บทที่ 386 การวางหมากของแต่ละฝ่าย
หลี่จางกลอกตาหนึ่งรอบแล้วยื่นมือออกมา “ได้ยินมาว่าลูกวาดของร้านเจ้ากลายเป็นของโปรดชิ้นใหม่ของบัณฑิตแถบเจียงหนานแล้ว และอุตสาหกรรมลูกกวาดก็กำลังขยายตัวไปทางเหนือหรือ? ข้าและน้องชายสองคนต้องมุ่งหน้าไปเป่ยซีครานี้ เกรงว่าจะไม่มีโอกาสได้เพลิดเพลินกับสิ่งดี ๆ ที่ว่า จึงถือโอกาสนี้มาขอจากพี่ฉินสักหน่อย”
คำพูดนี้แลดูสุภาพมาก…
ฉินเฟิงกัดฟันกรอด “เจ้าช่างรู้วิธีหาโอกาสจริง ๆ!”
หลี่จางยักไหล่ “ก็ไม่ใช่เพราะพี่ฉินสอนได้ดีหรอกหรือ?”
ถุ้ย! ไร้ยางอาย!
ฉินเฟิงหยิบกล่องเล็ก ๆ ที่บรรจุลูกกวาดประเภทต่าง ๆ นับร้อยเม็ดออกมาอย่างไม่เต็มใจ พี่น้องสกุลหลี่ต่างก็ยิ้มแย้มแจ่มใสด้วยความปีติ
พอไม่มีผลประโยชน์ก็ไม่ยอมทำงาน อะไรกันเนี่ย!
หลังจากส่งสองพี่น้องหลี่กลับไปยังอำเภอฝูอวิ้นแล้ว ทั้งคู่ก็ออกเดินทางมุ่งหน้าตรงไปยังถังชี
ดูเหมือนว่าเขาจะอุดอู้อยู่ที่อำเภอฝูอวิ้นมาเป็นเวลานาน จึงไม่อยากชักช้าอีกจึงรีบออกไปหาความสนุกเพลิดเพลิน
ทันทีที่ทั้งสองจากไป ฉินเฟิงก็รับคนในครอบครัวของหมิงอ๋องทุกคนมาอยู่ค่ายเทียนจี
จริง ๆ แล้วก็มีคนไม่มากนัก ชายาอ๋องด่วนจากไปจึงมีเพียงหมิงอ๋องและผู้ติดตามใกล้ชิดไม่กี่คนเท่านั้น
ในตอนกลางคืน หมิงอ๋องยืนกรานที่จะลากฉินเฟิงไปดื่ม
ตอนที่พวกเขาพบกันครั้งแรก ศีรษะของฉินเฟิงถูกหมิงอ๋องหนีบไว้ใต้วงแขนอย่างแน่นหนา ทั้งยังใช้แรงบีบอีกสองครั้ง จนเกือบทำให้ชายหนุ่มขาดใจตาย
ให้ตายเถอะ ครอบครัวหมิงอ๋องล้วนแต่เป็นสัตว์ร้าย!
หมิงอ๋องนั่งบนเก้าอี้หวาย ถือจอกหลิวหลีอยู่ในมือ มองดูสุราข้างในด้วยความซาบซึ้งในดวงตา
“ฉินเฟิง ข้าอยากพบเจ้ามานานแล้ว แต่พระทัยฮ่องเต้ยากจะคาดเดา ข้าทำได้เพียงหลีกเลี่ยงความสงสัย ตอนนี้เราได้พบกันแล้ว เจ้าช่างเหมือนอย่างที่ข่าวลือพูดกันว่า… สกปรกจริง ๆ”
ฮ่าฮ่าฮ่า ตาเฒ่าคนนี้ช่างรู้จักพูดชมผู้คนเสียจริง!
ฉินเฟิงเหยียดหยาม แอบเอ่ยแขวะกลับไป “เช่นกันขอรับ”
ยิ่งหมิงอ๋องมองดูฉินเฟิงมากเท่าไรก็ยิ่งชื่นชอบมากขึ้นเท่านั้น ถือโอกาสที่ยังเมามายหรี่ตาลงแล้วพูดว่า “หลานคนโต มือและสายตาของเจ้าสอดส่องทั่วหล้า และเจ้ายังสามารถไปถึงสวรรค์ได้โดยตรง เจ้าลองคิดดูสิว่ามีวิธีใดบ้างที่จะทำให้ข้าได้ออกไปข้างนอกสักสองสามรอบ ในช่วงเวลาที่เหลือของชีวิต การรั้งอยู่แต่ในอำเภอฝูอวิ้นทำให้ข้าอุดอู้มากจริง ๆ”
ให้ตายเถอะ… ฉินเฟิงถอยหลังไปสองก้าวอย่างรวดเร็วพลันยกมือขึ้นแสดงท่ายอมแพ้ “ท่านอ๋อง โปรดอย่าทำให้ข้าตกใจกลัวเลย หลานชายพยายามอย่างดีที่สุดที่จะพาหลี่จางกับหลี่หลางออกมา แค่นี้ก็ต้องใช้ทรัพย์สมบัติและชีวิตของหลานชายเป็นหลักประกันแล้ว ท่านใจเย็น ๆ ก่อน อย่าได้ทำร้ายข้าเลย”
หมิงอ๋องแสร้งทำเป็นผิดหวัง แต่ก็ไม่ได้ฝืนขอร้องอีกต่อไป
หลังจากพูดคุยกับท่านอ๋องเฒ่าสองสามคำ ฉินเฟิงก็ใช้ข้ออ้างขอไปถ่ายเบาเพื่อหลบหนี
ปรากฏว่าทันทีที่เขากลับถึงจวนสกุลฉินก็ถูกเสิ่นชิงฉือเรียกไป “ฉินเฟิง… เสี่ยวเซียงเซียงฟื้นแล้ว”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ฉินเฟิงสะดุ้งโหยง เขาพลันรีบมุ่งหน้าไปที่เรือนหลังอย่างไม่รีรอ
เมื่อเห็นเสี่ยวเซียงเซียงนอนอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าสับสน หินก้อนใหญ่ที่กดทับในใจมานาน ในที่สุดก็ได้วางลงกับพื้นเสียที
ฟื้นแล้วก็ดี ฟื้นแล้วก็ดี!


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ