บทที่ 268 เผลอแตะเกล็ดใต้คอมังกร
สายตาฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงพลันอึมครึมลง บรรยากาศในท้องพระโรงเคร่งเครียดขึ้น
อู๋เหมี่ยนไหวพริบปฏิภาณดีเยี่ยม เมื่อตระหนักได้ว่าใช้วาจาไม่สมควรจึงรีบคุกเข่ายอมรับผิด “ขอฝ่าบาทโปรดไตร่ตรอง ต่อให้กระหม่อมกล้ากว่านี้อีกร้อยเท่าก็มิบังอาจว่าร้ายราชวงศ์พ่ะย่ะค่ะ ความภักดีของกระหม่อมมีฟ้าดินเป็นพยาน…”
ไม่รอให้อู๋เหมี่ยนแสดงความภักดีให้เสร็จ ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงก็ขัดขึ้นเสียงเย็น “เจ้ามิต้องลนลานเพียงนั้น ลุกขึ้นเถิด”
อู๋เหมี่ยนพ่นลมหายใจด้วยความโล่งอก
ฮ่องเต้ต้าเหลียงเบนสายตาไปที่ฉินเฟิง
ชั่วพริบตานั้น นายน้อยเจ้าสำราญรู้สึกถึงแรงกดดันอันแรงกล้า
หรือนี่คือเกล็ดใต้คอของมังกร ผู้ใดแตะต้องเป็นถึงตาย
ยามนี้ฉินเฟิงเข้าใจแล้วว่า เหตุใดกรมขุนนางถึงต้องการส่งเขาไปเมืองฝูอวิ้นถึงเพียงนั้น ที่แท้ก็ต้องการให้เขาพัวพันกับเรื่องหมองใจในราชวงศ์จนแหลกเหลวในที่สุดนี่เอง
ดวงตาลึกล้ำไร้ที่สิ้นสุดของฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงจดจ้องอยู่บนร่างฉินเฟิง ยามเอื้อนเอ่ย น้ำเสียงก็ขึงขังกว่าปกติ “กรมขุนนางส่งเจ้าไปช่วยจัดระเบียบชีวิตราษฎรในเมืองฝูอวิ้น เจิ้นอยากฟังความเห็นเจ้า”
วาทศิลป์ของราชัน หนึ่งฟัง สองพิจารณา สามคาดเดา
หากถูกความหมายโดยตรงตบตา แม้นตายยังมิรู้ว่าเพราะเหตุใด
ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงถามถึงราษฎรในเมืองฝูอวิ้นที่ไหน นี่กำลังถามฉินเฟิงว่าคิดเห็นอย่างไรกับหมิงอ๋องซึ่งกึ่งพำนักกึ่งถูกกักขังอยู่ในเมืองฝูอวิ้นเห็น ๆ
ยามนี้ฉินเฟิงผู้เอ้อระเหยลอยชายจนชินยังต้องจริงจังขึ้นมา สมองนายน้อยฉินหมุนแล่นอย่างรวดเร็ว
เขาลังเลเพียงครู่ สุดท้ายก็ถูกฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงคาดคั้น “เรื่องนี้ตอบยากนักหรือ?!”
ฉินเฟิงใจกระตุกวูบ มิกล้าลังเลอีก ชายหนุ่มรีบอธิบาย “ผู้ใดได้เป็นนายอำเภอของสามสิบหกอำเภอรอบ ๆ เมืองหลวงล้วนมิใช่พวกดาษดื่น และหากผู้ใดมิได้ถูกเลื่อนขั้นเพราะมีความดีความชอบในการว่าราชการ ในเมืองหลวงมีข้อกำหนดอย่างไม่เป็นทางการว่า หากต้องการอยู่ในตำแหน่งสูง นอกจากการเลื่อนขั้นตามปกติแล้วยังมีอีกทางหนึ่ง นั่นคือขัดเกลาตนเองในสามสิบหกอำเภอ”
“ถึงอย่างไรสามสิบหกอำเภอนี้ก็ล้วนเป็นสุดยอดอำเภอแห่งแคว้นต้าเหลียง หากปกครองสุดยอดอำเภอได้ดี วันหน้าย่อมรับตำแหน่งสำคัญได้ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ”
เวลานี้ท้องพระโรงเงียบเชียบ
มิมีผู้ใดกล้าเอ่ยแทรก
แม้แต่หลี่ซวี่จากกรมคลังผู้เป็นศัตรูคู่แค้นกับฉินเฟิงมานานและมักจะหาจังหวะแทงเขาอยู่เสมอ ก็ยังไม่ส่งเสียงใด
ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงมิสู้จะพอใจในคำตอบฉินเฟิงเท่าใด “เรื่องนี้ต้องให้เจ้ามาบอกเจิ้นหรือ? เจ้าหันไปมองขุนนางในราชสำนักเอาเถิด มีผู้ที่เคยรับตำแหน่งนายอำเภอของทั้งสามสิบหกอำเภอมาตั้งเท่าใด”
เรื่องนี้เกี่ยวโยงกับเรื่องที่ห้ามกล่าวถึงแล้ว!
ฉินเฟิงมิกล้าเฉไฉ เขาพูดตรงเข้าประเด็น “ความหมายของกระหม่อมชัดเจนแล้วพ่ะย่ะค่ะ นายอำเภอเมืองฝูอวิ้นยากที่จะทำการใดที่มิใช่ปัญหาของเมืองฝูอวิ้นสำเร็จ”
เมื่อเขาเอ่ยวาจานี้ สีหน้าฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงอึมครึมในบัดดล
บรรยากาศทั้งท้องพระโรงเหน็บหนาวถึงขีดสุด
แม้กระทั่งฉินเฟิงก็รู้สึกกดดันเหลือมาก เสียงของฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงดังขึ้นอีกครั้ง ทว่าดุดันกว่าเก่า “เจ้าโทษหมิงอ๋องหรือ?!”
“หมิงอ๋องเป็นน้องชายเจิ้น ในอดีตปกปักรักษาชายแดน บัญชาการทหารได้ดุจเทพ ชัยชนะใหญ่หลายหนที่มีบันทึกในประวัติศาสตร์ของรัชกาลล้วนเป็นฝีมือของหมิงอ๋อง คุณูปการด้านสงครามของเขาชื่อก้องแซ่ซ้องไปทั่วหล้า! บัดนี้อายุมากแล้วจึงรักษาตัวในเมืองฝูอวิ้น นับว่าสมเหตุสมผล! นายอำเภอเมืองฝูอวิ้นหวาดกลัวต่อบารมีหมิงอ๋อง กลัวนั่นกลัวนี่ ผิดที่ความใจเสาะของพวกเขาต่างหาก หาได้เกี่ยวข้องอันใดกับหมิงอ๋องไม่”
“เจิ้นว่าเจ้าจงใจปรักปรำหมิงอ๋องชัด ๆ!”
แม้นผู้ที่ถูกด่าอยู่คือฉินเฟิง ทว่าฉินเทียนหู่กลับเหงื่อไหลโซมกาย
ในท้องพระโรงแห่งนี้ หารือได้ทุกเรื่อง เว้นแต่ราชวงศ์สกุลหลี่นั้น…ว่ามิได้
ถึงแม้ฉินเฟิงจะกดดันเหลือแสน แต่ก็ยังถือว่าสงบใจได้
ภายนอกฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงสาธยายเสียยกใหญ่ แท้จริงแค่อยากให้คนนอกฟังเท่านั้น
หากเขาปกป้องหมิงอ๋องถึงเพียงนี้จริง ไฉนเลยจะเนรเทศไปยังเมืองฝูอวิ้น แล้วไฉนเลยจะแต่งตั้งบุตรชายคนรองของหมิงอ๋องด้วยยศหนานซึ่งเป็นบรรดาศักดิ์ขั้นล่างสุด นี่มิได้เป็นการตบหน้าหมิงอ๋องหรอกหรือ



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ