เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 403

บทที่ 403 ศึกเดือดดาลระหว่างพลพรรค

ขณะที่ฝ่ายสนับสนุนสงครามโต้เถียงอย่างมิมีใครยอมใครกับฝ่ายไท่เป่า ผู้ดูแลสำนักไท่ฉางก็ก้าวเท้าไปอยู่ใต้บัลลังก์ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียง ยื่นสองมือออกไปแล้วค่อย ๆ หุบเข้าหากันทำการคำนับครั้งใหญ่ “ในเมื่อไท่เป่าหลินต้องการปฏิบัติตามระเบียบที่ฮ่องเต้องค์ก่อนทรงตั้งเพื่อระงับพระกระแสรับสั่งของฝ่าบาท เป็นอันมิต้องสงสัยว่าเห็นระเบียบที่ฮ่องเต้องค์ก่อนทรงตั้งเป็นพระดำริที่มิอาจฝ่าฝืน ทว่าฮ่องเต้องค์ก่อนทรงกำหนดไว้ชัดเจนว่า มีเพียงซานกงรวมอำนาจจึงจะใช้ระเบียบนี้ได้ แต่ไท่เป่าหลินเลี่ยงสาระสำคัญ เลือกกล่าวถึงข้อที่เอื้อประโยชน์แก่ตนเองเท่านั้น นี่มิต่างจากฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบ!”

“แคว้นต้าเหลียงของเราให้ความสำคัญกับพิธีรีตองและคุณธรรม และยิ่งให้ความสำคัญกับกฎหมายข้อบังคับ ไฉนเลยจะจาบจ้วงความสำคัญของระเบียบที่ฮ่องเต้องค์ก่อนทรงตั้งขึ้นเช่นนี้?!”

สำนักไท่ฉางดูแลเรื่องพิธีการ เครื่องบูชา และการจัดสอบ วาจานี้ให้เขาเป็นผู้กล่าวย่อมเหมาะสมที่สุด

ต่อให้ฝ่ายไท่เป่ามีท่าทีแข็งกร้าว เวลานี้เมื่อถูกผู้ดูแลสำนักไท่ฉางรุกฆาตก็จำต้องสงบลง

ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงเห็นทั้งสามฝ่ายโต้เถียงกันอย่างมิมีใครยอมใคร ภายนอกดูเหมือนคิ้วขมวดมุ่น สายตาเคร่งเครียด แต่แท้จริงแล้วในใจปลื้มปริ่มยิ่งนัก ภาพที่ขุนนางตีกันเองในราชสำนักเป็นที่ชอบใจของฮ่องเต้ต้าเหลียงเป็นที่สุด

ขณะที่ฮ่องเต้ต้าเหลียงเตรียมลงมติ ไท่เป่าหลินก็กลับเสริมอีกประโยคว่า “ต่อให้ต้องแต่งตั้งทูตปราบกบฏพิเศษก็ควรเลือกผู้ทรงธรรมในราชสำนัก ฉินเฟิงหนึ่งมิมีตำแหน่ง สองมิมีบรรดาศักดิ์ ยากจะรับหน้าที่อันใหญ่หลวงนี้ เกรงว่ามิอาจเป็นที่ยอมรับของผู้อื่น”

ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงเงียบลงอีกครั้ง ใช่ว่าไร้หนทาง เพียงแต่ชมชอบสถานการณ์ดูเสือกัดกันเช่นนี้

ฉินเทียนหู่ค้านทันที “ไม่มีตำแหน่งบรรดาศักดิ์รึ ไท่เป่าหลินพูดได้อย่างไร หนึ่ง ฉินเฟิงเป็นผู้บัญชาการค่ายเทียนจี สอง เป็นเสาหลักของอำเภอเป่ยซี สาม เป็นผู้ตรวจสอบพฤติกรรมขุนนาง”

ทันทีที่สิ้นเสียง ไท่เป่าหลินก็แย้งขึ้น “ทั้งหมดล้วนเป็นตำแหน่งที่ปราศจากอำนาจแท้จริง”

ฉินเทียนหู่หรี่ตา “แล้วเข็มขัดทองคำนับเป็นอำนาจแท้จริงจริงหรือไม่?”

ไท่เป่าหลินสายตาแน่วแน่ “ย่อมไม่นับ! เข็มขัดทองคำนับเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศ!”

ฉินเทียนหู่เปลี่ยนประเด็น ถามอีก “แล้วสือฮู่นับหรือไม่?”

ไท่เป่าหลินยิ้มเย็นอย่างอดมิได้ “บรรดาศักดิ์เท่าเม็ดถั่วเขียวนับว่ามีอำนาจด้วยหรือ”

ฉินเฟิงต้องหลีกเลี่ยงคำครหา ย่อมทำได้เพียงยืนฟัง ปล่อยให้พลพรรคของตนในราชสำนักช่วยโต้แทน นี่เป็นสาเหตุที่ฉินเฟิงต้องตั้งพลพรรคเถาหลินขึ้นมา

เมื่อเผชิญกับวาจาคาดคั้นของไท่เป่าหลิน ผู้ดูแลสำนักศึกษาหลวงก็ก้าวออกมาฉับพลัน น้ำเสียงไม่ถือตัวแต่ก็ไม่เกรงกลัว

“ที่ไท่เป่ากล่าวมานั้นไม่ถูก! ตำแหน่งขุนนางที่ต้องลงบันทึกในรายนามของกรมขุนนางล้วนเป็นขุนนางมีอำนาจ ระดับขั้นและอำนาจของตำแหน่งมิอาจใช้แบ่งแยกเกียรติ แม้นสือฮู่จะเป็นขุนนางขั้นต่ำ กระนั้นก็มิได้ต่างจากขุนนางคนอื่น ๆ ล้วนได้รับเบี้ยหวัดจากน้ำพักน้ำแรงของราษฎรแคว้นต้าเหลียง หากในแนวหน้าทางเหนือ ฉินสือฮู่ถูกศัตรูเป่ยตี๋คุกคาม แล้วแคว้นต้าเหลียงของเราจะนิ่งดูดาย เพิกเฉยต่อความเป็นความตายของราษฎรได้หรือ”

“ในเมื่อเป็นประชาราษฎร์แห่งแคว้นต้าเหลียง ได้รับเบี้ยหวัดจากน้ำพักน้ำแรงของราษฎร แม้เป็นเพียงสือฮู่ก็เป็นบรรดาศักดิ์อันยิ่งใหญ่! บัณฑิตจวี่จื่อก็เป็นขั้นต่ำ ดังนั้นต้องมิได้รับความสำคัญหรือ เช่นนั้นเหตุใดนับตั้งแต่รัชสมัยของฮ่องเต้องค์ก่อนถึงมีการแบ่งเงินไปเลี้ยงดูบัณฑิตจวี่จื่อทุกปีเล่า อย่าได้มองว่าความดีเล็กน้อยเลยมิทำ อย่าได้มองว่าความชั่วเล็กน้อยจึงกระทำ การเป็นขุนนางก็ต้องยึดถือหลักการนี้เช่นกัน”

ฉินเฟิงลอบสะท้อนใจ สมเป็นผู้ดูแลสำนักศึกษาหลวง ถ้อยคำมีเหตุมีผล แม้แต่จิ้งจอกเฒ่าอย่างไท่เป่าหลินก็ยังยากจะรับมือ

เมื่อเห็นว่าฉินเฟิงได้เปรียบกว่าในด้านกฎระเบียบแล้ว

ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงย่อมไม่ลังเลอีก “ท่านผู้ดูแลกล่าวได้ถูกต้อง แม้นตำแหน่งสือฮู่จะเป็นขุนนางขั้นต่ำ กระนั้นก็ยังเป็นบรรดาศักดิ์ที่ถูกบันทึกในรายนามขุนนางแคว้นต้าเหลียง การให้ฉินเฟิงรับตำแหน่งทูตปราบกบฏพิเศษนับว่าสมเหตุสมผล”

เมื่อมิอาจยับยั้งในท้องพระโรงแล้ว ไท่เป่าหลินก็มิได้ดึงดัน ยอมถอยให้และประสานมือคำนับ “เช่นนั้นขอให้ใต้เท้าทุกท่านโปรดจำหนังสือคำมั่นของฉินเฟิงไว้ หากไม่อาจเด็ดหัวหวงเฉิง หัวหน้ากบฏมิได้ในสิบวัน หัวของฉินเฟิงจักถูกเด็ดแทน!”

บทที่ 403 ศึกเดือดดาลระหว่างพลพรรค 1

บทที่ 403 ศึกเดือดดาลระหว่างพลพรรค 2

บทที่ 403 ศึกเดือดดาลระหว่างพลพรรค 3

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ