เป็นแนวหน้าที่ราชวงศ์เป่ยตี๋ตั้งใจวางตัวเอาไว้ คู่ควรกับชื่อเสียง ‘หมาป่าแห่งเป่ยตี๋’ โดยแท้ เขามีกลยุทธ์ทางการทหารอันยอดเยี่ยม ทหารม้าชั้นยอดของเขาทำลายสรรพสิ่งพังพินาศโดยง่าย ทุกที่ที่เขาย่ำผ่านทำลายล้างทุกชีวิต หากว่ากระหม่อมไม่ได้บังเอิญอยู่ที่เป่ยซีพอดี การกำจัดจงหลิงไม่รู้ว่าจะต้องสละชีวิตทหารอีกกี่มากน้อยพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินเฟิงยกย่องจงหลิงมากจริงโดยแฝงความนัยของคำพูด

จงหลิงยอดเยี่ยมขนาดนั้น แต่ก็ถูกนายน้อยอย่างข้าฆ่าตายในพริบตาเดียว นายน้อยคนนี้ย่อมยอดเยี่ยมยิ่งกว่ามิใช่หรือ?

แม้ว่าฮ่องเต้ต้าเหลียงจะรู้ว่าฉินเฟิงจงใจพูดเกินจริง แต่เขาก็ไม่สน ท้ายที่สุด การฆ่าจงหลิงได้นับเป็นความสำเร็จที่หาได้ยากสำหรับกองทัพต้าเหลียงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และนั่นทำให้จิตวิญญาณกองทัพต้าเหลียงตื่นตัวขึ้นมามาก!

บทที่ 252 สั่นสะเทือนราชสำนัก 1

บทที่ 252 สั่นสะเทือนราชสำนัก 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ