บทที่ 383 กระบี่พาดคอ
เมื่อมองภายในและภายนอกราชสำนัก ไม่เว้นแม้แต่ในหมู่สตรีที่ร่วมพิธีผูกผมในวังหลัง ก็มีเพียงฉินเฟิงเท่านั้นที่เข้าใจฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียง
เพื่อปกป้องตัวเองทุกคนต่างชอบเล่นคำปริศนากับฮ่องเต้และจะไม่พูดอะไรที่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของตัวเอง
มีเพียงฉินเฟิงเท่านั้นที่สามารถแสดงสิ่งที่ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงคิดออกมาโดยไม่สงวนคำพูด เขาถึงขั้นกระทำให้เห็นด้วยซ้ำ
แม้ความสำเร็จของฉินเฟิงในวันนี้จะทำให้ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงรู้สึกหวาดกลัว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหากไม่มีฉินเฟิง ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงจะต้องโดดเดี่ยวอย่างมาก
“ทำไมเจ้าต้องใช้หลี่หลาง? คิดให้รอบคอบก่อนที่จะตอบ!” ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงเปลี่ยนเรื่อง
ฉินเฟิงเอ่ยอย่างไม่ลังเล “เพื่อแคว้นต้าเหลียง!”
“ทำไมต้องเป็นเขาด้วย?” ดวงตาของฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงคมกริบราวกับกระบี่
ฉินเฟิงไม่กลัวกระบี่คม ๆ ที่วางอยู่บนไหล่ กล่าวอย่างหนักแน่นเช่นเคย “ข้าเชื่อใจเขา”
“เจิ้นไม่ไว้ใจเขา!”
“ฝ่าบาทสามารถเชื่อใจข้าได้”
“ความไว้วางใจของเจิ้นในตัวเจ้าเกี่ยวอะไรกับครอบครัวของหมิงอ๋อง?”
“เหตุผลนั้นง่ายมาก ข้ากับฝ่าบาทมีผลประโยชน์ร่วมกัน หากต้าเหลียงแข็งแกร่ง ข้าก็จะแข็งแกร่ง ข้าจะไม่ยอมให้ครอบครัวของหมิงอ๋องทำอะไรที่คุกคามฝ่าบาท หากหมิงอ๋องมีเจตนาลอบวางแผนชั่วจริง ๆ ข้าขอรับรองด้วยชีวิตและทรัพย์สินว่า ข้าจะทำในสิ่งที่ฝ่าบาทปรารถนาจะทำมาโดยตลอดแต่ไม่กล้าทำ”
การกำจัดหมิงอ๋องเป็นการฆ่าพี่น้อง ตามกฎบรรพบุรุษ ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงอาจถูกปลดได้
ด้วยเหตุนี้เอง แม้ฮ่องเต้ต้าเหลียงจะสงสัยหมิงอ๋องนัก แต่ตั้งแต่ต้นจนจบเขาก็เพียงกักบริเวณหมิงอ๋องแทนที่จะปลิดชีพ
พวกเขาสบตากัน ระหว่างกษัตริย์กับขุนนางขวางกั้นด้วยกระบี่อันคมกริบกับความเป็นความตาย
ฉินเฟิงกำลังเดิมพัน ฮ่องเต้ต้าเหลียงก็เช่นกัน
คล้ายกับว่าเวลานั้นหยุดนิ่ง ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไรแล้ว ฮ่องเต้ต้าเหลียงจึงค่อย ๆ ชักกระบี่ของพระองค์กลับ แล้วกล่าวด้วยสายตาที่จริงจังอย่างยิ่ง “ฉินเฟิง เจ้าต้องจำไว้ว่า แม้เจิ้นจะอยู่ในวังต้องห้าม แต่ตราบใดที่เจ้ายังอยู่ภายในแคว้นต้าเหลียง ชีวิตและความตายของเจ้าอยู่แค่เพียงปลายนิ้วของเจิ้น เมื่อใดที่เจิ้นหมดความอดทน ย่อมกำจัดเจ้าได้โดยไม่ลังเล วันนี้เจ้าและเจิ้น ฮ่องเต้และขุนนาง ชี้แจงอย่างชัดเจน ไม่จำเป็นต้องสงสัย! เจิ้นเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมากับเจ้า!”
ฉินเฟิงไม่สงสัยต่ออำนาจของฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียง ตราบใดที่ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงตรัสหนึ่งคำ ไม่ว่าค่ายเทียนจีจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ถล่มทลายลงได้ในพริบตา
แม่ทัพรถม้าศึก แม่ทัพทหารม้า และกองทหารชายแดน ทั้งสามฝ่ายไม่เพียงแต่สามารถข่มขู่กองทัพเป่ยตี๋เท่านั้น แต่ยังติดตามทุกความเคลื่อนไหวในอำเภอเป่ยซีตลอดเวลาด้วย
“ราษฎรผู้ต่ำต้อยขอทูลลาพ่ะย่ะค่ะ”
“รอเดี๋ยว!”
ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงสอดกระบี่ไว้ใต้โต๊ะ หยิบกล่องไม้จันทน์ออกมาแล้วโยนให้ฉินเฟิง “ยาเม็ดนี้สามารถช่วยยืดอายุขัย หากสาวใช้ตัวน้อยของเจ้าไม่ตื่น เจ้าคงไม่รู้จักยับยั้งตัวเอง!”
กล่องไม้ขนาดเล็กนี้บรรจุยาเม็ดสีขาวขนาดเท่าเกาลัดซึ่งมีคำว่า ‘ยาอังกงหนิวหวง’ เขียนอยู่
ฉินเฟิงรู้จักยานี้ ยิ่งใช้มากเท่าไรก็ยิ่งคุ้มค่ามากขึ้นเท่านั้น มีข่าวลือในตลาดว่า ยานี้มีผลทำให้คนตายฟื้นคืนชีพได้ แต่ก็ไม่ได้เหลือเชื่อขนาดนั้น อย่างไรก็ตามมันมีฤทธิ์น่าอัศจรรย์ต่อผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง สลบไสล และมีไข้สูงอย่างไม่ได้สติ ถือเป็นยาทางแพทย์แผนจีนที่สามารถใช้ปฐมพยาบาลได้
เนื่องจากส่วนผสมที่อยู่ภายในค่อนข้างละเอียดอ่อนจึงมักถูกใช้เป็นยาในพระราชวังต้าเหลียง เป็นไปไม่ได้ที่คนทั่วไปจะได้รับ
ยาเม็ดอังกงหนิวหวงนี้ถือได้ว่าเป็นการชดเชยอาการบาดเจ็บของเสี่ยวเซียงเซียงโดยฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียง และยังถือได้ว่าเป็น ‘การคืนดี’ กับฉินเฟิงอีกด้วย
ฉินเฟิงเก็บยาเม็ดอังกงหนิวหวงไว้ใกล้ตัวเขาแล้วโค้งคำนับฮ่องเต้ “กระหม่อมทูลลา”
ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงหรี่ตาลง ฉินเฟิงใช้คำเรียกตนเองสามแบบในวันนี้
แม้จะดูเหมือนทำตามใจนึก แต่ความจริงแล้วแฝงความหมายบางอย่างอยู่ภายใน
การเรียกตัวเองว่าข้าน้อย หมายถึง กายเขาทำงานให้กับฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียง แต่หัวใจไม่ได้ทำ
การเรียกตัวเองว่าราษฎรผู้ต่ำต้อย หมายถึง การแยกทางใครทางมันกับฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียง

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ