เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 392

บทที่ 392 ฟ้องร้ององค์ชาย

ทันใด ผู้ติดตามนอกเครื่องแบบที่อยู่นอกประตูก็รีบไปเรียกทหารมาบังคับใช้กฎหมาย

ครั้นเห็นว่าองค์ชายสิบเอ็ดเอาจริง เสิ่นชิงฉือและจิ่งเชียนอิ่งที่มาทันทีหลังจากทราบข่าวก็กระวีกระวาดห้ามฉินเฟิงจากการปะทะกับองค์ชาย…หากก้มศีรษะและยอมรับความผิดเสียตอนนี้ยังนับว่าทัน

เสี่ยวเซียงเซียงก็กลัวว่าฉินเฟิงจะชักไฟเข้าหาตัว นางห้ามปรามเขาเสียงเบา

ทว่า ฉินเฟิงยืนกรานจะใช้วิธีของเขาโดยไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย

ไม่ใช่ว่านายน้อยฉินไม่กลัวตายหรือมีอำนาจสูงกลบนาย*[1] ทว่าเขาได้มองทะลุกลอุบายนี้แล้ว

แม้ความแข็งแกร่งขององค์ชายรองจะประสบกับความสูญเสียอย่างรุนแรงจากการล้มลงของเกาหมิง แต่องค์ชายรองกับองค์ชายเจ็ดก็ยังคงเป็นทายาทที่ทรงอำนาจที่สุด

ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะแข่งขันชิงบัลลังก์ เหล่าองค์ชายจึงกระทำการต่าง ๆ อย่างไม่เปิดเผย ด้วยกลัวว่าจะไปปลุกเร้าฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงให้ขุ่นเคือง

แต่ในเวลานี้กลับมีองค์ชายสิบเอ็ดที่ท่าทีไม่อบอุ่นไม่ห่างเหินปรากฏตัวขึ้น

ถ้าหากกล่าวว่าหลิวหลานและเฉินเถิงถูกไท่เป่าหลินยุยงอย่างลับ ๆ

เช่นนั้นองค์ชายสิบเอ็ดที่อยู่ตรงหน้าเขาก็คงถูกฮ่องเต้ต้าเหลียง ‘บอกเป็นนัย’

ให้ใช้ประโยชน์จากความขัดแย้งนี้ ทดสอบ ‘ขีดจำกัด’ ของฉินเฟิง

ช่วงยามนี้เขาจึงไม่สมควรยอมแพ้ ไม่เช่นนั้นต่อจากนี้บรรดาเชื้อพระวงศ์จะมาลอบกัดมากขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อทุกคนคิดว่าฉินเฟิงต้องตายอย่างแน่นอน นายน้อยฉินกลับปลอบขวัญเสิ่นชิงฉือและจิ่งเชียนอิ่งให้ใจเย็น จากนั้นก็ให้ชูเฟิงพาเสี่ยวเซียงเซียงไปพักผ่อนที่ห้องด้านใน ด้วยเสี่ยวเซียงเซียงเพิ่งฟื้นตัว ไม่ควรให้นางวิตกกังวล

สำหรับตัวเขาเองเลือกที่จะนั่งลงบนโต๊ะ หยิบกาน้ำชาขึ้นแล้วดื่มคนเดียว

ท่าทางมั่นใจเพราะมีคนหนุนหลังของฉินเฟิงทำให้องค์ชายสิบเอ็ดโมโหมากขึ้น

องค์ชายสิบเอ็ดกำลังจะเอ็ด แต่ฉินเฟิงก็ชิงเอ่ยก่อนหนึ่งก้าว “องค์ชายสิบเอ็ดดูเหมือนจะบอกว่า ไม่ว่าข้าจะมีคุณงามความดีมากแค่ไหน ตราบใดที่ข้าทำให้พระองค์ไม่มีความสุข ข้าก็สามารถถูกฆ่าได้ด้วยคำเพียงหนึ่งคำ?”

“ทำไมเล่า? พวกข้าอุทิศชีวิตเพื่อต้าเหลียงโดยไม่คำนึงถึงความเป็นและความตาย แต่นี่คือผลตอบแทนหรือ? ดังคำกล่าวที่ว่า วิหคสิ้นเกาทัณฑ์ซ่อน กระต่ายม้วยย่างสุนัข?”

มีบางสิ่งที่สามารถคิดอยู่ในใจหรือกระทำได้ แต่ไม่สามารถพูดออกมาดัง ๆ ได้

องค์ชายสิบเอ็ดละเมิดข้อห้ามใหญ่หลวง นั่นคือการใช้อารมณ์ ความชอบ และไม่ชอบของตนเองในการตัดสินลงโทษ ‘ขุนนางผู้มีคุณูปการ’

ท้ายที่สุดแล้ว เขาเป็นราชวงศ์และคำพูดของเขาก็เป็นตัวแทนของราชวงศ์ต้าเหลียง

โดยเฉพาะในบริบทของสงครามระหว่างสองแคว้น คำพูดดังกล่าวเป็นการเติมเชื้อเพลิงลงในกองไฟโดยแท้

ใบหน้าขององค์ชายสิบเอ็ดซีดขาวในทันที เขากัดฟันเอ่ย “ฉินเฟิง เจ้าเล่นลิ้นให้น้อย ๆ หน่อย! ข้าจะลงโทษเพราะความไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงของเจ้า หาใช่ความชอบและความแค้นส่วนตัว!”

ฉินเฟิงยักไหล่ “ว่ากันว่าคำพูดที่พูดออกมาเหมือนกับน้ำที่สาดออกไป ทุกคนในที่นี้ล้วนได้ยินสิ่งที่องค์ชายเพิ่งกล่าว แม้หอวิจิตรศิลป์จะไม่สามารถพิมพ์และขายหนังสือได้โดยตรง แต่ข้าก็ยังมีสิทธิ์แก้ไขหนังสือเหล่านั้น และยังคบหาใกล้ชิดกับปัญญาชนจากทั่วทุกพื้นที่”

“คำปราศรัยขององค์ชายในวันนี้ ข้าน้อยย่อมต้องรวบรวมเป็นหนังสือ เรียกว่า ‘คำสอนอันประเสริฐขององค์ชายสิบเอ็ด’ แล้วส่งให้คนทั่วหล้าได้อ่าน!”

ดวงตาขององค์ชายสิบเอ็ดเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า แต่เขากลับไม่สามารถทำอันใดฉินเฟิงได้

ตราบใดสิ่งที่เขาเพิ่งพูดแพร่กระจายไปทั่วหล้า มันจะต้องแช่แข็งหัวใจของขุนนางและแม่ทัพผู้มีคุณูปการให้เย็นเยือกอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นฝ่าบาทจะต้องพิโรธเป็นแน่

แล้วยิ่งอยู่ในภาวะสงครามเช่นนี้ด้วยแล้ว การเอาใจทหารและเอาชนะใจประชาชนยิ่งสำคัญมากขึ้นเป็นเท่าตัว

องค์ชายสิบเอ็ดสูดหายใจเข้า ระงับจิตสังหารภายใน เค้นรอยยิ้มที่น่าเกลียดอย่างยิ่งออกมา “ฉินเฟิง ไม่จำเป็นต้องรวบรวมมันลงในหนังสือหรอก ก่อนหน้านี้ข้าพลั้งวาจาไปโดยไม่ไตร่ตรอง หากเจ้าปล่อยเฉินเถิงกับหลิวหลานไป เรื่องของวันนี้ก็ช่างประไร”

ช่างมันรึ? ฝันไปเถอะ!

บทที่ 392 ฟ้องร้ององค์ชาย 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ