เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 381

บทที่ 381 ผิดวิสัย

ถ้าจางซิวเย่​​เป็นกระบอกเสียงของฝ่าบาท บรรดาทหารรักษาพระองค์ที่อยู่รอบข้างคงจะไม่มีท่าทีสงบนิ่งขนาดนี้ อย่างน้อยก็ต้องแยกเขี้ยวยิงฟันใส่เขาแล้ว

ในเมื่อจางซิวเย่ไม่ใช่กระบอกเสียงของฝ่าบาท เช่นนั้นก็ไม่มีอะไรต้องกลัว

ปากของจางซิวเย่​​จะเทียบเท่ากับองครักษ์ชุดดำได้อย่างไร? ก่อนฝ่าบาททำการตัดสินพระทัย ล้วนต้องพิจารณารายงานขององครักษ์ชุดดำก่อน มิเช่นนั้นหลี่จ้านที่รับใช้พระองค์มาหลายปี ไยจึงถูกถีบหัวส่งง่าย ๆ เช่นนี้?

และแม้ว่าองครักษ์ชุดดำจะโหดเหี้ยมแต่ก็ไม่เคยหลอกลวง มิเช่นนั้นคงจะไม่ได้รับความไว้วางพระทัยจากฮ่องเต้

ชายหนุ่มเดินเข้าไปในพระราชวัง มาถึงประตูห้องทรงพระอักษร

จางซิวเย่กัดฟันเอ่ยขู่อย่างลับ ๆ “ฉินเฟิง ถ้าเจ้าเข้าประตูไปอย่างหยิ่งผยองเช่นนี้ ข้าจะถือว่าเจ้าเป็นลูกผู้ชายตัวจริง”

ฉินเฟิงกลอกตามองไปยังจางซิวเย่ แล้วพูดเหยียดหยามต่อหน้าขันทีน้อยและทหารรักษาพระองค์โดยรอบ “นายน้อยอย่างข้าอยากจะหยิ่งผยองอย่างไรหรืออยากจะทำตัวขี้ขลาดตาขาว แล้วมันเกี่ยวอันใดกับขันทีอย่างเจ้า ในเมื่อฮ่องเต้ไม่เดือดร้อน เจ้าเป็นแค่ขันทีผู้หนึ่งจะกังวลอะไร”

เมื่อเห็นจางซิวเย่โกรธจนหน้าแดงหูแดงแล้วเดินจากไป ขันทีน้อยรอบ ๆ ต่างก็มีสีหน้าเหมือนเห็นผี แม้แต่ทหารรักษาพระองค์ก็เบิกตากว้างด้วยความเหลือเชื่อ

ในตอนที่ฉินเฟิงกำลังจะเข้าไป แขนข้างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า ขว้างทางเอาไว้

เมืองเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นว่าเป็น… ศัตรูเก่า!

องครักษ์หน้าพระที่นั่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากขงอู่ที่เกือบจะถูกทหารค่ายเทียนจียิงศรใส่นอกประตูเมืองหลวง

ขงอู่พูดอย่างเย็นชา “พกอาวุธมาหรือไม่?”

ในเมื่อเป็นศัตรูเก่า ฉินเฟิงจึงไม่มีอะไรต้องกังวล อย่างไรเสียปมความแค้นก็ได้ผูกขึ้นแล้ว

ฉินเฟิงยักไหล่ “ข้ามีอาวุธหรือไม่ ทหารรักษาพระองค์จะไม่รู้หรือ องครักษ์หน้าพระที่นั่งไม่รู้หรือ พวกเจ้ามัวแต่ทำอันใดกัน?”

ขงอู่หรี่ตา “ข้าจะถามท่านอีกครั้ง นำอาวุธมาหรือไม่”

เมื่อเผชิญหน้ากับขงอู่ที่กำลังกลั่นแกล้งตนเอง ฉินเฟิงก็เอนตัวนั่งลงบนพื้นแล้วตะโกน “องครักษ์หน้าพระที่นั่งทุบตีคนแล้ว!”

ขงอู่ผงะไป เขากัดฟันกรอด “หึ! ข้าคิดว่าเจ้าเป็นวีรชน แท้จริงแล้วเป็นแค่หมาจิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์ ในอดีตฝ่าบาทลงโทษท่านสามไม้ ข้าปล่อยให้ท่านจัดการเองมาตลอด ต่อไปท่านควรระวังเอาไว้หน่อย เพราะข้าจะเป็นคนลงมือเอง!”

ฉินเฟิงลุกขึ้นจากพื้นดิน คิดกับตัวเองในใจ แม้แต่จางซิวเย่​​​​ก็ยังหาเรื่องมาแล้ว ทำไมต้องกลัวองครักษ์หน้าพระที่นั่งด้วย? นายน้อยเจ้าสำราญพลันสวมท่าทางสุกรไม่หวาดกลัวน้ำเดือด “ไม่ว่าฝ่าบาทจะต้องการลงโทษข้าหรือไม่นั้น หาใช่เรื่องที่เจ้าจะตัดสินใจได้ จางซิวเย่เป็นขันที เจ้าเป็นองครักษ์ ทำไมเล่า คิดว่าตัวเองมีสิทธิ์หรืออย่างไร?”

ขงอู่รู้ว่าฉินเฟิงมีวาจาร้ายกาจ ไม่มีใครสามารถมีชัยเหนือกว่าได้ ดังนั้นเขาจึงไม่พูดต่อ แต่ดวงตาของขงอู่ยังแน่วแน่ “ฉินเฟิงท่านบ้าคลั่งให้พอเถิด ไม่ช้าก็เร็ว ข้าจะทำให้ท่านเข้าใจถึงความแข็งแกร่งขององครักษ์หน้าพระที่นั่ง และวันนั้นถูกกำหนดไว้แล้วว่าจะต้องมาถึง”

ฉินเฟิงโน้มตัวไปข้างหน้า กระซิบข้างใบหูของขงอู่ “ถ้าวันนั้นมาถึง ทหารค่ายเทียนจีจะอัดเจ้าให้เละจนมารดาจำหน้าเจ้าไม่ได้เลยคอยดู”

หลังจากพูดอย่างนั้น ภายใต้สายตาที่เย็นชาอย่างยิ่งของขงอู่ ฉินเฟิงก็เดินอวดเบ่งเปิดประตูก้าวเข้าไปในห้องทรงพระอักษร

ชั่วพริบตาก่อนหน้า ฉินเฟิงไม่เกรงกลัวฟ้าดิน ไม่ยำเกรงผู้ใด

แต่ทันทีที่เขาเข้าไปในประตู ทั้งร่างก็เปลี่ยนพลิกท่าที ค้อมเอวก้มหน้าลงต่ำ “กระหม่อมฉินเฟิง ถวายบังคมฝ่าบาท”

ฮ่องเต้ต้าเหลียงประทับอยู่หลังโต๊ะ อ่านรายงานจากองครักษ์ชุดดำ เขาจึงรู้ว่าฉินเฟิงแสดงความร้ายกาจอย่างไรมาตลอดเส้นทาง

ฉินเฟิงไม่ใช่หนาม เหตุผลที่เขาทำเช่นนี้เพราะต่อต้านฮ่องเต้ต้าเหลียง

เดิมทีฮ่องเต้ต้าเหลียงต้องการตั้งคำถามกับฉินเฟิงเกี่ยวกับหลี่หลาง แต่อีกฝ่ายกลับหาเรื่องคนของเขาแทน

ขณะนี้ฉินเฟิงกำลังโกรธ หากวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงก็ดูจะไม่มีเหตุผลเกินไป ท้ายที่สุดแล้วในตอนนี้ฉินเฟิงมีความสำคัญมากสำหรับแคว้นต้าเหลียง อำเภอเป่ยซีไม่อาจขาดฉินเฟิง ไม่ว่าใครก็ทำอะไรไม่ได้

บทที่ 381 ผิดวิสัย 1

บทที่ 381 ผิดวิสัย 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ