เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 361

บทที่ 361 ไม่เข้าถ้ำเสือไม่ได้ลูกเสือ

ในอำเภอชางผิง มีภัยสามอย่าง

ความแห้งแล้ง ความอดอยาก และตระกูลหลิน

ฉินเฟิงมาที่อำเภอชางผิง เขาใช้วิธีการแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำและอิทธิพลของตระกูลหลินอย่างเอิกเกริก

ขุนนางทุกคนตั้งแต่บนลงล่างล้วนรู้สึกขอบคุณ

ครั้นรู้ว่าฉินเฟิงกำลังจะลงมือแก้ไขปัญหาความอดอยากอีก หลิวหลิงก็ตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง เขากล่าวพลางคำนับฉินเฟิงอย่างรวดเร็ว “นายน้อยฉิน ท่านเป็นพ่อพระมาเกิดจริง ๆ หากสิ่งนี้สามารถแก้ไขวิกฤติอาหารในอำเภอชางผิงได้ ข้ายินดีที่จะนำเจ้าหน้าที่และผู้คนทั้งหมดในเมือง จัดตั้งห้องโถงบรรพบุรุษ กราบไหว้นายน้อยฉินตลอดไป!”

ทันใดขุนนางทุกคนต่างแสดงความเคารพและตะโกนพร้อมกัน “เรายินดีที่จะสนับสนุนนายน้อยฉินอย่างเต็มที่!”

จัดตั้งห้องโถงบรรพบุรุษกราบไหว้อะไรก็ช่างเถิด ฉินเฟิงไม่สนใจแม้แต่น้อย

หากภัยพิบัติในอำเภอชางผิงสามารถแก้ไขได้ทันที ผู้ประสบภัยไม่กระจัดกระจายไปทั่ว นั่นก็จะสามารถบรรเทาความกดดันในอำเภอเป่ยซีลงได้ ถือเป็นสถานการณ์ที่บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น หาได้เกี่ยวอันใดกับจิตใจดีงามไม่

ตามที่รองนายอำเภอกล่าว อำเภอชางผิงสูญเสียประชาชนไปเกือบเก้าส่วนเนื่องจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นติดต่อกันหลายปี ขณะนี้ประชากรจากแปดหมื่นคน เหลือเพียงมากกว่าเจ็ดพันคนเท่านั้น และมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นผู้ทรงอิทธิพลท้องถิ่นที่ไม่ต้องกังวลเรื่องปัจจัยสี่ และผู้คนบางส่วนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นก็เป็นลูกจ้างของตระกูลร่ำรวยซึ่งพอจะทำงานแลกข้าวประทังชีวิตไปวัน ๆ ได้

ความต้องการเสบียงของอำเภอชางผิงจึงไม่ได้ถือว่าเร่งด่วนขนาดนั้น

ในทางตรงกันข้าม สิ่งที่ขาดมากที่สุดคือประชากรต่างหาก

ฉินเฟิงไม่ได้แตะต้องการเงินของอำเภอชางผิง เงินจำนวนเล็กน้อยถูกสงวนไว้สำหรับการบำรุงรักษารายวันในการดำเนินงานของอำเภอ ด้วยชายหนุ่มไม่ได้ตั้งใจที่จะจ่ายเงินเป็นการส่วนตัว ท้ายที่สุดแล้วเป่ยซีตอนนี้ก็กำลังตกอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างมาก

หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน ในที่สุดฉินเฟิงก็ตัดสินใจฝากเงินทั้งหมดที่ได้รับจากการจัดระเบียบขุนนางในเมืองหลวงเข้าบัญชีของค่ายเทียนจี ดังนั้นกลุ่มขนส่งเสบียงที่มุ่งหน้าไปยังอำเภอเป่ยซีจึงถูกแบ่งมาอำเภอชางผิงหนึ่งกลุ่ม ถือเสียว่าเป็นการทำการค้ากับตัวเอง

อำเภอชางผิงอยู่ใกล้กับเจียงหนาน พื้นที่โดยรอบอยู่ภายใต้อิทธิพลของตระกูลหลิน ทำให้ปัญหาการซื้ออาหารเป็นเรื่องยากลำบาก

ในทางตรงกันข้าม ฉินเฟิงอาศัยค่ายเทียนจีในเมืองหลวงเป็นจุดศูนย์กลางในการซื้อธัญพืชจากอำเภอทางตอนเหนือหลายแห่ง ทำให้มีช่องทางมากกว่า

ส่วนเสบียงอาหารชุดแรกนี้มีไว้สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉินในอำเภอชางผิงเท่านั้น

จากนั้นเขาก็ให้หลิวหลิงปล่อยข่าวออกไป

ผู้ประสบภัยทุกคนที่เต็มใจจะตั้งถิ่นฐานในอำเภอชางผิง สามารถรับอาหารปันส่วนได้สามปีตามจำนวนคนและจะได้รับการยกเว้นภาษี รวมถึงการเกณฑ์แรงงานเป็นเวลาสองปี

แต่เงื่อนไขคือ คนที่มาจะต้องเป็นผู้ประสบภัยที่หนีความอดอยาก หากเป็นคนธรรมดาจะไม่ได้รับ นี่ก็เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่ออำเภอโดยรอบ

แม้จะมีการกำหนดนโยบายพิเศษต่าง ๆ ไว้ แต่โดยทั่วไปแล้วการฟื้นฟูประชากรของอำเภอชางผิงในเวลาอันสั้นไม่อาจทำได้จริง ดังนั้นการฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่ของอำเภอชางผิงจึงเป็นกระบวนการที่ยาวนาน หากต้องการแก้ไขปัญหาของอำเภอชางผิงอย่างเร่งด่วน ต้องกำจัดอิทธิพลของตระกูลหลินในเจียงหนานโดยตรง

และในเมื่อมาไกลขนาดนี้แล้ว ฉินเฟิงจึงตัดสินใจเดินทางไปยังเจียงหนานเสียเลย

ในตอนที่ฉินเฟิงพูดแผนนี้ออกมา ทุกคนไม่เห็นด้วยตามที่คาดไว้

อู๋เว่ยยกข้อโต้แย้งขึ้นมาทันที มุมมองของเขาดูหนักแน่นอย่างยิ่ง “นายน้อยโปรดทบทวน! เจียงหนานเป็นดินแดนของตระกูลหลิน หากเราไปที่นั่นอย่างประมาท จะต้องเป็นภัยถึงแก่ชีวิตแน่ หนิงหู่กับสวีโม่ แม่ทัพทั้งสองได้ฝากให้ข้าดูแลท่าน ข้าจะต้องรับรองความปลอดภัยของท่าน!”

“หากเกิดเรื่องร้ายกับท่านขึ้นมา ต่อไปข้าน้อยจะมีหน้าไปพบพี่น้องจากค่ายเทียนจีได้อย่างไร”

หลี่หลางเป็นคนไม่เกรงกลัวฟ้าดินมาตลอด แต่เมื่อเขารู้ว่ากำลังจะไปเจียงหนาน เจ้าตัวกลับเงียบเป็นครั้งแรก เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มรู้ดีว่าเจียงหนานอันตรายเพียงใด

ส่วนจิ่งเชียนอิ่งกับเสี่ยวเซียงเซียง แม้พวกนางจะไม่ได้ปฏิเสธฉินเฟิงอย่างชัดเจน แต่ความเงียบของพวกนางก็ได้อธิบายปัญหาไว้แล้ว

บทที่ 361 ไม่เข้าถ้ำเสือไม่ได้ลูกเสือ 1

บทที่ 361 ไม่เข้าถ้ำเสือไม่ได้ลูกเสือ 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ