บทที่ 269 หมิงอ๋อง
เดิมฉินเฟิงและหมิงอ๋องไม่มีทางได้ข้องเกี่ยวกัน ทว่าวันนี้ด้วยแรงกดดัน เขาจำต้องหักใจปรักปรำหมิงอ๋องเพื่อเอาชีวิตรอด
เช่นนี้ไม่เพียงแต่เป็นที่พอพระทัยของฝ่าบาท แต่ยังทำลายอุบายของกรมขุนนางได้อีกด้วย
ทว่าผลสุดท้ายได้พอใจกันทุกฝ่ายจริงหรือ?
ฉินเฟิงมิได้ตั้งความหวังไว้สูงนัก!
นับตั้งแต่โบราณกาล มีผู้ใดที่ข้องแวะกับความบาดหมางภายในราชวงศ์แล้วได้พบจุดจบอันดีงานบ้าง
…
เมืองฝูอวิ้น ณ จวนหมิงอ๋อง
เทียบกับจวนอ๋องอันโอ่อ่าหรูหราในเมืองหลวงแล้ว จวนหมิงอ๋องดูอัตคัดมากนัก
เรือนห้าประตูมีครบครันตั้งแต่โถงทางเดินไปถึงเก้าอี้นอน ทว่าคล้ายมีบางอย่างหายไป… บรรยากาศภาคภูมิมีตั้งแต่ท่านอ๋องไปจนถึงบ่าวรับใช้ที่ล้วนยืดอกทระนง ไม่เห็นทุกอย่างอยู่ในสายตา
เสียงหวีดร้องอึกทึกดังขึ้นจากหลังจวน
สาวใช้และบ่าวรับใช้เจ็ดแปดคนล้อมเป็นวงกลม ตะโกนกู่ก้องบางอย่างออกมาด้วยความตื่นเต้น
ตรงกลางฝูงชนมีตาเฒ่าผู้หนึ่งกำลังนั่งยอง ๆ อยู่
คนผู้นี้แลดูแก่ชรา ราวกับอายุเพียงห้าสิบก็รู้แจ้งแล้วถึงโชคชะตา แม้ว่าตาเฒ่าผู้นี้จะอายุยังไม่มาก กระนั้นจอนสองฝั่งก็กลายเป็นสีขาวแล้ว ผมเผ้าสยาย หนวดเครายุ่งเหยิง ดูย่ำแย่กว่าผู้เฒ่าอายุเจ็ดสิบแปดสิบเสียอีก
ตาเฒ่าเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา ในมือมีก้านสาลีแท่งหนึ่ง จิ้มจิ้งหรีดในถ้วยกระเบื้องไม่หยุด พลางปากก็ร้องตะโกน “แม่ทัพปีกดำ เหตุใดวันนี้เจ้าถึงไม่สู้เล่า ไม่กระปรี้กระเปร่าเอาเสียเลย ข้าอยากเข้าไปช่วยเจ้ากัดสักคำสองคำนัก สู้เข้า หากเจ้าแพ้ คืนนี้เจ้าห้ามกินข้าว!”
ตาเฒ่าตะโกนอย่างดุดัน ทว่าแม่ทัพปีกดำก็ยังเกียจคร้านเอื่อยเฉื่อย เห็น ๆ อยู่ว่าจะแพ้แล้ว และด้วยอารามร้อนใจ ตาเฒ่าหยิบก้านสาลีทิ่มจิ้งหรีดฝ่ายตรงข้ามอย่างแรงจนลำไส้ไหลออกมา ก่อนจะปรบมือด้วยความลำพอง “ผีผมแดงกระไร มีน้ำยาเท่านี้เองหรือ เมื่ออยู่ต่อหน้าแม่ทัพปีกดำของข้า ทนได้ไม่ถึงสามตาด้วยซ้ำ ฮ่ะ ๆ ข้าชนะอีกแล้ว!”
บ่าวรับใช้ฝั่งตรงข้ามเก็บจิ้งหรีดที่ถูกจิ้มตายขึ้นมาด้วยความเสียใจระคนน้อยใจ “ท่านอ๋อง ท่านขี้โกงอีกแล้ว!”
ตาเฒ่าทำเสียง ‘จิ๊’ หันหลังกลับพร้อมท่าทางได้ใจ “ผู้ชนะหาได้เป็นเจ้า แพ้ก็คือแพ้ อย่าได้หาข้ออ้าง เมื่อครั้งอดีต ยามข้าทำศึกอยู่ในชายแดนทิศเหนือ ตวัดดาบไล่ฟันสุนัขชั่วเป่ยตี๋ถึงเจ็ดแปดร้อยนาย เจ้าพวกสุนัขชั่วนั่นต่างต้องคุกเข่าร่ำไห้วิงวอน…”
เมื่อเห็นตาเฒ่าคุยโวถึงวีรกรรมในอดีตอีกครา สาวใช้ก็หัวเราะเสียงใส “คราวก่อนท่านเอ่ยว่าเจ็ดแปดสิบ เหตุใดวันนี้ถึงกลายเป็นเจ็ดแปดร้อยเล่าเจ้าคะ ท่านอ๋อง วาจาท่านเชื่อถือได้บ้างหรือไม่?”
ตาเฒ่าเอนกายลงบนเก้าอี้นอน เขานั่งไขว่ห้าง หยิบกาน้ำชาขึ้นมา จ่อพวยกาไว้ที่ปาก และหรี่ตาลงขณะดื่ม
เสียงหัวเราะเยาะของสาวใช้และเสียงโวยวายให้ชดใช้เรื่องจิ้งหรีดของบ่าวรับใช้นั้น เขาทำหูทวนลมทั้งหมด
จังหวะนั้น เสียงก่าด่าไม่ได้ศัพท์ก็ดังเข้ามา
ตาเฒ่าเผยอเปลือกตาขึ้นเล็กน้อย มองไปตามเสียง จากนั้นก็เห็นเด็กหนุ่มอายุราว ๆ สิบห้าสิบหก สูงเพียงร้อยหกสิบกว่า ท่อนล่างสวมกางเกงผ้าดิบสีน้ำเงิน เปลือยท่อนบนที่หาได้มีเนื้อมีหนังอันใด แต่ยังวางมาดราวกับกำยำล่ำสัน เขาพุ่งเข้ามาด้วยความฉุนเฉียว
“ไสหัวไปให้หมด!” เด็กหนุ่มไล่สาวใช้และบ่าวรับใช้ที่รวมตัวกันอยู่ออกไป ก่อนจะทิ้งก้นลงข้างตาเฒ่า พลางด่าทอด้วยความโมโห


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ