บทที่ 308 ขยายกองกำลัง
ในเวลานี้จ้าวอวี้หลงเข้ามาด้านในแล้ว
ฉินเฟิงไม่มีเวลาสนใจเขา ชายหนุ่มมุ่งความสนใจไปที่การเขียนจดหมาย ในที่สุดก็เรียกหาจ้าวเฉิง หัวหน้าโรงพักม้าที่กำลังจะออกจากเมืองหลวง “เจ้าส่งจดหมายถึงหลี่เซียวหลาน พี่หญิงสามของข้าด้วย”
จ้าวเฉิงรับจดหมายด้วยมือทั้งสองข้าง ก่อนจะพบว่ามีจดหมายฉบับเล็กอยู่ใต้จดหมายฉบับใหญ่
ด้านบนคือ ‘ถึงหลี่เซียวหลาน’
ด้านล่างคือ ‘ถึงหนิงหู่’
ในเวลานี้ หนิงหู่ได้พาทีมวิศวกรไปยังอำเภอเป่ยซีแล้ว เห็นได้ชัดว่าจดหมายฉบับเล็กที่ตั้งใจซ่อนจากสายตาคนฉบับนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก
จ้าวเฉิงเองก็ฉลาดเฉลียว เขาซ่อนจดหมายฉบับเล็กไว้อย่างเงียบ ๆ ก่อนจะยัดจดหมายฉบับใหญ่ลงในกระเป๋า แล้วกลับไปที่อำเภอเป่ยซีตามถนนทางการ จ้างเฉิงแวะเปลี่ยนม้าที่โรงพักม้าอำเภอฝูอวิ้น เขาจิบชาไปสองจิบ และตอนนั้นก็รู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย จึงหลับไป พอตื่นมาอีกทีก็ผ่านไปสองก้านธูปแล้ว
จ้าวเฉิงตรวจสอบจดหมายอย่างรวดเร็ว พบว่าจดหมายที่จะมอบให้หลี่เซียวหลานเหมือนจะไม่เสียหาย แต่รอยเส้นเล็ก ๆ ที่ตราประทับขาดแล้ว เห็นได้ชัดว่าถูกคนเปิดอ่าน
เนื่องจากโรงพักม้ามีคนพลุกพล่านและแออัด จ้าวเฉิงจึงแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น รอกระทั่งห่างจากโรงพักม้าและไม่มีคน เขาก็ตรวจสอบจดหมายลับที่ซ่อนอยู่ เมื่อตรวจดูจนแน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดปกติ ถึงได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ด้านฉินเฟิง เขาแน่ใจว่าหน่วยองครักษ์ชุดดำจะดำเนินการตรวจสอบผู้คนที่เข้าออกค่ายเทียนจีอย่างเข้มงวด
จึงมีเพียงให้หนิงหู่ส่งจดหมายให้กับหลี่เซียวหลานด้วยสองมือจึงจะปลอดภัย
ท้ายที่สุดแล้ว การจัดตั้งหน่วยสอดแนมนั้นแตกต่างกับการจัดตั้งกองทัพอย่างทหารค่ายเทียนจีโดยสิ้นเชิง
ทันทีที่ฮ่องเต้ต้าเหลียงทรงทราบจะต้องหวาดระแวงฉินเฟิงเป็นแน่
แต่ความปรารถนาของฉินเฟิงที่จะมีหน่วยข่าวกรองของตัวเองก็มากนัก
เขาจึงต้องใช้แผนต่ำชั้นเช่นนี้
หลี่เซียวหลานกับพี่สี่จินมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ความสามารถของพวกเขาไม่ต่างจากคนที่อยู่ในสมาคมรายนามสวรรค์ หากให้หลี่เซียวหลานรับผิดชอบการจัดระเบียบหน่วยข่าวกรองย่อมพึ่งพาได้แน่นอน
กระทั่งเขาได้ยินเสียงกระแอมไอเล็กน้อยเบื้องหน้า ในที่สุดฉินเฟิงก็เบนความสนใจไปที่จ้าวอวี้หลง
สมแล้วที่เป็นบุตรชายของผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพมังกรซ่อนพยัคฆ์
ในยุคที่เผชิญกับภาวะขาดสารอาหาร ส่วนสูงเฉลี่ยต่อคนไม่ถึงร้อยหกสิบเซนติเมตร ทว่าจ้าวอวี้หลงกลับมีร่างกายกำยำ เขาสูงเกือบร้อยเก้าสิบเซนติเมตร เรียกได้ว่าสูง ‘ผิดปกติ’ ทีเดียว
แม้แต่หนิงหู่บุรุษที่นับว่าแข็งแกร่งที่สุดในค่ายเทียนจี พอเทียบกับจ้าวอวี้หลงแล้วยังผอมราวกับไก่
นอกจากจะสูงกำยำแล้ว รูปร่างหน้าตาของจ้าวอวี้หลงก็เพียงพอจะทำให้ฉินเฟิงอิจฉาตาร้อน
คิ้วกระบี่คมสองข้าง ดวงตาราวเสือดาวคู่หนึ่ง
เผยความสง่างามของบุรุษอย่างเต็มเปี่ยม
นับตั้งแต่จ้าวอวี้หลงเดินเข้ามาด้านใน ฉินเฟิงก็ไม่ลุกขึ้นยืนเลย ด้วยเกรงหากเทียบกับจ้าวอวี้หลงจะทำให้เขาดูด้อยกว่าจนรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจได้
ฉินเฟิงเกลียดผู้ชายหน้าตาดีเป็นที่สุด โดยเฉพาะผู้ชายอย่างจ้าวอวี้หลงที่หล่อเหลาเกินมนุษย์มนา
สิ่งที่แปลกคือ ฉินเฟิงไม่ปฏิเสธจ้าวอวี้หลง ในทางตรงกันข้ามเขากลับรู้สึกพึงพอใจมาก
ในฐานะบุตรชายของผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพมังกรซ่อนพยัคฆ์ เขามีฐานะสูงส่ง แต่ไร้ความเย่อหยิ่งใด ๆ เพียงยืนเงียบ ๆ อยู่หน้าโต๊ะ ฉินเฟิงไม่เอ่ยพูด จ้าวอวี้หลงก็แค่ยืนรอต่อไป


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ