เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 295

บทที่ 295 โลหิตย้อมสนามรบ

เส้นเลือดปูดโปนขึ้นบนหน้าผากของสวีโม่ “บัดซบ! มีคนซุ่มโจมตี!”

ทันทีที่สวีโม่พูดจบ ลูกธนูหลายร้อยลูกก็พุ่งออกมาจากพงหญ้า ก่อตัวเป็นห่าฝนลูกธนูหนาทึบ ครอบคลุมกองทัพใหม่ ทันใดทหารใหม่มากกว่าสิบนายก็ถูกยิงตาย

เมื่อลูกธนูระลอกที่สองยิงมา หมวกของทหารเป่ยตี๋ที่ซ่อนอยู่ในหญ้าก็โผล่ขึ้น ดวงตาของสวีโม่ราวกับคนคุ้มคลั่ง แต่แทนที่จะหยุดฝีเท้า เขากลับหวดก้นม้าอย่างดุเดือดเพื่อเพิ่มความเร็ว พลางส่งเสียงคำราม “พลธนูหลายร้อยคนซุ่มโจมตีเพื่อสกัดกั้น มันแค่ขัดขวางไม่ให้เราไปช่วยอำเภอเป่ยซี ไม่ต้องสนใจ!”

“เร่งฝีเท้าไปที่อำเภอเป่ยซี!”

ภายใต้การนำของสวีโม่ กองทหารใหม่ได้ฝ่าฟันฝนลูกศร มุ่งหน้าไปตามถนนเส้นหลักด้วยความเร็วที่น่าตกใจไปยังอำเภอเป่ยซี กระทั่งเสียงกีบม้าเบาลง ทหารเดนตายของเป่ยตี๋ที่ซุ่มอยู่บนพื้นหญ้าถึงได้ยืนขึ้น มองดูฝุ่นที่คละคลุ้งในระยะไกล ก่อนจะเอ่ยอย่างเย็นชา “สมแล้วที่เป็นแม่ทัพค่ายเทียนจี เด็ดขาดนัก”

ขณะเดียวกัน ทางฝั่งเป่ยตี๋

เฉินซือนั่งอยู่บนหลังม้าพลางคำนวณเวลา ใบหน้าของเขาเริ่มซีดลงเรื่อย ๆ “ทำไมกำแพงเมืองถึงยังชุลมุนอยู่? ขวัญกำลังใจของทหารรักษาการณ์น่าจะพังทลายลงแล้วแท้ ๆ”

รองนายกองเป่ยตี๋พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “ทหารกำลังไล่สังหารคนในเมืองขอรับ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เฉินซือก็มองออกไปด้วยสายตาเย็นชาแหลมคม นั่นทำให้รองนายกองตกใจจนเหงื่อออกชุ่มหลัง เฉินซือกล่าวเสียงเย็น “ใครออกคำสั่ง?”

รองนายกองเป่ยตี๋ไม่กล้าลังเล รีบเอ่ยอธิบาย “ไม่มีใครออกคำสั่ง เพียงแต่กองทัพของเราสูญเสียกองกำลังและนายพลในการสู้รบที่ดุเดือดครั้งก่อน อีกทั้งการตายของจงหลิงยังเกี่ยวข้องกับอำเภอเป่ยซี พวกทหารจึงแก้แค้นกันเองตามใจชอบ พวกเขาใช้เลือดของชาวบ้านสังเวยให้ดวงวิญญาณของจงหลิง”

ใบหน้าของเฉินซือมืดมน เสียงของเขาชัดเจนยิ่งขึ้น “ถ้าเรายึดเมืองได้ก็แล้วไปเถอะ แต่ถ้าเราแพ้การต่อสู้ครั้งนี้ ใครก็ตามที่บุกเข้าไปในเมืองเพื่อสังหารชาวบ้านก่อนได้รับคำสั่งจะถูกตัดศีรษะต่อหน้าธารกำนัล!”

หากไม่มีการสังหารหมู่ ทหารรักษาการณ์ย่อมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องต่อสู้จนตาย และเมืองนี้ก็คงถูกตีแตกไปนานแล้ว แม้ว่าเฉินซือจะเชี่ยวชาญในการยกทัพ แต่เมื่อสองกองทัพต่อสู้กันก็เกิดเหตุการณ์มากมายที่ทำให้เขาประหลาดใจ

นับตั้งแต่สงครามระหว่างแคว้น เป่ยตี๋ไม่เคยสังหารหมู่มาก่อน

ไม่ใช่ว่าทหารเป่ยตี๋มีจิตใจดี แต่เหตุการณ์นี้ไม่ควรเกิดขึ้น

มิฉะนั้น เมื่อข่าวการสังหารหมู่แพร่กระจายออกย่อมส่งผลได้สองทาง หนึ่งสร้างความหวาดกลัวให้กับทหารหาญผู้ปกป้องต้าเหลียง หรือสองกระตุ้นขวัญกำลังใจให้ทหารต้าเหลียงสู้จนตัวตาย

ข้อได้เปรียบของกองทัพของเป่ยตี๋ตอนนี้ยังห่างไกลจากการสังหารหมู่ในเมืองอย่างไม่ไยดีได้

ความโกรธในดวงตาของเฉินซือจางหายและกลับสู่ความสงบอีกครั้ง “ยามใดแล้ว?”

รองนายกองตอบอย่างรวดเร็ว “ใกล้ยามโฉ่ว*[1] แล้วขอรับ”

เฉินซือถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ดูเหมือนว่าการซุ่มโจมตีทางตะวันตกของเมืองจะได้ผล สิ่งที่ควรมาก็ใกล้มาถึงแล้ว สิ่งที่ไม่ควรมาก็คงกลับมาไม่ได้อีก ถ่ายทอดคำสั่งข้า นอกจากทหารม้า ให้ทหารทุกนายระดมพลโจมตีอำเภอ และยุติการรบภายในหนึ่งชั่วยาม”

เมื่อคำสั่งถูกถ่ายทอดไป กองพันทหารราบที่อยู่ด้านหลังก็เริ่มรุกคืบไปยังที่ตั้งของอำเภอ

การยึดอำเภอเป่ยซียามนี้ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น

ขณะที่เฉินซือดึงสายบังเหียน เตรียมจะกลับฐานที่มั่น เสียงกีบม้าที่ห้อตะบึงมาอย่างรวดเร็วก็ดังขึ้น

เฉินซือขมวดคิ้วมองหาที่มาของเสียง ก็เห็นผู้ส่งสารติดอาวุธเบาควบม้าเข้ามาถึงเบื้องหน้า อีกฝ่ายร้อนรนจนเกือบตกจากหลังม้า ตะโกนรายงานก่อนที่จะคารวะตามมารยาทเสียอีก “ท่านแม่ทัพ! แย่แล้ว ทัพเสริมของต้าเหลียงไม่ได้ติดพันกับการซุ่มโจมตี พวกเขาทิ้งศพไว้มากกว่าห้าสิบศพ และมุ่งหน้ามายังอำเภอเป่ยซีด้วยความเร็วเต็มพิกัด”

อะไรนะ!

ทันใดนั้นดวงตาของเฉินซือก็เบิกกว้าง เขาตะโกนลั่น “ถ่ายทอดคำสั่ง ให้กองพันทหารราบถอนตัว…”

ทันทีที่เฉินซือออกคำสั่ง ลูกศรก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้ายามค่ำคืน ปักเข้าที่ไหล่ซ้ายของเขาอย่างแม่นยำ

เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นกะทันหัน เฉินซือจึงตกจากหลังม้า แม้ว่าลูกธนูจะไม่ทำให้ถึงแก่ชีวิต แต่ก็ทำให้เฉินซือตกตะลึงจนหนังศีรษะชาหนึบ

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ