บทที่ 253 รักสนุกทุกข์ถนัด
ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงระงับความเกษมสันต์ในพระทัย ทอดพระเนตรเหล่าขุนนางชั้นสูงอย่างสงบ และถามอย่างรู้ทันว่า “ขุนนางที่รัก พวกเจ้าคิดอย่างไรกับกองทัพใหม่ที่อวดโฉมในเป่ยซี”
ขุนนางกรมกลาโหมจงใจนิ่งเงียบรอขุนนางกรมคลังหรือกรมขุนนางแสดงความคิดเห็น
ขุนนางของกรมคลังและกรมขุนนางต่างรู้สึกกระดาก คำพูดชมเชยของพวกเขาเท่ากับช่วยกรมกลาโหมสร้างบารมี แต่หากพวกเขาจงใจดูหมิ่นก็จะดูเหมือนมีตาไร้แวว กล่าวได้ว่าอยู่ในจุดที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เวลาผ่านไป ขุนนางทุกคนในกรมคลังและกรมขุนนางต่างนิ่งเฉย ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบงัน
กลับเป็นมหาเสนาเกาหมิงที่ยังคงสงบสติอารมณ์ได้ เขาก้าวมาข้างหน้า ประสานมือโค้งคำนับ เอ่ยชมเชยอย่างโอ้อวดยกย่องว่า “คนไม่กี่สิบคนเร่งรีบหลายพันลี้เพื่อโจมตีชายแดนทางเหนือ พวกเขาต่อสู้อย่างดุเดือดและทำลายล้างโจรภูเขาในท้องถิ่นนับร้อย อีกทั้งยังทำลายล้างทหารลาดตระเวนชั้นยอดสองร้อยนายของเป่ยตี๋ ตัดศีรษะแม่ทัพหยาเจี้ยงในตำนานซึ่งช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจของกองทัพต้าเหลียง ศึกครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงพลังการต่อสู้ที่ไม่เคยมีมาก่อนของทหารองครักษ์ กองทัพใหม่พ่ะย่ะค่ะ!”
“กระหม่อมมีความเห็นว่า ควรส่งทหารกองทัพใหม่เหล่านี้ไปยังแต่ละกองพันของกองทหารรักษาการณ์ เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอน สอนทักษะการรบภาคสนาม และเสริมกำลังรบของแต่ละกองพัน กระหม่อมเชื่อว่าต่อจากนี้ไปต้าเหลียงเราจะเป็นดั่งพยัคฆ์ติดปีกพ่ะย่ะค่ะ!”
ช่างรู้จักตบหัวแล้วลูบหลัง
ในแง่ของความเสียหาย นี่ยังคงเป็นการสูญเสียของเกาหมิง!
อย่างไรก็ตาม หากองครักษ์ชั้นยอดที่ฉินเฟิงสร้างขึ้นโดยการใช้เงินเป็นจำนวนมากถูกแบ่งกระจัดกระจายไปทุกที่ด้วยคำพูดเพียงประโยคเดียวของเกาหมิง นี่เทียบเท่ากับการถอนฟืนใต้กระทะเพื่อทำให้ความแข็งแกร่งของฉินเฟิงอ่อนกำลังลง
โชคดีที่ฉินเทียนหู่ตอบสนองรวดเร็ว ก้าวขึ้นมาข้างหน้าทันที และกล่าวโต้แย้งเสียงดัง “ท่านมหาเสนาเกากล่าวผิดแล้ว หากองครักษ์ชั้นยอดถูกแบ่งแยกและปกครอง นี่จะไม่ทำให้พลังการต่อสู้ขององครักษ์อ่อนแอลงหรือ? ความตั้งใจดั้งเดิมของบุตรสุนัขในการสร้างกองทัพใหม่ นั่นคือการเจาะแทงถึงชีวิตเป่ยตี๋ดังดาบคมกริบ หากทำตามคำแนะนำของมหาเสนาเกา เช่นนี้จะไม่ขัดต่อความตั้งใจเดิมหรอกหรือ?”
“หากแต่ละกองพันต้องการเรียนรู้ยุทธวิธีของกองทัพใหม่ พวกเขาสามารถส่งผู้มีพรสวรรค์ที่เชื่อถือได้ไปยังค่ายเทียนจีเพื่อสังเกตและเรียนรู้ จากนั้นก็นำยุทธวิธีของกองทัพใหม่กลับไปยังแต่ละกองพันก็ได้ อย่าได้ถอนฟืนใต้กระทะเลย”
หลี่ซวี่อยู่ข้าง ๆ รีบเข้ามาสอดปาก ไต่ถามอย่างเย้ยหยัน “ถอนฟืนใต้กระทะรึ? ใต้เท้าฉินกล่าวหาท่านมหาเสนาเกาว่ามีเจตนาชั่วร้าย ขัดขวางเรื่องมงคลของแว่นเคว้นและละเลยความเจริญรุ่งเรืองของต้าเหลียงรึ? หากใส่ร้ายท่านมหาเสนาในที่สาธารณะโดยไม่มีหลักฐาน ควรจะมีความผิดฐานใดกันหนา?”
หนิงกั๋วกงอย่างเซี่ยปี้แยกตัวห่างจากการแย่งชิงอำนาจในราชสำนักมาโดยตลอด บัดนี้เขาสาวเท้ามาข้างกายฉินเทียนหู่ พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ใต้เท้าฉินและท่านมหาเสนาต่างถกเถียงถึงการพัฒนาในอนาคตของกองทัพใหม่ แม้ว่าคำพูดอาจจะรุนแรงไปบ้างแต่ก็สมเหตุสมผล ใต้เท้าหลี่ในฐานะเลขาธิการกรมคลัง กลับนำหัวข้อนี้ไปสู่ความขัดแย้งในราชสำนัก นี่ไม่สมควรกระมัง?”
หลี่ซวี่สะบัดแขนเสื้อ แค่นเสียง ‘เหอะ’ เบา ๆ “หนิงกั๋วกงและใต้เท้าฉินเป็นญาติกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะช่วยใต้เท้าฉินพูด!”
เมื่อเห็นขุนนางบุ๋นและบู๊ในราชสำนักทะเลาะกัน ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงก็เยาะเย้ยอยู่ในใจ
ในราชสำนัก แม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ยังนำไปสู่ความขัดแย้งได้ในที่สุด
ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงคุ้นเคยกับเรื่องนี้นานแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น หากทั้งสองฝ่ายแข่งขันและรักษาสมดุลซึ่งกันและกัน โดยที่ตราบใดพวกเขาไม่ ‘ต่อต้านและกลับผิดเป็นถูก’ นี่ก็หาใช่เรื่องเลวร้ายแต่อย่างใด
ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงคร้านจะสนใจ เพียงทอดพระเนตรไปที่ฉินเฟิง ตรัสด้วยความหมายลึกซึ้ง “ฉินเฟิง ปกติมิใช่เจ้าช่างพูดช่างจาหรอกหรือ? ไยวันนี้ถึงกลายเป็นคนน่าเบื่อไปเสียได้? คงไม่ใช่ว่าเจ้าเป็นนายอำเภอเมืองเป่ยซีมาสองสามวัน จิตวิญญาณจึงถูกเค้นไปจนหมดแล้วหรือ? กองทัพใหม่นี้มีพลังการต่อสู้แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งยังได้รับการฝึกฝนจากเจ้า ขุนนางชั้นสูงต่างเสนอแนะ ดังนั้นเจิ้นยังคงอยากถามความเห็นของเจ้า”
การทะเลาะกันของทั้งสองฝ่ายเมื่อครู่ทำให้ฉินเฟิงได้สติ
ท้ายที่สุดแล้ว ตอนนี้เขาเป็นเพียง ‘ครูฝึก’ ในนามเท่านั้น ไม่มีอำนาจควบคุมกองทัพใหม่อย่างแท้จริง
หากในอนาคต กองทัพใหม่ทั้งหมดที่เขาฝึกออกมากลายเป็นการตัดชุดแต่งงานให้ผู้อื่น เช่นนั้นไม่สู้หาเต้าหู้ชิ้นหนึ่งมาโขกหัวตายเสียยังดีกว่า
ทว่าตอนนี้เขาไม่มีตำแหน่งทางทหาร หากเขาควบคุมกองทัพใหม่มากเกินไป นั่นเท่ากับยื่นจุดอ่อนใส่ในกำมือผู้อื่น ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองกล่าวโทษในอนาคต

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ