เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 340

บทที่ 340 เพียงเพื่อแว่นแคว้น

เหตุผลนั้นง่ายมาก มันไม่เกี่ยวข้องกับความคิดเห็นทางการเมือง ความรับผิดชอบ หรือสายเลือด

ทว่าเมื่อมองดูทั้งต้าเหลียงแล้ว ฉินเฟิงเป็นเพียงคนเดียวที่ต่อสู้กับเป่ยตี๋

ฮ่องเต้ต้าเหลียงครองตำแหน่งสูงในท้องพระโรง แม้ว่าจะควบคุมกลยุทธ์โดยรวม แต่ไม่ต้องกล่าวถึงความรู้สึกเลย ฝ่าบาทใช้ชีวิตของผู้คนในอำเภอเป่ยซีเป็นเหยื่อล่อแลกกับชัยชนะทางยุทธศาสตร์ ต่อให้ชนะแล้วอย่างไรเล่า? ชนะสงคราม สูญเสียใจราษฎรโดยแท้

กองทหารชายแดนต่อสู้อย่างดุเดือดกับเป่ยตี๋มาหลายปี ความภักดีของพวกเขาคงอยู่ แต่ก็เสื่อมถอยลงเรื่อย ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ใครก็ตามที่มีสายตาเฉียบแหลมจะเห็นได้ว่า สนามรบเป่ยซีอยู่ใกล้กับค่ายทหารชายแดนมาก แต่กองทหารชายแดนไม่ได้ส่งทหารไปแม้แต่นายเดียว นี่พิสูจน์แล้วว่ากองทหารชายแดนเริ่มเลือกฝ่ายแล้ว

หากฉินเฟิงไม่กัดฟันสนับสนุนสงคราม ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม อำเภอเป่ยซีคงถูกชาวเป่ยตี๋บุกสังหารจนสิ้น

จ้าวอวี้หลงหายใจเข้าลึก แววแห่งความมุ่งมั่นฉายอยู่ในดวงตาของเขา “ท่านพ่อ! ตั้งแต่ลูกยังเล็กจนเติบใหญ่เพียงนี้ ไม่เคยมีสักครั้งที่ไม่เชื่อฟังท่าน แต่คราวนี้ลูกไม่เต็มใจจะสละโอกาสในการมีส่วนสนับสนุนแว่นแคว้นเพียงเพื่อชื่อเสียงของตัวเอง ลูกเข้าร่วมค่ายเทียนจี ไม่ใช่เพราะตำแหน่งรองแม่ทัพอะไรนั่น ยิ่งไม่ใช่เพื่อการเขียนประวัติเส้นทางขุนนางที่สวยหรู หากต้าเหลียงและราษฎรมีชีวิตอยู่อย่างสงบสุข ลูกก็ไม่ขอสิ่งอื่นใดแล้ว!”

คำพูดเหล่านี้ทำให้ใบหน้าของจ้าวหลีแสบร้อน

มีหลายครั้งที่เขาอยากจะตะโกนเสียงดังไล่จ้าวอวี้หลงกลับจวน

แต่สุดท้ายแล้วเขาเกิดมาในฐานะนักรบ และมีเลือดนักรบที่ลบไม่ออกอยู่ในกระดูก

ในฐานะผู้นำของตระกูล จ้าวหลีต้องคิดและตัดสินใจอย่างรอบคอบระหว่างความรุ่งเรืองและล่มสลายของครอบครัวกับปณิธานส่วนตัวของเขา

แต่ท้ายที่สุด จ้าวหลีก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสนับสนุนบุตรชาย เขาทำได้เพียงสนับสนุนจ้าวอวี้หลงเป็นการส่วนตัวเท่านั้น

“ถ้าเจ้าต้องการไปค่ายเทียนจี พ่อจะไม่รั้ง แต่มีหนึ่งคำที่จำเป็นต้องเอ่ย …หากในภายภาคหน้าเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้น พ่อทำได้เพียงปกป้องเจ้าคนเดียวเท่านั้น ชีวิตและความตายของผู้อื่นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลจ้าว หากเจ้าเข้าใจและยอมรับ พ่อก็จะไม่ห้ามเจ้าอีก”

เสียงของจ้าวอวี้หลงดังก้องอย่างทรงพลัง “ข้าทำเพื่อต้าเหลียงเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อใครอื่น!”

ระหว่างพ่อลูก ไม่จำเป็นต้องพูดสิ่งใดเพิ่มเติม

ช่วงขณะเดียวกัน ฉินเฟิงได้กลับไปยังค่ายเทียนจีภายใต้การดูแลของจิ่งเชียนอิ่ง อู๋เว่ยรวมถึงคนอื่น ๆ

เมื่อรู้ว่าฉินเฟิงได้รับบาดเจ็บ ทั้งค่ายเทียนจีก็แทบจะระเบิด

ทหารทั้งหมดของค่ายเทียนจีล้อมรอบลานกว้าง แทบจะพุ่งตัวไปคว้าชุดเกราะ ตั้งทัพเดินขบวนเข้าไปในเมืองหลวงเพื่อแก้แค้นเสียเดี๋ยวนั้น

“หัวหน้าอู๋ ใครทำร้ายนายน้อย!”

“นายน้อยไม่เพียงมีทหารองครักษ์คอยคุ้มกันเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับคุณหนูสี่ อีกทั้งที่นี่ยังอยู่ใต้ฝ่าพระบาทของโอรสสวรรค์ เกรงว่ามีเพียงทหารรักษาพระองค์หรือองครักษ์หน้าพระที่นั่งเท่านั้นที่มีความแข็งแกร่งและความกล้าหาญเช่นนี้”

“ทหารรักษาพระองค์แล้วอย่างไร? องครักษ์หน้าพระที่นั่งแล้วทำไม? ใครก็ตามที่กล้าทำร้ายนายน้อย เท่ากับผูกปมแค้นร้ายแรงกับพวกเรา!”

เมื่อเห็นทหารทุกคนโกรธแค้น อู๋เว่ยเองก็มีความอัดอั้นอยู่เต็มอก แต่เพื่อประโยชน์ของสถานการณ์โดยรวม เขาทำได้เพียงโบกมือและตะโกนเสียงต่ำ “พวกเจ้าหุบปาก!”

ตอนนี้หนิงหู่กับสวีโม่ต่างก็อยู่ในอำเภอเป่ยซี ทั้งค่ายเทียนจีมีเพียงอู๋เว่ยเท่านั้นที่มียศทหารสูงสุด

แม้ว่าอู๋เว่ยจะเป็นเพียงหัวหน้าหน่วยตัวเล็ก ๆ แต่เหล่าทหารก็ยังคงปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเต็มที่ ไม่กล้าจะไม่เชื่อฟังแม้แต่น้อย

ดวงตาของอู๋เว่ยเปล่งประกายความเคร่งขรึมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน “หนิงหู่กับสวีโม่ แม่ทัพทั้งสองไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง ทหารส่วนใหญ่จากค่ายเทียนจีไปที่อำเภอเป่ยซีเพื่อปกป้องกองคาราวานและฝ่ายขนส่งเสบียง ตอนนี้นายน้อยอยู่คนเดียวในเมือง อย่าปล่อยให้ความโกรธครอบงำ การตัดสินเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับความตั้งใจของนายน้อย”

“เรามีทุกวันนี้ได้ ทั้งหมดล้วนต้องขอบคุณการยอมรับและผลักดันของนายน้อย ขอเพียงนายน้อยพูดออกมา ต่อให้เป็นภูเขาดาบทะเลเพลิง เราก็จะไม่ลังเล!”

หลังจากได้ยินเช่นนี้ ทหารทุกนายก็กำหมัดแน่น ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

บรรยากาศในลานกว้างก็ค่อนข้างหนักอึ้งเช่นกัน

บทที่ 340 เพียงเพื่อแว่นแคว้น 1

บทที่ 340 เพียงเพื่อแว่นแคว้น 2

บทที่ 340 เพียงเพื่อแว่นแคว้น 3

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ