บทที่ 352 สำรวจแหล่งน้ำ
ฉินเฟิงเป็นเพียงสือฮู่ตัวเล็ก ๆ ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขุนนาง และไม่มีความสนใจจะเป็นขุนนางแม้เพียงนิด
อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงชื่นชมความกล้าหาญของหลี่หลาง
“สมแล้วที่เป็นบุตรชายของหมิงอ๋อง!”
เมื่อเผชิญหน้ากับคำชมที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนของฉินเฟิง หลี่หลางก็ยิ้มแย้มด้วยความภาคภูมิใจ “ข้าสืบทอดวรยุทธ์จากท่านพ่อ เรียกได้ว่ามีฝีมือเกินกว่าพ่อข้าเล็กน้อย ส่วนหลี่จางพี่ชายของข้าสืบทอดความสามารถด้านการบัญชาการทหาร เชี่ยวชาญศาสตร์แห่งสงคราม ถึงขั้นที่แทบจะบรรลุแล้ว”
“แต่ก็เพราะไม่มีโอกาส!”
“ไม่เช่นนั้น พวกข้าสองคนก็คงมุ่งหน้าไปที่สนามรบ สังหารทหารเป่ยตี๋ให้ราบ จะยังต้องต่อสู้กันมาหลายปีเช่นนี้ได้อย่างไร”
ฉินเฟิงไม่สงสัยในความแข็งแกร่งของคนในตระกูลหมิงอ๋อง แต่แล้วอย่างไรเล่า? ฮ่องเต้ต้าเหลียงหวาดกลัว ยิ่งพวกเขามีความสามารถมากเท่าไรก็ยิ่งต้องถูกเก็บซ่อนให้มิดชิดมากขึ้นเท่านั้น
เพราะความสำเร็จอันยิ่งใหญ่จะบดบังรัศมีเจ้าเหนือหัวเอาได้!
ตอนฉินเฟิงกำลังครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับตระกูลหมิงอ๋อง จู่ ๆ หลี่หลางก็กล่าววาจาที่หากไม่ทำให้คนตกตะลึงแม้นตายก็ไม่หยุด “พี่ฉิน เจ้าเป็นคนที่สามารถเข้าถึงฮ่องเต้ได้โดยตรง ไม่สู้เจ้าไปคุยกับฮ่องเต้ให้ส่งข้าไปสนามรบ สร้างคุณงามความดีเล่า?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ศีรษะของฉินเฟิงก็สั่นเหมือนกลองป๋องแป๋ง “เจ้าอย่าทำร้ายข้าเลย!”
“อย่าว่าแต่ช่วยพูดชมพวกเจ้า แค่เอ่ยชื่อตระกูลของพวกเจ้า ฮ่องเต้ก็ฆ่าข้าด้วยสายพระเนตรไปหลายร้อยครั้งแล้ว”
“แปลกจริงเชียว ที่เมืองหลวงมีท่านอ๋องมากมาย ไยตระกูลของเจ้าถึงเป็นตระกูลเดียวที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากฮ่องเต้?”
เมื่อได้ยินคำถาม ดวงตาของหลี่หลางก็ฉายแววโศกเศร้า เขาถอนหายใจ “อย่าพูดถึงเลย เรื่องมันยาว”
ฉินเฟิงต้องการถามคำถามเพิ่มเติมอีกสองสามข้อ แต่อู๋เว่ยกลับมาแล้ว ดังนั้นเขาจึงหยุดพูดก่อน
ดูเหมือนอู๋เว่ยจะไม่ได้นอนทั้งคืน เขาพลิกตัวลงจากหลังม้า ประสานมือก่อนจะพูดว่า “นายน้อยขอรับ เจ้าเมืองเฉินยอมรับคำขอแล้ว ขุนนางตรวจสอบจะมาถึงอำเภอชางผิงเร็ว ๆ นี้ขอรับ”
ฉินเฟิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “ตาเฒ่านั่นรู้วิธีอยู่รอด ไม่อย่างนั้นข้าคงต้องไปเยี่ยมด้วยตัวเอง”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ อู๋เว่ยก็แอบหัวเราะ “ตอนเจ้าเมืองเฉินได้ยินว่าเป็นท่าน เขาไม่กล้าพูดอะไรเลย เพราะกลัวว่าท่านจะโกรธแล้วไปพักที่จวนว่าการสองสามวัน แม้ว่าข้าน้อยจะพบกับเจ้าเมืองเฉินในห้องโถง ไม่สามารถเข้าไปในเรือนด้านหลังได้ แต่แค่เดินเข้าและออกจากเรือนหน้าก็เห็นสาวใช้ตัวน้อยหลายคนแล้ว”
“แม้จะกล่าวว่าเป็นสาวใช้ตัวน้อย แต่ประดับกายด้วยทองและเงิน แค่ดูก็รู้ว่าเป็นอนุภรรยา ข้าน้อยจึงลองสืบดู พบว่าเจ้าเมืองเฉินอายุหกสิบปีแล้ว แต่มีอนุภรรยาสิบสองคน”
ฉินเฟิงเม้มริมฝีปาก สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “ตาเฒ่าคนนี้ ร่างกายดีกว่านายน้อยอย่างข้าอีกรึ!”
“แต่เรื่องแบบนี้มีอยู่มากมาย เราไม่ต้องสนใจและไม่จำเป็นต้องทำอะไร แค่จัดการเรื่องของเราเองก็พอ”
“เจ้าไปรับฉินเสี่ยวฝูและจ้าวอวี้หลงเถอะ”
อู๋เว่ยกำลังจะรับคำสั่งและออกไป แต่เห็นจ้าวอวี้หลงก็ขี่ม้าเข้ามาเสียก่อน
“พี่ฉิน งานเสร็จแล้ว เราไปแค่สองอำเภอก็สามารถรับสมัครชาวบ้านที่ร่างกายกำยำมาได้ห้าพันคนแล้ว ฉินเสี่ยวฝูกำลังจัดระเบียบอยู่ด้านหลัง อีกเดี๋ยวก็มาถึง หากมีกำลังคนไม่พอ ข้าจะไปอำเภออื่นอีกรอบ”
ห้าพันคน? เพียงพอแล้ว!
ฉินเฟิงโบกมือให้จ้าวอวี้หลงกับอู๋เว่ย เป็นเชิงว่าพวกเจ้าเหนื่อยมาทั้งวันทั้งคืนแล้ว ไปพักผ่อนได้
หลังจากนั้นไม่นานก็เห็นฉินเสี่ยวฝูนำฝูงชนหนาแน่นมุ่งหน้ามาทางนี้
เมื่อเห็นกลุ่มคนเช่นนี้ ฉินเฟิงก็พึงพอใจอย่างมาก “ความสามารถในการทำงานไม่เลวเลย เงินที่เหลือห้าพันตำลึง เจ้าเก็บไว้เถอะ”
ดวงตาของฉินเสี่ยวฝูเปล่งประกาย เขาหัวเราะเบา ๆ “นายน้อย ความเคารพที่ข้ามีต่อท่านอาจกล่าวได้ว่าเหมือนแม่น้ำหวงเหอที่ล้นเหลือ…”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ