บทที่ 328 ให้พวกเจ้าหนึ่งแสนตำลึงเงิน
โม่หลีตอบอย่างรวดเร็ว “เรามาที่นี่เพื่อจัดตั้งหน่วยองครักษ์เสื้อแพร นอกเหนือจากเชื่อฟังคำสั่งของนายน้อยฉิน เรายังต้องรักษาการติดต่อระหว่างคุณหนูรองกับคุณหนูสามต่อไปขอรับ”
ฉินเฟิงต้องการองครักษ์เสื้อแพรอย่างเร่งด่วน หลังจากยืนยันตัวตนของอีกฝ่ายแล้ว เขาก็ไม่ลังเลอีกต่อไป เอ่ยอย่างไม่อ้อมค้อมว่า “โม่หลี ข้าขอแต่งตั้งเจ้าเป็นหัวหน้าขององครักษ์เสื้อแพร คนกลุ่มนี้ต้องฟังคำสั่งของเจ้า”
“ส่วนการแต่งตั้งตำแหน่งภายใต้การบังคับบัญชาของเจ้า เจ้าสามารถจัดการได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ข้าขอมอบอำนาจในการขยายกำลังคนให้กับเจ้าด้วย งานของเจ้าคือบอกข่าวที่ข้าอยากรู้ และปลิดชีพคนที่ข้าต้องการชีวิต”
ฉินเฟิงมอบอำนาจทั้งหมดให้กับโม่หลีตั้งแต่ครั้งแรกที่พวกเขาพบกัน ไม่ใช่ว่านายน้อยฉินทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง แต่นี่เป็นการกระทำหลังจากพิจารณามาอย่างรอบคอบแล้ว
ท้ายที่สุดแล้วงานข่าวกรองก็เป็นงานละเอียดอ่อน ฉินเฟิงเป็นแค่คนธรรมดา…
เขาย่อมไม่สามารถทำตัวเป็นคนสอนจระเข้ว่ายน้ำได้
อีกทั้งโม่หลีและคนอื่น ๆ ได้แสดงให้เห็นความสามารถของพวกเขาแล้ว ประกอบกับนี่เป็นคนที่พี่หญิงสามส่งมา ฉินเฟิงจึงสามารถไว้วางใจพวกเขาได้โดยไม่มีเงื่อนไข
การปล่อยให้โม่หลีจัดการแทนที่จะเข้ามาแทรกแซงทุกรายละเอียดถือว่าสะดวกกว่ามาก
โม่หลีเข้าใจเหตุผลนี้ดี เขาไม่ได้แสร้งวางท่า และตอบรับอย่างว่องไว “ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการจัดการของนายน้อย แต่มีบางอย่างที่ข้าต้องขอคำชี้แจงขอรับ…”
“สำนักองครักษ์เสื้อแพรตั้งอยู่ที่ใด”
ฉินเฟิงไม่ลังเลและโพล่งออกมา “เรื่องเหล่านี้เจ้าเป็นผู้ตัดสินใจทั้งหมด ท้ายที่สุดแล้วเจ้าก็เป็นมืออาชีพมากกว่าข้า ข้าจะตั้งกฎให้เจ้าเพียงข้อเดียวเท่านั้น นั่นคือ ข้อมูลต่าง ๆ แบ่งออกเป็นสี่ขั้น หนึ่ง สอง สาม สี่ ขั้นหนึ่งมีความสำคัญสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นข่าวอะไรก็ตามต้องรายงานโดยเร็ว ขั้นสองควรรายงานทุกเจ็ดวัน ขั้นสามและขั้นสี่รายงานเดือนละครั้ง”
“ในส่วนของเงินทุนเริ่มต้น เจ้าคิดว่าต้องการเท่าไหร่?”
เงินทุนเริ่มต้น…
โม่หลีไม่เคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน
นับตั้งแต่พวกเขาเลือกจะภักดีต่อหลี่เซียวหลาน พวกเขาก็พึ่งพาตนเอง ยามเงินหมดก็ลอบสังหารคหบดีที่ละโมบและไร้คุณธรรม หากขาดแคลนสิ่งของก็ปล้นรังโจร
ตอนนี้เมื่อมาอยู่เป็น ‘ระบบ’ มีคนแจกจ่ายอาหารและเงินเดือนจึงรู้สึกรับมือไม่ถูกอยู่บ้าง
หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว โม่หลีก็กัดฟันเอ่ยจำนวนเงินอย่างกล้าหาญ “หนึ่งพันตำลึงเงินต่อเดือนขอรับ”
จำนวนเงินนี้เป็นผลมาจากการพิจารณาอย่างรอบคอบของโม่หลี อย่างไรเสียพวกเขาต้องหลบซ่อนจากสายตาของผู้อื่น อีกทั้งยังต้องแทรกซึมเข้าไปยังสถานที่สำคัญอย่างเมืองหลวงบ่อยครั้ง ภายใต้แรงกดดันขององครักษ์ชุดดำ มีหลายเรื่องไม่สะดวกจะออกหน้าด้วยตนเอง แค่ค่าใช้จ่ายในการกินอยู่ก็ไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ แล้ว
นอกจากนี้การตั้งสำนักองครักษ์เสื้อแพร พัฒนาสายข่าวกรอง จำเป็นต้องมีเงินอย่างน้อยห้าร้อยตำลึงเงินต่อเดือน ส่วนเหตุผลที่ต้องการหนึ่งพันตำลึงก็ด้วยต้องมีเงินเก็บสำรองไว้เตรียมตั้งรับกับเหตุฉุกเฉินด้วย
ฉินเฟิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อได้ยินจำนวนเงินของโม่หลี
โม่หลีถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ไยนายน้อยจึงขับขัน? หรือท่านคิดว่าจำนวนเงินที่ข้าน้อยบอกมากเกินไป ถ้าเป็นเช่นนั้น ตัดออกครึ่งหนึ่งเหลือห้าร้อยตำลึงเงินก็เพียงพอแล้ว ส่วนที่เหลืออีกห้าร้อยตำลึงเงิน เดิมทีตั้งใจเตรียมไว้สำหรับแผนการอื่น…”
ทว่าก่อนโม่หลีจะอธิบายจบ ฉินเฟิงก็ขัดจังหวะด้วยรอยยิ้ม “องครักษ์เสื้อแพรเป็นดั่งกริชในมือของข้า เป็นรากฐานในการก่อร่างสร้างตัวของข้า หนึ่งพันตำลึงเงินต่อเดือน จะเอาไปไล่ขอทานหรือไร!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของโม่หลีก็หรี่ลง เขาถามลองเชิง “นายน้อยหมายความเช่นไร?”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ