บทที่ 405 มดเขย่าต้นไม้
ในแง่ของยศ ฐานะ หรืออำนาจทางทหาร แม่ทัพรถม้าศึกล้วนทิ้งห่างฉินเฟิงไปไกลโข การนำทหารม้าห้าร้อยนายบุกค่ายแม่ทัพ ในสายตาของหน่วยสอดแนมก็ไม่ต่างจากมดเขย่าต้นไม้ รนหาที่ตายชัด ๆ
แต่ฉินเฟิงไม่สนใจแม้แต่น้อย
ช่วงเวลานี้ ในกระโจมหลักของค่ายทหาร แม่ทัพรถม้าศึกกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่หลังโต๊ะและศึกษาตำราพิชัยสงคราม
ผู้ส่งสารรีบเข้าไปในกระโจมแล้วพูดว่า “แจ้งท่านแม่ทัพ ทูตปราบกบฏพิเศษ ฉินเฟิง มาถึงแล้วขอรับ”
แม่ทัพรถม้าศึกถือตำราพิชัยสงครามในมือแน่น ในใจรู้สึกกังวลแปลก ๆ เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองผู้ส่งสาร “ทูตปราบกบฏพิเศษ? ฮ่องเต้ออกพระราชโองการเมื่อใด? ทำไมแม่ทัพอย่างข้าถึงไม่รู้เล่า”
แววตาผู้ส่งสารเคร่งขรึม “ฉินเฟิงเร่งเดินทางด้วยสัมภาระน้อยชิ้น เกรงว่าจะเร็วกว่าผู้ส่งสาร ในเวลานี้… รับสั่งของฮ่องเต้อาจจะยังคงอยู่ระหว่างทาง”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ แม่ทัพรถม้าศึกก็ตะคอก “ในเมื่อรับสั่งของฮ่องเต้ยังมาไม่ถึง เช่นนั้นทูตปราบกบฏพิเศษอันใด ข้าก็ไม่รู้เรื่อง บอกให้เด็กฉินเฟิงนั่นหาที่พัก อยากไปอยู่ไหนก็ไป อย่ามารบกวนความสงบของข้า”
ผู้ส่งสารลังเลเล็กน้อย อยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก “เกรงว่าสำหรับเรื่องนี้ท่านแม่ทัพจะต้องออกหน้าด้วยตนเอง ฉินเฟิงไม่รอรายงาน ทว่าได้นำคนของเขาบุกเข้ามาในค่ายทหารแล้ว มีรองแม่ทัพหลายคนไปหยุดยั้งเขา ปรากฏว่า… ถ้าไม่ถูกต่อยตี ก็…”
ก่อนที่ผู้ส่งสารจะพูดจบก็มีเสียง ‘ปึง’ ดังขึ้น แม่ทัพรถม้าศึกกระแทกตำราพิชัยสงครามลงบนโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืนทันที เขาเบิกตาจ้องมอง “ไร้เหตุผลยิ่งนัก! ฉินเฟิงกินดีหมีหัวใจเสือมารึ ถึงได้กล้าโจมตีคนของข้า? คนพวกนั้นมัวทำอะไร? ทำไมยังไม่จับเด็กจอมยโสโอหังผู้นั้นมาลงโทษอย่างรุนแรงอีก!”
ผู้ส่งสารปาดเหงื่อเย็นออกจากหน้าผาก “ฉินเฟิงนำทหารม้าทมิฬห้าร้อยนายมาด้วย ถ้าดำเนินการอย่างหุนหันพลันแล่น อาจทำให้เกิดความขัดแย้งได้ขอรับ”
สีหน้าของแม่ทัพรถม้าศึกเปลี่ยนเป็นสีขี้เถ้า ทหารม้าทมิฬห้าร้อยนายรึ? แม้ว่าทหารม้าเหล่านั้นในอำเภอเป่ยซีจะหลอมจากทองคำ แต่เมื่อเข้ามาในค่ายทหารของเขาก็เป็นแค่เศษขยะ
ทว่ากองทัพใต้บังคับบัญชาของแม่ทัพรถม้าศึกที่องอาจ กลับกลัวกองทหารม้าทมิฬห้าร้อยนายหรือ? นอกจากจะน่าโมโหแล้ว ยังน่าขันยิ่งนัก!
นี่เอาอำนาจกองทัพไปวางไว้ที่ใดกัน?
เมื่อแม่ทัพรถม้าศึกกำลังจะออกคำสั่งให้ปราบพยศฉินเฟิง กุนซือของเขาก็รีบเข้ามาแล้วพูดว่า “ท่านแม่ทัพไม่ได้นะขอรับ”
“ฉินเฟิงเร่งเดินทางมาหลายพันลี้ เร็วกว่าผู้ส่งสาร คาดว่ามาเพื่อปราบกบฏในอำเภอผิงหนาน ตำแหน่งทูตปราบกบฏพิเศษนี้มิใช่ว่าได้มาอย่างไร้เหตุผลเป็นแน่ หากท่านแม่ทัพลงมือกับฉินเฟิง ก็จะเท่ากับเป็นกบฏ!”
“หากแม่ทัพอยู่ข้างนอก ไม่เชื่อฟังคำสั่งกองทัพ ฮ่องเต้ก็ทำได้แค่ลืมตาข้างปิดตาข้าง แต่หากแม่ทัพถูกตั้งข้อหากบฏ เรื่องนี้จะเปลี่ยนไป ไม่ว่าฮ่องเต้จะเผชิญแรงกดดันจากทุกฝ่ายมากเพียงใดก็จักต้องรวบรวมกองทัพใหญ่เพื่อทำสงครามปราบปรามแน่นอน จะปล่อยให้เกิดสงครามทั้งภายในและนอกมิได้นะขอรับ!”
“นอกจากกองทัพในเมืองหลวงและกองทหารในสามสิบหกอำเภอแล้ว ยังมีพรรคของฮ่องเต้ในจงหยวนอีกด้วย อูฐผอมโซตายไปตัวยังใหญ่กว่าม้า*[1] ท่านไม่อาจทำให้ฮ่องเต้ขุ่นเคืองพระทัยเด็ดขาด!”
เมื่อต้องเผชิญกับคำวิงวอนของที่ปรึกษา แม่ทัพรถม้าศึกก็คิดอย่างลึกซึ้ง รู้สึกว่าเดิมพันในเรื่องนี้สูงมาก จึงทำได้เพียงระงับความโกรธในใจเท่านั้น
ในเมื่อรองแม่ทัพไม่สามารถหยุดฉินเฟิงได้ แม่ทัพรถม้าศึกจึงตัดสินใจออกไปพบกับอีกฝ่ายด้วยตนเอง
“ฮึ! ข้าใช้เวลาทั้งชีวิตในฐานะทหาร จะยอมให้เด็กหนุ่มมาหาเรื่องได้อย่างไร?”
แม่ทัพรถม้าศึกสวมชุดเกราะและยกดาบขึ้น เหวี่ยงม่านประตู ออกไปพร้อมทหารองครักษ์ห้าสิบนายที่มุ่งหน้าตรงไปยังประตูค่าย
ช่วงเวลานี้ฉินเฟิงและคนอื่น ๆ ถูกรายล้อมไปด้วยกลุ่มทหารอยู่บริเวณประตูค่าย
มีพลธนูหลายร้อยนายเล็งเป้าไปที่ฉินเฟิง ขอแค่มีคำสั่งเพียงคำเดียว ฉินเฟิงก็จะถูกห่าลูกศรยิงใส่ในทันที
นายน้อยเจ้าสำราญนั่งบนหลังม้า หันหน้าไปทางทหารที่ตั้งขบวนเผชิญหน้า ไม่เพียงแต่ไร้ความกังวล ทว่าสีหน้าของชายหนุ่มกลับดูผ่อนคลายราวกับกำลังยิ้ม
“พี่อวี้หลง เห็นหรือยังเล่า นี่ก็คือทหารใต้บังคับบัญชาของแม่ทัพรถม้าศึก ยามเผชิญหน้ากับกองทัพเป่ยตี๋ไม่กล้าแม้แต่จะผายลม รู้จักแต่ซ่อนตัวเป็นเต่าหดหัวอยู่ข้างหลัง แต่ยามเผชิญหน้ากับพวกเดียวกันกลับแยกเขี้ยวยิงฟัน”
ดวงตาของจ้าวอวี้หลงสงบนิ่ง แม่ทัพหนุ่มเอ่ยอย่างสบาย ๆ “แม่ทัพรถม้าศึกเป็นเสาหลักของแคว้น เคยมีความชอบทางทหารอันยิ่งใหญ่แก่ต้าเหลียง ในครานั้นข้าเองก็ชื่นชมสุดหัวใจ แต่เมื่อชราลงแล้ว กลับไม่รู้จักถนอมชื่อเสียงของตนเอง… โลหิตที่เคยเดือดพล่านในอดีต… ยามนี้รู้จักแค่ใช้อำนาจบารมี นี่ถือเป็นปัญหาทั่วไปของแม่ทัพทหารผ่านศึก”
เมื่อเผชิญกับการเยาะเย้ยของฉินเฟิงและจ้าวอวี้หลง ทหารทุกคนก็หน้าแดงหูแดง


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ